1 ธ.ค. 2023 เวลา 15:06 • ประวัติศาสตร์

จักรพรรดิ Constantine ผู้เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

อีกผู้หนึ่งซึ่งโดดดังไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งแย่งกันเด่นก็คือ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเคยสถิตย์อยู่ในโรมันฟอรัม แต่ตอนนี้ได้แตกสลายไปตามสังขารอันไม่เที่ยง คงอยู่แต่เพียงเศษซากมโหฬารหลายชิ้นมาแสดงไว้ที่คอร์ทอาคาร
ภาพถ่ายโดย Karin Karintasut
ชิ้นส่วนแรกที่เราเห็นคือศีรษะหล่อเหลาขนาดมหึมา คางบุ๋มเสริมเสน่ห์ แต่นัยน์ตาที่เพ่งมองจ้องมองมามีความแข็งกร้าว ชิ้นส่วนที่สองตั้งอยู่ข้างๆคือท่อนมือซึ่งมีขนาดใหญ่โตอีกเช่นกัน กำลังชูนิ้วชี้ขึ้นไปบนฟ้า ราวกับจะชวนให้เรามองตามขึ้นไปยังสวรรค์ และชิ้นส่วนแตกหักอีกหลายชิ้นมาตั้งกองไว้ชวนให้อนาถใจ แม้ว่าการจัดวางจะทำได้ไม่งามทันสมัยแต่ขนาดของมันนั้นก็ทำให้เราตะลึงใจ ลองจินตนาการดูว่าสมัยที่มันยังคงสภาพสมบูรณ์จะใหญ่โตเพียงไหน
แล้วท่านผู้นี้คือใครล่ะ
ยังจำได้ไหมในบทก่อน ที่เคยเล่าถึงประติมากรรมของจักรพรรดิองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่เลื่องลือและเป็นประธานของโรมันฟอรัม และได้บอกไว้ให้จำชื่อนี้ไว้ให้ดี หลายคนคงทายถูกนะ
ใช่แล้วละ (คำตอบสำหรับผู้ทายถูกเท่านั้นนะ) นี่คือพระจักรพรรดิคอนสแตนตินคนดังนั่นเอง
จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช (Constantine) เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของโรมันที่นับถือศาสนาคริสต์ และยังออกกฎหมายในปี 313 ให้ชาวโรมันสามารถเป็นคริสเตียนได้โดยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆถูกฆ่าแสนทรทานอย่างแบบพระเยซูอีกต่อไป คนที่อ่านคัมภีรไบเบิ้ลหรือรู้จักประวัติพระเยซูคงจะรู้ดีว่า ผู้ที่ทรมานพระองค์บนไม้กางเขนและสังหารพระเยซูก็คือพวกโรมันนะแหละ ซึ่งหลังจากนั้นพวกคริสเตียนก็ถูกเข่นฆ่ากวาดล้างมาตลอด
การเป็นคริสเตียนของกษัตริย์โรมันพระองค์นี้จึงพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินสร้างโฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์โลกไปเลยทีเดียว มันคือจุดเริ่มของการสร้างพลังของศาสนาคริสต์ซึ่งจะได้ส่งกระแสคลื่นแห่งศรัทธาและเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบในเวลาต่อมา กลายเป็นศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุด สร้างอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนมหาศาล
หลังจากนี้แล้ว เทพเจ้าอพอลโล ซีอุส วีนัส มาร์ และอื่นๆที่เคยเป็นตัวละครสำคัญในงานศิลปะโรมันมานาน ก็จะมีคู่แข่งสำคัญคือพระเยซูกับเหล่านักบุญเข้ามาแย่งซีน เรียกได้ว่านี่คือการ Disrupt โลกโบราณโลกเก่าเข้าสู่โลกอีกใบซึ่งเปลี่ยนจากเดิมไปตลอดกาล
หากมองศีรษะและมือในสเกลระดับยักษ์ชี้ไปที่บนฟ้าแล้ว อาจทำให้จินตนาการได้ว่าช่วงเวลาที่พระองค์ยังคงเต็มองค์ว่าขนาดที่มีสภาพสมบูรณ์จะเป็นอย่างไร มีคนคาดว่าพระองค์คงประทับบนบัลลังก์ มีเสื้อคลุมไหล่ แขวนขวาถือคทาและแขนข้างถือลูกโลก ลองคิดดูละกันว่าขนาดที่เห็นอยู่นี่ ตัวเรายังมีขนาดเล็กกว่าใบหน้าของพระองค์เลย แล้วถ้าไปอยู่ตรงหน้าท่านในยุคนั้นจะมีอาการเกร็งแค่ไหนที่ได้พบประติมากรรมขนาดยักษ์เสกลนี้
จินตนาการจากชิ้นส่วนที่หลงเหลือ จริงๆมีคนวาดจำลองไว้หลายแบบนะ แต่ยังไม่เคยมีศิลปินคนไหนวาดมือขวาให้เป็นรูปชี้นิ้วออกมาได้เลย
ผลงานล้ำสำคัญอย่างยิ่งยวดอันหนึ่งของจักรพรรดิคอนสแตนตินก็คือ พระองค์ทรงก่อตั้งกรุงโรมใหม่ ซึ่งก็คือกรุงโรมที่ไม่ได้อยู่ในกรุงโรม อ้าว อย่าเพิ่งงง ขออธิบายอีกแบบว่าทรงตั้งศูนย์กลางจักรวรรดิโรมันแห่งที่สองในพื้นที่อันห่างไกลด้านทิศตะวันออก ลองคิดดูแล้วกันว่าจักรวรรดิโรมันในสมัยนั้นมันจะต้องยิ่งใหญ่แค่ไหนถึงขนาดที่ต้องไปตั้งเมืองหลวงแห่งที่สอง
1
ก็เป็นเพราะในเวลานั้นจักรวรรดิโรมันยิ่งใหญ่จริงๆ การแผ่ขยายอำนาจไปถึงทวีปเอเชียและอัฟริกาอย่าง กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ทำให้จักรพรรดิพระองค์เดียวปกครองไม่ไหว ก็เลยก่อต้องตั้งสาขาของกรุงโรมไว้ในทวีปเอเชียตรงที่เป็นรอยต่อกับยุโรป ชื่อว่ากรุงคอนสแตนติโนเบิล (Constantinople) ตามชื่อของจักรพรรดิคอนสแตนตินั่นเอง
การก่อตั้งกรุงคอนสแตนติโนเปิลนับโชคของอารยธรรมโรมันอย่างแท้จริง เพราะในช่วงเวลาต่อมาหลังจากที่อาณาจักรโรมันล่มสลายลง อาณาจักรโรมันตะวันออกจะยังคงอยู่อีกยาวนานนับพันปีต่อมา และได้กลายเป็นศูนย์กลางการแผ่ขยายอิทธิพลของศาสนาคริสต์ในเวลาต่อไปภายใต้จักรวรรดิไบแซนไทน์ แถมยังมีรูปแบบศิลปะเฉพาะตัวที่เรียกว่าศิลปะไบแซนไทน์ (Bizantine Arts) ซะอีก
อุ๊ย มันน่าสนใจม๊ากมาก แต่ว่าเรื่องนี้มันยาว เอาไปเล่าเป็นหนังอีกม้วนแล้วกันนะ อ่อ ถ้าใครอยากไปชมกรุงโรมแห่งที่สอง ไปได้เลยที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี นี่ละคือชื่อปัจจุบันของกรุงคอนสแตนติโนเปิล
รูปพระเจ้าคอนสแตนตินมหาราช ในแบบศิลปะไบเซนไทน์ เป็นภาพจากการประดับกระเบื้องโมเสค ซึ่งเป็นรูปแบบที่โดดเด่นของศิลปะยุคนี้ : wikipedia.com
เรามาพูดถึงประติมากรรมกันก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็ขอเลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์ศิลป์กันสักหน่อย ความพิเศษของพระเศียรนี้นอกจากเรื่องของขนาดแล้วยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่ง คือมันแสดงสไตล์ของประติมากรรมในยุคใหม่ สังเกตดูสิฮะว่าใบหน้าพระองค์ดูแล้วงดงามมากน้อยไปกว่าเทพเจ้ากรีกโรมันที่เราเคยเห็นอย่างไรบ้าง?
จักรพรรดิพระองค์ก่อนๆ : https://www.thecollector.com/roman-emperors/
จักรพรรดิคอนสแตนติน : wikipedia.com
แยกความแตกต่างกันออกใช่ไหม ใบหน้าที่ตาเบิ่งโพลง คางบุ๋มจมูกใหญ่ ใบหน้าตรงจ้องมองแข็งทื่อ ช่างต่างจากกษัตริย์อีกพระองค์ซึ่งดูเป็นมนุษย์จริงมากกว่า ใครบางคนอาจคิดว่าทำไมชาวโรมันฝีมือตกต่ำลง เพราะดูไม่ธรรมชาติ ไม่เหมือนมนุษย์จริงแบบที่เคยเป็นมา
นี่ไงล่ะ งานรุ่นใหม่ของโรมันได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว พระเศียรนี้ก็แสดงการเปลี่ยนผันของสไตล์ได้ดีทีเดียว เราจะพบใบหน้าที่แข็งแกร่งเกินพลังมนุษย์ ซึ่งนี่ก็คือรูปลักษณ์ของเทพเจ้า ซึ่งจะว่าไปแล้วอีกทีก็ใช่ เพราะในเวลาต่อมาพระองค์ก็ได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ และจากจุดนี้เองประติมากรรมโรมันรุ่นใหม่ก็จะมีลักษณะเช่นนี้ต่อไปอีกนาน กลายเป็นงานที่ดูไม่ค่อยสมจริง เหมือนกับว่าฝีมือไม่ถึง ซึ่งเป็นลักษณะของงานโรมันในยุคคริสเตียนต่อมา
อย่างนี้จะถือว่านี่คือยุคเสื่อมหรือเปล่า คนบางคนก็คิดเช่นนี้ แต่ในอีกทัศนะเราก็สามารถอธิบายได้อีกแบบว่า ในช่วงเวลานั้นความเหมือนจริงแบบมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อมีชีวิตอยู่จริงไม่ได้เป็นคุณค่าหลักอีกต่อไป การใช้สัญลักษณ์มาบ่งชี้ว่าใครเป็นใครนั่นแหละสำคัญกว่า
นี่คือการสร้างรูปเคารพในแบบสัญลักษณ์ (icon) มิใช่รูปเคารพในแบบมนุษย์จริง การแสดงความงาม คุณค่า เรื่องราว ก็เปลี่ยนไป สิ่งบ่งชี้ว่าใครเป็นใครจะใช้สัญลักษณ์บางประการซึ่งเป็นที่รู้กัน และมันจะโดดเด่นมากในงานศิลปะโกธิค ซึ่งรอต่อไปเถิด เพราะจะเอาไว้เล่าอธิบายภายหลังนะจ๊ะ
สรุปของบทนี้ คือ ทิ้งอะไรค้างคาไว้ให้มาอ่านอีกต่อไป แต่จะเป็นตอนไหนก็ยังไม่รู้ ขอบอกว่าคนเขียนก็ยังไม่รู้อีกแหละ แต่พอถึงเวลามันก็จะมาเอง ติดตามเป็นแฟนกันยาวๆนะ แล้วรู้กัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา