1 ธ.ค. 2023 เวลา 15:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หนังสือเล่มที่ ๓๙ “บัฟเฟตต์-โซรอส ลงทุนถูกนิสัย ยังไงก็ชนะ”

The Winning Investment Habits of Warren Buffett & George Soros
เนื้อหา : การลงทุนในหุ้นและตราสาร
จำนวนหน้า : ๔๕๓ หน้า
ความยากในการอ่าน : ๓ เต็ม ๕ อ่านเพลินๆรู้ตัวอีกทีจบเล่มแล้ว
หนังสือจะพาเราไปพบกับรายละเอียดการลงทุนของทั้งสองที่มีความแตกต่างกันแต่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ภายในหนังสือทำให้อยู่ใกล้แนวความคิดของปู่บัฟเฟตต์ขึ้นไปอีก ปกติไม่ค่อยได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับการอ่านหนังสือของปู่เท่าไหร่เพราะส่วนมากเป็นน้ำๆ เนื้อหามีนิดเดียว แต่ในเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยแนวความคิดอีกทั้งยังเอาพ่อมดแห่งวงการเงินมาเปรียบเทียบซึ่งมันทำให้น่าสนใจเป็นอย่างมากกก
ในหนังสือมีเนื้อหาเยอะและอัดแน่นไปหมด ผมจะขอยกเอาสิ่งที่น่าสนที่สุดในหนังสือมาเป็นบทนำ เพื่อหวังว่า มันจะชนะใจคุณ จนทำให้คุณอยากอ่านมันลึกซึ้งขึ้น และหยิบมันมาอ่านในที่สุด
หนังสือจะพาเราไปพบกับรายละเอียดการลงทุนของทั้งสองที่มีความแตกต่างกันแต่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ภายในหนังสือทำให้อยู่ใกล้แนวความคิดของปู่บัฟเฟตต์ขึ้นไปอีก ปกติไม่ค่อยได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับการอ่านหนังสือของปู่เท่าไหร่เพราะส่วนมากเป็นน้ำๆ เนื้อหามีนิดเดียว แต่ในเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยแนวความคิดอีกทั้งยังเอาพ่อมดแห่งวงการเงินมาเปรียบเทียบซึ่งมันทำให้น่าสนใจเป็นอย่างมากกก
ข้อที่ ๑ หุ้นตัวนี้มีดียังไงทำไมถึงเต็มใจที่จะซื้อมัน และ จ่ายในราคานี้ ………
** เมื่อคุณทบควรสิ่งเหล่านั้นอย่างดีพอแล้วจงตั้งคำถามนี้ซ้ำไปซ้ำมาถามวนไปวนมา มันอาจจะทำให้คุณได้คิดถึงรายละเอียดที่มากขึ้น อีกครั้ง และ อีกครั้ง การตอบคำถามข้อนี้ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงในการเข้าซื้อสินค้าที่แพงกว่ามูลค่า หือ ต่ำกว่ามูลค่าได้ดี และ ที่สำคัญเมื่อคุณ #ตัดสินใจซื้อหุ้นตัวนั้นไปแล้วอำนาจเงินทั้งหมดไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป จงคิดให้ดีว่าทำไมเราต้องซื้อมัน (นำไปใช้กับการเลือกซื้อสินค้าอื่นๆได้ใน)
ข้อที่ ๒ เมื่อคุณซื้อหุ้นตัวนั้นมาแล้ววันหนึ่งมันเติบโตตามที่คุณตั้งใจ หรือ มันกลับทำผลงานได้ไม่ดีตามที่คุณตั้งใจ และ คุณกำลังจะขายมัน #คุณมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ต้องขายมัน
** นักลงทุนส่วนใหญ่มีความกระหายที่จะ ซื้อ ซื้อ ซื้อ แต่ไม่เคยได้คิดเลยว่าเราจะขายมันเมื่อไหร่ และ บางครั้งการขายนั้นก็เป็นการขายที่ผิดที่ ผิดเวลา ซึ่งล้วนแล้วมาจาก อารมณ์พาไป #ถ้าซื้อหุ้นมาแล้วไม่รู้ว่าจะขายเมื่อไหร่ก็อย่าไปซื้อมัน การจดบันทึกหลักเกณฑ์การขายทุกครั้งช่วยให้คุณกลับมาตรวจสอบข้อมูลตัวเองได้ในอนาคต และ จะช่วยสร้างวินัยให้เป็นนักลงทุนที่ดีได้ แต่ทำสิ่งนี้
ข้อที่ ๓ คุณคาดหวังกับการลงทุนของคุณจะเป็นอย่างไร
** คุณคิดว่าบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุนจะโตอีกกี่เท่า กี่ % ส่วนแบ่งทางการตลาดจะเพิ่มขึ้นไหม ความนิยมของบริษัทนั้นๆจะเป็นเช่น เขียนมันให้ชัดเจน เพราะตอนที่มันเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องพิจารณาว่า มันใช่สิ่งที่คุณคาดหวังไว้หรือไม่
ข้อที่ ๔ คุณคิดว่า หุ้น ตัวที่คุณเข้าไปลงทุนนั้น จะมีอะไรเกิดขึ้นกับมันบ้าง
** หัวข้อนี้คุณอาจจะใช้พื้นที่ในการเขียนมันเยอะหน่อยนะ เพราะมันมีเรื่องราวต่างๆในเหตุการณ์ลงทุนในหุ้นนับไม่ถ้วน มีสิ่งต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และ มันจะทำให้คุณสะดุดกับการลงทุน คุณต้องหัดคาดการณ์สิ่งเหล่านั้นไว้เสมอ ว่าถ้าเกิดเรื่องราวต่างๆในบริษัทที่คุณเข้าไปลงทุน คุณ จะทำยังไงกับมันดี และ บริษัทนั้นจะมีแนวทางแก้ไข หรือ เพิ่มพูน ยังไง ให้คุณฝึกไว้ คิดไว้ และ เขียนมันไว้
ข้อ ๕ จับตาการลงทุนและผลงานการลงทุนของคุณเอง และ นำมันมาเปรียบเทียบกันเสมอ
** การตรวจสอบการลงทุนของคุณ ว่าเมื่อครั้งที่เราเลือดการลงทุนได้ดีและทำเงินได้อย่างมหาศาลเราใช้วิธีอะไร และ ครั้งที่เราขาดทุนจากการลงทุนครั้งนี้ เราผิดพลาดอะไร พยายามจดบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ นี่คือข้อมูลส่วนตัวของคุณ มันจะช่วยบอกได้ว่า คุณชอบกินอะไร หรือ คุณไม่ชอบกินอะไร อะไรที่คุณกินบ่อยที่สุด อะไรที่คุณเขี่ยมันออกมากที่สุด และ คุณจะพบว่า ข้อมูลเพียงแค่นี้ ช่วยให้คุณเป็นนักลงทุนชั้นยอดได้เลย
แถม
ด้วยการที่คุณ ลงทุนลงแรงขนาดนี้ ฝึกฝนขัดเกลานิสัยการลงทุนมันจะทำให้คุณตกผลึก และ มันจะเกิดรูปแบบการลงทุนของคุณเอง ที่ไม่เหมือนเซียนคนไหน ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ มันจะคือตัวคุณเอง เมื่อไปถึงจุดนั้น คุณควร #แสดงความยินดีกับตัวเอง คุณชนะตัวคุณเองแล้ว
คำคมช่วยชมหน่อย : จำนวนเงินไม่ได้บ่งบอกความสำเร็จในการลงทุน แต่ จำนวนผลตอบแทนต่างหากที่บ่งบอกความสำเร็จในตัวคุณ แม้เงินจำนวนน้อย เมื่อคุณทำตามวินัยของคุณเองไม่ช้ามันก็จะไปอยู่ระดับเดียวกับคนที่มีต้นทุนสูง #จงเอาเงินไปไว้ในที่ที่มันควรอยู่
โฆษณา