“11 Best Generative Ai Tools and Platforms”
อย่าลืม! ทดลองใช้ หรือศึกษา หาข้อมูลดูนะครับ
เท่าที่ลองใช้ดู สามารถนำมาเพิ่มคุณค่าการทำงานทั้งในแง่คุณภาพและเวลา เพียงแต่ต้องเรียนรู้ การเขียนประโยคคำถาม หรือการซักถามพูดคุยกับ Generative Ai เพื่อดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาใช้งาน
thanks “Turing.com”
ในโลกที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วและก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเรา ขอบเขตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงผลักดันขอบเขตและปรับเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรม หนึ่งในสาขาที่น่าสนใจที่สุดของ AI คือ AI เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีพลังในการสร้างเนื้อหา งานศิลปะ โค้ด และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ด้วยตัวมันเอง
จากข้อมูลของ Statista ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงนี้ได้นำไปสู่ผลประโยชน์มากมายทั่วทั้งภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเนื้อหาถึง 40% ผลลัพธ์เชิงสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น 75% และการเติบโต 90% ในระดับของระบบอัตโนมัติในขั้นตอนการทำงานบางอย่างอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในบล็อกนี้ เราจะเจาะลึกถึงความสำคัญของ Generative AI และผลกระทบที่เพิ่มขึ้นต่อภาคส่วนต่างๆ โดยเน้นว่า AI ปฏิวัติกระบวนการแบบเดิมๆ และเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ทางนวัตกรรมอย่างไร นอกจากนี้เรายังจะสำรวจเครื่องมือ AI เจนเนอเรชั่น 11 อันดับแรกที่ธุรกิจสามารถใช้เพื่อทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Generative Ai คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร
Generative AI ซึ่งเป็นชุดย่อยของ AI มุ่งเน้นไปที่เครื่องสอนเพื่อสร้างเนื้อหาต้นฉบับและสร้างสรรค์ ต่างจาก AI แบบดั้งเดิมที่ทำงานตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า AI เชิงสร้างสรรค์มีความสามารถในการเรียนรู้จากข้อมูลและสร้างเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ เทคโนโลยีนี้ใช้ประโยชน์จากอัลกอริธึมที่ซับซ้อนและโครงข่ายประสาทเทียมเพื่อทำความเข้าใจรูปแบบและสร้างผลลัพธ์ที่เลียนแบบความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
ความสำคัญของ generative AI อยู่ที่ศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมทั่วทั้งกระดาน ตั้งแต่การสร้างเนื้อหาไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ เครื่องมือ AI เจนเนอเรชั่นกำลังปูทางไปสู่ประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้น
บริษัทต่างๆ หันมาใช้เครื่องมือเหล่านี้มากขึ้นเพื่อปรับปรุงกระบวนการ ลดการทำงานด้วยตนเอง และปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นไปไม่ได้
บทบาทที่เพิ่มขึ้นของเครื่องมือ generative AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ เครื่องมือ Generative AI กำลังสร้างชื่อเสียงในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยแต่ละอุตสาหกรรมควบคุมความสามารถของเทคโนโลยีเพื่อบรรลุเป้าหมายเฉพาะตัว
ซึ่งรวมถึง
* การสร้างเนื้อหา: นักเขียน นักการตลาด และผู้สร้างเนื้อหาใช้ generative AI เพื่อสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดเวลาที่ใช้ในการสร้างเนื้อหาลงได้อย่างน่าทึ่งถึง 40% การเพิ่มประสิทธิภาพนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ในระดับที่สูงขึ้น
* การออกแบบและศิลปะ: ศิลปินและนักออกแบบกำลังสำรวจ AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างทัศนศิลป์ ภาพประกอบ และการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ก้าวข้ามขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์ ในความเป็นจริง การศึกษาพบว่าการผสมผสาน generative AI ในกระบวนการออกแบบทำให้จำนวนแนวคิดการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมและสะดุดตาเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 75%
* การพัฒนาซอฟต์แวร์: Generative AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการเขียนโค้ด ช่วยนักพัฒนาด้วยการสร้างตัวอย่างโค้ด ปรับปรุงการทดสอบซอฟต์แวร์โดยระบุข้อบกพร่องเพิ่มขึ้นประมาณ 30% และแม้แต่แนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความท้าทายในการเขียนโค้ด คุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลให้วงจรการพัฒนาเร็วขึ้นและคุณภาพของโค้ดสูงขึ้น
* การแปลภาษา: อุปสรรคด้านภาษากำลังถูกทำลายลงเนื่องจากเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์จะแปลข้อความและคำพูดแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสื่อสารข้ามภาษาต่างๆ ได้อย่างราบรื่น เครื่องมือเหล่านี้มีความถูกต้องแม่นยำในการแปลถึง 95% ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความเข้าใจในระดับโลก
* การดูแลสุขภาพ: ในด้านการแพทย์ AI เจนเนอเรชั่นช่วยในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ วินิจฉัยโรค และทำนายผลลัพธ์ของผู้ป่วย นักรังสีวิทยาที่ใช้ generative AI สำหรับการวิเคราะห์ภาพรายงานว่าความแม่นยำในการตรวจจับความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มขึ้น 20% ซึ่งท้ายที่สุดนำไปสู่การวินิจฉัยที่ตรงเวลาและแม่นยำมากขึ้น
* การเล่นเกม: นักพัฒนาเกมใช้ AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่สมจริง สร้างเนื้อหาในเกม และปรับการเล่นเกมตามพฤติกรรมของผู้เล่น การปรับตัวแบบไดนามิกนี้ส่งผลให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและความพึงพอใจเพิ่มขึ้น 50% ปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมโดยรวมใจ
* การเงิน: สถาบันการเงินกำลังใช้ประโยชน์จาก AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด คาดการณ์การเคลื่อนไหวของหุ้นด้วยความแม่นยำที่น่าประทับใจ 85% และปรับกลยุทธ์การซื้อขายให้เหมาะสม แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้ความสามารถในการทำกำไรจากการเทรดเพิ่มขึ้น 25% และการตัดสินใจลงทุนที่มีข้อมูลมากขึ้น
ในขณะที่ generative AI ยังคงก้าวหน้าต่อไป แอปพลิเคชันในอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็คาดว่าจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะปฏิวัติวิธีการทำงาน สร้างสรรค์ และโต้ตอบของเราในภาคส่วนต่างๆ ต่อไป
เครื่องมือและแพลตฟอร์ม AI เจนเนอเรชั่น 11 อันดับแรก
เรามาสำรวจเครื่องมือและแพลตฟอร์ม AI เจนเนอเรชั่น 11 อันดับแรกที่กำลังกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคต เราจะตรวจสอบว่าแต่ละเครื่องมือนำชุดข้อดีและความก้าวหน้าเชิงตัวเลขที่เป็นเอกลักษณ์มาสู่ตารางได้อย่างไร
1. ChatGPT
แชทจีพีที ซึ่งเป็นการสร้างของ OpenAI เป็นโมเดลภาษาไดนามิกที่ขึ้นชื่อในด้านความสามารถที่โดดเด่นในการสร้างข้อความที่เหมือนจริง ด้วยความสามารถพิเศษในการสร้างบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ การชี้แจงคำถาม และความช่วยเหลือในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ChatGPT นำเสนอความสามารถรอบด้านที่ยอดเยี่ยม
นวัตกรรมนี้ค้นพบความก้าวหน้าในบอทสนับสนุนลูกค้า การสร้างเนื้อหา และการระดมความคิดของผู้เขียน ซึ่งส่งเสริมความสำเร็จในหลายสาขา ความถนัดในภาษาธรรมชาตินั้นเป็นประโยชน์ ซึ่งได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่านการอัปเดต
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเกิดขึ้นจากศักยภาพในการให้ข้อมูลที่ผิดและอคติ ควบคู่ไปกับข้อจำกัดในการทำความเข้าใจความแตกต่างทางบริบทที่ซับซ้อน
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* สร้างข้อความที่ใกล้เคียงกับภาษามนุษย์
* มีส่วนร่วมในการสนทนาที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและจริงใจ
* ให้คำตอบที่ละเอียดและลึกซึ้งสำหรับคำถามที่หลากหลาย
* ให้การสนับสนุนและข้อเสนอแนะอันมีค่าสำหรับความพยายามในการเขียนเชิงสร้างสรรค์
* แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับบริบท
กรณีการใช้งาน:
* ปฏิวัติการสนับสนุนลูกค้าโดยขับเคลื่อนแชทบอทแบบโต้ตอบสำหรับธุรกิจ
* ปรับปรุงการสร้างเนื้อหา ตั้งแต่บทความไปจนถึงสื่อทางการตลาด และปรับปรุงกระบวนการเขียน
* ช่วยนักเขียนในการระดมความคิด เอาชนะบล็อคความคิดสร้างสรรค์ด้วยความคิดสร้างสรรค์
2. Scribe
Scribe ผู้ช่วยเขียน AI ปฏิวัติการสร้างเนื้อหา ความสามารถในการสรุปบทความ การสร้างรายงาน และการช่วยเขียนเชิงวิชาการนั้นไม่มีใครเทียบได้ เครื่องมือนี้ช่วยให้นักข่าว นักศึกษา และผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพการวิจัยและการเขียน Scribe เป็นเลิศในงานที่ได้รับการปรับแต่ง เพิ่มผลผลิต แม้ว่าการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่ซับซ้อนอาจต้องใช้การสัมผัสของมนุษย์เพื่อความแม่นยำ
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* ผู้ช่วยเขียน AI โดยเฉพาะ
* สร้างเนื้อหาในรูปแบบและรูปแบบที่หลากหลาย
* สรุปบทความ สร้างรายงาน และช่วยเขียนเชิงวิชาการ
* ช่วยเหลือในการฝึกอบรมและเอกสาร
* ลดความซับซ้อนในการจัดทำเอกสารงานที่ซับซ้อน
กรณีการใช้งาน:
* ใช้งานโดยนักข่าว นักศึกษา และผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยและการสร้างเนื้อหา
* มีประโยชน์สำหรับการสร้างเอกสารและภาพคุณภาพสูง
* สร้างเอกสารการเตรียมความพร้อมสำหรับพนักงานใหม่ และทำให้การเตรียมความพร้อมเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้จัดการฝ่ายจ้างงาน
* ช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในการเริ่มต้นใช้งานและฝึกอบรมลูกค้าโดยสร้างคำแนะนำทีละขั้นตอน
3. AlphaCode
AlphaCode ผู้ช่วยด้านการเขียนโค้ดที่ปฏิวัติวงการ ใช้ประโยชน์จาก generative AI เพื่อเสริมศักยภาพให้กับนักพัฒนา มีความเป็นเลิศในการเขียนโค้ด การแก้ไขจุดบกพร่อง และการแนะนำโซลูชันการเขียนโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุด นักพัฒนายอมรับ AlphaCode สำหรับเวิร์กโฟลว์ที่เร่งรีบ งานอัตโนมัติ และการเรียนรู้ภาษา
เครื่องมือนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และส่งเสริมความสามารถในการเขียนโค้ด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ซับซ้อนอาจนำไปสู่การสร้างโค้ดที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากการพึ่งพารูปแบบการเขียนโปรแกรมที่กำหนดไว้
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* ใช้ AI เจนเนอเรชั่นขั้นสูงเพื่อช่วยเหลือในการเขียนโค้ด
* รองรับภาษาและกระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรมที่หลากหลาย
* เสนอคำแนะนำโค้ดแบบเรียลไทม์และแก้ไขข้อบกพร่อง
* มอบโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพโค้ด
* ช่วยในการเขียนโค้ดร่วมกันพร้อมคำแนะนำร่วมกัน
กรณีการใช้งาน:
* ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานการเขียนโค้ดเพื่อเร่งการพัฒนาโครงการ
* ทำงานซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มผลผลิต
* อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ภาษาการเขียนโปรแกรมใหม่อย่างรวดเร็ว
* แก้ไขข้อผิดพลาดและข้อบกพร่องในการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพ
4. GitHub Copilot
GitHub Copilot ปฏิวัติการเขียนโค้ดผ่านฟีเจอร์การทำงานร่วมกันและการผสานรวมกับโปรแกรมแก้ไขโค้ดยอดนิยม โดยนำเสนอตัวอย่างโค้ด คำอธิบาย และคำแนะนำตามบริบท ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนรู้ของนักพัฒนา เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่ช่วยให้เขียนโค้ดได้เร็วขึ้น อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และรองรับภาษาการเขียนโปรแกรมต่างๆ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากโค้ดที่สร้างขึ้นบางโค้ดอาจต้องมีการปรับปรุง และขึ้นอยู่กับ API ภายนอกเป็นอย่างมากสำหรับคำแนะนำ
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* ผสานรวมกับโปรแกรมแก้ไขโค้ดยอดนิยมเช่น Visual Studio Code ได้อย่างราบรื่น
* สร้างไม่เพียงแต่ข้อมูลโค้ดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำอธิบายและข้อมูลเชิงบริบทเพื่อช่วยเหลือนักพัฒนาอีกด้วย
* ให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องทันทีสำหรับการเติมโค้ดให้สมบูรณ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเขียนโค้ด
* เสนอการสนับสนุนภาษาการเขียนโปรแกรมที่หลากหลาย รองรับโครงการต่างๆ
* เรียนรู้จากรูปแบบการใช้งาน ปรับให้เข้ากับความต้องการของนักพัฒนาแต่ละคน
กรณีการใช้งาน:
* เร่งกระบวนการเขียนโค้ด ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำตามกำหนดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
* ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการศึกษา ช่วยให้โปรแกรมเมอร์เข้าใจแนวคิดการเขียนโปรแกรมใหม่ๆ
* ยกระดับคุณภาพของโค้ดโดยส่งเสริมการปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติและมาตรฐานที่ดีที่สุดในการเขียนโค้ด
* ช่วยให้ผู้มาใหม่เข้าใจโค้ดเบสและมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย
* ให้อำนาจแก่นักพัฒนาในการสำรวจโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมโดยการแนะนำแนวทางอื่น
5.GPT-4
GPT-4 แสดงถึงการก้าวกระโดดในโมเดลภาษา AI โดยมีการสร้างข้อความที่ได้รับการปรับปรุงในโดเมนต่างๆ ความสามารถโดดเด่นในการสร้างเนื้อหา ช่วยเหลือนักเขียน นักการตลาด และนักการศึกษา การใช้งานที่หลากหลายในงานประมวลผลภาษาธรรมชาติช่วยยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูล
เรื่องราวความสำเร็จเผยให้เห็นความช่วยเหลือในการสร้างเรื่องราวเชิงนวัตกรรมและประสบการณ์การสนทนาส่วนบุคคล แม้ว่า GPT-4 จะแสดงคุณภาพและความสามารถรอบด้านที่ดีขึ้น แต่การระมัดระวังยังคงเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากอาจเกิดความไม่ถูกต้องและอคติได้
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* สร้างข้อความคุณภาพสูงในหัวข้อที่หลากหลาย
* สร้างการตอบสนองที่สอดคล้องกันและเหมาะสมยิ่งขึ้น
* สร้างเนื้อหาที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น
* จัดการกับคำถามและงานที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
* ให้อำนาจผู้ใช้ในการควบคุมน้ำเสียง สไตล์ และข้อมูลเฉพาะของข้อความที่สร้างขึ้น
กรณีการใช้งาน:
* สิ่งสำคัญในการสร้างเนื้อหา GPT-4 ช่วยให้นักเขียน บล็อกเกอร์ และนักการตลาดมีเนื้อหาที่น่าสนใจ
* เสริมพลังให้กับงานประมวลผลภาษาธรรมชาติ ปรับปรุงการวิเคราะห์ความรู้สึกและความเข้าใจภาษา
* ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมเขียนเชิงสร้างสรรค์ จุดประกายแรงบันดาลใจให้กับผู้เขียนและผู้เขียนบท
6. Bard
Bard กลายเป็นแชทบ็อตล้ำสมัยและเครื่องมือสร้างเนื้อหาที่พัฒนาโดย Google โดยใช้ประโยชน์จาก LaMDA ซึ่งเป็นโมเดลที่ใช้หม้อแปลงไฟฟ้า และถือเป็นการตอบสนองต่อ ChatGPT ของ Google ขณะนี้ Bard อยู่ในช่วงทดลองให้บริการแก่ผู้ชมจำนวนจำกัดในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* ควบคุมพลังของ LaMDA ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง
* รายการรอที่เข้าถึงได้จำกัดสำหรับลูกค้าบางรายในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
* รวมกลไกการให้คะแนนการตอบสนองของผู้ใช้
* เข้าถึงได้ผ่านบัญชี Google ส่วนบุคคล
* มอบอำนาจแก่ผู้ใช้ด้วยความช่วยเหลือในการพัฒนาซอฟต์แวร์และงานที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม
กรณีการใช้งาน:
* ช่วยในการระดมความคิด การสร้างตัวอย่างโค้ด และการแก้ไขคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม
* ช่วยในการร่างเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร บทความ บล็อกโพสต์ และชิ้นงานสร้างสรรค์
* ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นคว้าและให้ข้อมูลโดยย่อในหัวข้อต่างๆ ที่หลากหลาย
* ทำหน้าที่เป็นพันธมิตรด้านการศึกษา ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนและให้คำอธิบาย
7. Cohere Generate
ความสามารถที่หลากหลายของ Cohere Generate ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบบทสนทนาแบบไดนามิก และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ จุดแข็งอยู่ที่การสร้างเนื้อหาส่วนบุคคล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแคมเปญการตลาดโดยการสร้างอีเมลที่กำหนดเอง แม้ว่าความสามารถในการปรับตัวจะได้รับการยกย่อง แต่การปรับปรุงกระบวนการปรับแต่งอย่างละเอียดยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาบริบทที่สอดคล้องกันระหว่างปฏิสัมพันธ์ต่างๆ
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* เหมาะสำหรับงานสร้างภาษาธรรมชาติที่หลากหลาย
* สร้างตัวแทนการสนทนาเชิงโต้ตอบได้อย่างง่ายดาย
* มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาอีเมลส่วนบุคคล
* มอบการตอบสนองเหมือนมนุษย์เพื่อการโต้ตอบที่แท้จริง
กรณีการใช้งาน:
* ส่งเสริมบริษัทต่างๆ ในการสร้างแชทบอทแบบโต้ตอบเพื่อประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น
* ปรับปรุงการสื่อสารกับลูกค้าผ่านการตอบกลับอัตโนมัติ
* อำนวยความสะดวกในการสร้างข้อความส่วนบุคคล เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
* การใช้งานที่ประสบความสำเร็จในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงอีคอมเมิร์ซและการสนับสนุนลูกค้า
8. Dall-E2
Dall-E2 ซึ่งเป็นโมเดล AI เจนเนอเรชั่นที่ล้ำสมัย มีความเป็นเลิศในการสังเคราะห์ภาพ ด้วยการแปลข้อความให้เป็นภาพที่น่าดึงดูด ช่วยให้ศิลปินและนักออกแบบสามารถสำรวจขอบเขตใหม่ของความคิดสร้างสรรค์ได้ ความสำเร็จที่โดดเด่น ได้แก่ การผลิตงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์และภาพที่กำหนดเอง ในขณะที่เชื่อมช่องว่างระหว่างข้อความและรูปภาพ นวัตกรรมดังกล่าวได้เติมพลังให้กับนวัตกรรม แม้จะมีความไม่ถูกต้องและข้อจำกัดเป็นครั้งคราวภายในแนวคิดที่ได้รับการฝึกอบรมก็ตาม
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* โมเดล AI เจนเนอเรชั่นที่เชี่ยวชาญด้านการสังเคราะห์ภาพ
* แปลงข้อความแจ้งเป็นเนื้อหาภาพที่ซับซ้อน
* รองรับสไตล์และประเภทของภาพที่หลากหลาย
* เสนอการควบคุมคุณลักษณะของภาพ เช่น องค์ประกอบและแสง
* รองรับทั้งการแสดงภาพแนวคิดระดับสูงและภาพที่มีรายละเอียด
กรณีการใช้งาน:
* ช่วยให้ศิลปินสามารถจินตนาการถึงแนวคิดต่างๆ
* นักออกแบบสามารถสร้างแนวคิดด้านภาพแปลกใหม่ได้
* ผู้สร้างเนื้อหาสามารถสร้างภาพที่กำหนดเองที่น่าดึงดูดได้
* Dall-E2 ช่วยในการสร้างโลกเสมือนจริงที่น่าทึ่ง
9. Claude
Claude หยืนหยัดในฐานะผู้ช่วย AI ล้ำสมัยที่สร้างสรรค์โดย Anthropic โดยรวบรวมผลการวิจัยที่ทุ่มเทเพื่อสร้างระบบ AI ที่ไม่เพียงแต่มีประโยชน์เท่านั้น แต่ยังยุติธรรมและปลอดภัยอีกด้วย
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* จัดการการประมวลผลข้อมูลข้อความอย่างกว้างขวางอย่างเชี่ยวชาญ
* มีส่วนร่วมในการสนทนาที่เป็นธรรมชาติและคล่องแคล่ว
* แสดงความสามารถหลายภาษา ครอบคลุมภาษาทั่วไปและภาษาการเขียนโปรแกรม
* เพิ่มความคล่องตัวและทำให้เวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนเป็นอัตโนมัติ
* ปรับให้เข้ากับความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
กรณีการใช้งาน:
* ช่วยโปรแกรมเมอร์ในการเขียนโค้ดในภาษาต่างๆ
* ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
* รองรับนักเรียนที่มีประสบการณ์การศึกษาเชิงโต้ตอบ
10. Synthesia
Synthesia AI ปฏิวัติการสร้างเนื้อหาโดยเปิดใช้งานการสร้างวิดีโอที่เหมือนจริงโดยใช้การป้อนข้อความ ด้วยเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกขั้นสูง ระบบจะผสานข้อความเข้ากับภาพที่สมจริงได้อย่างราบรื่น เปลี่ยนแนวคิดให้เป็นประสบการณ์ทางภาพที่น่ามีส่วนร่วม เทคโนโลยีนี้ค้นหาแอปพลิเคชันในด้านการตลาด ความบันเทิง และการศึกษา โดยเปลี่ยนวิธีการสื่อสารและแสดงแนวคิดใหม่
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI แปลงข้อความเป็นวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* สร้างภาพ อวตาร และฉากแบบไดนามิก
* การสังเคราะห์เสียงอัตโนมัติเพื่อเสียงที่ไร้รอยต่อ
* ผู้ใช้สามารถปรับแต่งภาพ ข้อความ และสไตล์เสียงได้
* ผลิตวิดีโอหลายรายการพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
กรณีการใช้งาน:
* ช่วยเหลือนักการตลาดในการสร้างโฆษณาและแคมเปญการตลาด
* ผู้สร้างเนื้อหาสามารถพัฒนาบทช่วยสอนและข้อความวิดีโอส่วนตัวได้
* นักการศึกษาสามารถผลิตวิดีโอและการนำเสนอเพื่อการศึกษาได้
11. Duet AI
Duet AI สำหรับ Google Workspace ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของ Google ได้อย่างราบรื่น ในอนาคต คุณจะค้นพบฟีเจอร์สำหรับการสร้างเนื้อหา การสรุป และการเขียนเนื้อหาใหม่ภายในเครื่องมือที่คุ้นเคย เช่น Gmail, Google เอกสาร และ Google Meet ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่แข็งแกร่งเป็นรากฐาน หากคุณเคยใช้แชทบอท AI เช่น ChatGPT แสดงว่าคุณคุ้นเคยกับแนวคิดนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม Duet ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผสานรวมกับแอปพลิเคชัน Google ที่มีชื่อเสียง เช่น Gmail และ Meet ได้อย่างราบรื่น ด้วยการผสานรวมที่ราบรื่นเหล่านี้ ความจำเป็นในการคัดลอก วาง หรือส่งออกเนื้อหาระหว่างโปรแกรมต่างๆ ด้วยตนเองจึงหมดไป ขณะนี้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ในเวอร์ชันเบต้าและฟีเจอร์ที่คุณคาดหวังได้จาก Duet AI สำหรับ Google Workspace มีดังนี้
คุณสมบัติที่สำคัญ:
* ใช้ประโยชน์จากความสามารถด้าน AI เชิงสร้างสรรค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างข้อความ
* ให้ความช่วยเหลือด้านโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับผู้ใช้ระบบคลาวด์
* การสร้างภาพอย่างง่ายดายตามคำแนะนำ
* ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันทางธุรกิจอัจฉริยะได้
* สร้างขั้นตอนการทำงานภายใน Google Workspace โดยใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติ
กรณีการใช้งาน:
* ช่วยเหลือผู้ใช้ในงานต่างๆ เช่น การเขียน การจัดระเบียบ และการแสดงภาพข้อมูล
* ช่วยนักพัฒนาที่มีประสบการณ์โดยแนะนำโค้ดที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับโปรเจ็กต์ที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็ว
* ช่วยเหลือผู้ใช้ในการเตรียมตัวสำหรับการประชุม การจัดระเบียบวันของพวกเขา และการแสดงภาพโซลูชัน
บทสรุป
Generative AI ได้นำเข้าสู่ยุคใหม่ของความเป็นไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย โดยที่เครื่องจักรไม่เพียงแต่เลียนแบบการกระทำของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนสนับสนุนกระบวนการสร้างสรรค์อย่างแข็งขันอีกด้วย ตั้งแต่การสร้างตัวอย่างโค้ดไปจนถึงการแต่งเพลงและแม้แต่การสร้างเนื้อหาภาพ เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่กล่าวถึงในบล็อกนี้เป็นตัวอย่างความก้าวหน้าที่น่าทึ่งของเทคโนโลยี
เมื่อเราก้าวไปข้างหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงศักยภาพและข้อจำกัดของ generative AI โดยยอมรับพลังของมัน ในขณะเดียวกันก็เข้าใจถึงความจำเป็นในการกำกับดูแลและการปรับแต่งของมนุษย์ ด้วยเครื่องมือ AI เจนเนอเรชั่นที่ล้ำสมัยทั้ง 11 รายการนี้ อุตสาหกรรมต่างกำลังมุ่งหน้าสู่การบรรลุประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ส่งท้ายด้วย 2 ประโยคให้คิดนี้นะครับ
“Ai เป็น Co-Pilot ไม่ใช่ Auto-Pilot
และต้องมีกฎหมายกำกับ”
“Ai ไม่ได้มาแทนคน
แต่คนใช้ Ai ต่างหาก ที่มาแทน”
#BestGenerativeAi
#Co-Pilot
#Aiไม่ได้มาแทนคนแต่คนใช้Aiต่างหากที่มาแทน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
