3 ธ.ค. 2023 เวลา 11:47 • ประวัติศาสตร์

พระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษ รักสามเส้าระหว่างกษัตริย์ ราชินี และจักรพรรดินี จนนำไปสู่ “รักในรอยแค้น”

พระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษเป็นลูกของสตีเฟน เคานต์แห่งบลัวส์ กับ เจ้าหญิงอเดลลาซึ่งเป็นลูกสาวของพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์อังกฤษเช่นกัน
สตีเฟนเกิดเมื่อปี 1096 ครองบัลลังก์อังกฤษตั้งแต่ 1135-1154 เท่ากับเขาเป็นกษัตริย์อังกฤษตั้งแต่อายุ 29
แต่เส้นทางการขึ้นเป็นกษัตริย์ของสตีเฟนก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาไม่ได้เป็นลูกชายของกษัตริย์ในเวลานั้นคือพระเจ้าเฮนรีที่1 สตีเฟนเป็นแค่หลานอา เพราะเฮนรีที่1 เป็นน้องชายของแม่ของเขา
ตอนนั้นบัลลังก์อังกฤษน่าจะตกเป็นของลูกชายของพระเจ้าเฮนรีที่1 แต่ลูกชายของเฮนรีที่1 ตายหมด เขาเหลือแต่ลูกสาวชื่อมาทิลดาเท่านั้น
ตอนนั้นเฮนรีที่1 ให้มาทิลดาแต่งงานพระเจ้าเฮนรีที่5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ มาทิลดาจึงเป็นจักรวรรดินี (Empress) พอสามีตายมาทิลดาไม่มีลูกจึงกลับมาหาพ่อ ตอนนั้นเองมี่มาทิลดาได้เจอลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อสตีเฟนของเธอ
จักรพรรดินีมาทิลดา
เจ้าหญิงมาทิลดาซึ่งตอนนี้เป็นจักรพรรดินีแล้วตกหลุมรักสตีเฟนทันที เพราะสตีเฟนทั้งหล่อทั้งสุภาพ แต่ความรักของมาทิลดาถูกพ่อของเธอขัดขวาง เพราะยังไงแม่ของสตีเฟนก็คือพี่ของเขา เลือดมันใกล้กันเกินไป
มาทิลดาจึงถูกส่งไปแต่งงานอีกครั้งกับเจฟฟรีย์ แพลนตาเจเน็ต เคานต์แห่งอังจู มาทิลดาใจสลายทั้งที่รักสตีเฟนแต่ต้องแต่งกับเจฟฟรีย์ สตีเฟนก็เลยไปแต่งงานกับมาทิลดาแห่งบูโลนจ์
ดินแดนแห่งบูโลนจ์
เลยเกิดเป็นรักสามเส้าตั้งแต่นั้นมา คือ 1 สตีเฟน กับ 2 มาทิลดา
มาทิลดาแห่งบูโลนจ์
จากรักก็กลายเป็นแค้น เกิดเป็น “รักในรอยแค้น” อีก
แต่น่าจะเป้นความแค้นของเจ้าหญิงมาทิลดาคนเดียว เพราะหลังจากสตีเฟนแต่งงานไปกับมาทิลดาอีกคน เขาก็ไม่รักใครอีก
ตอนนี้เจ้าหญิงมาทิลดา ก็เป็นทั้งจักรพรรดินีและเคานเตสผ่านการแต่งงาน
พอพ่อของมาทิลดาตาย บัลลังก์จะตกไปที่ใคร ระหว่างหลานชายที่เป็นที่ชื่นชอบของขุนนาง กับลูกสาวโดยสายเลือด สมัยนั้นผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงยังไม่เป็นที่ยอมรับ ขุนนางสนับสนุนสตีเฟน สตีเฟนเลยได้ขึ้นเป็นพระเจ้าสตีเฟนแห่งอังกฤษ มีราชินีคือมาทิลดาแห่งบูโลนจ์ แน่นอนไม่เป็นธรรมกับเจ้าหญิงมาทิลดาที่ตอนนี้แต่งงานไปอยู่อังจูแล้ว มาทิลดาจึงยกทัพมาก่อสงครามชิงบัลลังก์มาตลอด
ในรัชสมัยของพระเจ้าสตีเฟนจึงมีสงครามอยู่เสมอ ว่ากันว่า ประชาชนล้มตายไปถึง1ใน3 ของประชากรอังกฤษในสมัยนั้น และบางส่วนก็อดอยากจนตายไปก็มี เป็นยุคที่เรียกว่่่า “Anarchy ”
1
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สตีเฟนแพ้ มาทิลดาจับสตีเฟนได้แต่ไม่ฆ่าให้จบๆ กลับขังสตีเฟนไว้ และขึ้นปกครองอังกฤษในฐานะ Lady Of The England ไม่ใช่ในฐานะราชินี เพราะอังกฤษสมัยนั้นยังไม่ยอมรับผู้หญิง แต่นักประวัติศาสตรบางคนก็บอกว่าเป็นร “ราชินีคนแรก” ของอังกฤษ แต่บางคนก็ไม่ยอมรับโดยบอกว่ามาทิลดาเป็นเหมือนผู้สำเร็จราชการมากกว่า เพราะสตีเฟนยังไม่ตายแค่ถูกขัง
ตอนที่มาทิลดาขังสตีเฟนไว้นี่เอง ราชินีมาทิลดาของสตีเฟนก็มาขอร้องให้ปล่อยสามีของเธอโดยเธอจะไปบวชชีตลอดชีวิต ไม่มาอยู่กับสตีเฟนอีก แต่มาทิลดาไม่รับข้อเสนอ พอเรื่องเป็นอย่างนั้นราชินีมาทิลดาแห่งบูโลนจ์จึงมาช่วยสตีเฟนออกไปและได้ปกครองอังกฤษตามเดิม มาทิลดาก็ยังราวีต่อไปเพื่อสิทธิ์ในราชบัลลังก์
2
2 มาทิลดา
สตีเฟนกับมาทิลดารบกันเรื่อยมา จนราชินีและลูกชายรัชทายาทของสตีเฟนตายไปหมด สตีเฟนอยากให้อังกฤษสงบสักทีและจะหารัชทายาทใหม่ด้วย จึงตกลงให้ลูกชายของมาทิลดาเป็นรัชทายาทแทน สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานจึงสิ้นสุดลว
ราชินีมาทิลดายกทัพมาชิงตัวสามี
สตีเฟนจะได้ครองอังกฤษต่อไปโดยสงบ แต่พอตายแล้วต้องยกบัลลังก์ให้ลูกชายมาทิลดาซึ่งก็คือเฮนรีที่2
สายของเจ้าหญิงอเดลลาจึงจบลงที่พระเจ้าสตีเฟน ชื่อสตีเฟนจึงไม่เป็นที่นินมในการตั้งชื่อในราชวงศ์อังกฤษ
อ่านตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่
References

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา