3 ธ.ค. 2023 เวลา 12:07 • หนังสือ

อนาคตที่ AI ทำอะไรคุณไม่ได้

หยิบหนังสืออนาคตที่ AI ทำอะไรคุณไม่ได้ขึ้นมาอ่าน
ซึ่งเขียนโดย ทาซากะ ฮิโรชิ
แปลโดย ปาวัน การสมใจ
เป็นหนังสือที่พูดถึง ๓ ทักษะที่ควรมี เพื่อรับมือในยุคการมาของ AI เพราะงานที่เคยเป็นหน้าที่ของมนุษย์จะถูก AI เข้ามาแทนที่
ทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดงานมี ๕ ทักษะ คือ
๑. ทักษะพื้นฐาน เรียกว่าความทรหดทางปัญญา เช่น ทักษะการจดจ่อ มุ่งมั่นทุ่มเท ทักษะนี้ มนุษย์สู้ AI ไม่ได้ เพราะ AI สามารถจดจ่อทำงานต่อเนื่องแบบไม่มีขีดจำกัด
1
๒. ทักษะวิชาการ อาทิ ทักษะการคิดแบบมีเหตุผล ทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ความรู้ของทักษะวิชาการจัดเป็นความรู้แจ้งชัด (Explicit Knowledge) สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าถึงได้ ทักษะนี้ AI สามารถเอาชนะมนุษย์ได้ เพราะ AI สามารถคิดอย่างมีเหตุผล และประมวลผลข้อมูลมหาศาลภายในเวลาอันรวดเร็วชั่วพริบตา มีความจำที่ไร้ขีดจำกัดกับการสืบค้นที่มีประสิทธิภาพ
1
๓. ทักษะวิชาชีพ เป็นทักษะที่ช่วยให้เป็นคนทำงานเก่ง ต้องทำควบคู่กันไปทั้งเทคนิคการปฏิบัติ และเทคนิคทางจิตใจ ความรู้ในทักษะวิชาชีพเป็นความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ คือการนำความรู้ไปใช้จนทำได้จริง จนเชี่ยวชาญเกิดเป็นประสบการณ์เฉพาะตัว จัดเป็นความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) เรียกว่าภูมิปัญญา (Wisdom) การส่งต่อภูมิปัญญาสามารถทำได้โดยการแสดงทักษะวิชาชีพในตัวให้คนเห็นผ่านการทำงาน
1
ขั้นสูงสุดของทักษะวิชาชีพ คือความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ที่จะไม่ถูกแทนด้วย AI คือความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่องานที่ทำอยู่ และทำให้เป็นจริงได้ สู่การสร้างนวัตกรรม
1
๔. ทักษะการสื่อสาร เป็นการเข้าใจมุมมองความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น การมีอารมณ์ร่วม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา อันเป็นไมตรีจิต กว่า ๘๐% ของทักษะการสื่อสารไม่ใช่ภาษาพูด แต่คือภาษากาย เช่น กิริยามารยาท สีหน้า แววตา
การจะเป็นคนเชี่ยวชาญด้านภาษากายนั้น ต้องมีความสามารถในการคาดคะเนกับจินตนาการว่าคนที่เรากำลังสื่อสารด้วยกำลังรู้สึกหรือคิดอย่างไร และรู้สึกอย่างไรต่อภาษากายของเราเอง การสื่อสารรูปแบบภาษากายเป็นสิ่งที่ AI ยากที่จะสู้มนุษย์ได้ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของจิตใจ หรือความรู้สึกนึกคิดด้วยล่ะก็เป็นเรื่องยาก เพราะถึงอย่างไร AI ก็คือเครื่องจักร
1
๕. ทักษะองค์กร การบริหารจัดการกับการเป็นผู้นำ
งานบริหารจัดการยังเป็นหน้าที่ของมนุษย์อยู่ แต่ก็เป็นไปได้สูงว่า AI จะเข้ามาทำงานบริหารจัดการแทนที่มนุษย์ได้ ที่ยังมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ คือ “การบริหารจิตใจ” สิ่งที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ ได้แก่
1
  • ความร่วมแรงร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว : กระตุ้นให้ลูกน้องแสดงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามัคคีเพื่อสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้สำเร็จ
  • ความรู้สึกถึงคุณค่าของงานที่ทำ : ทำให้ลูกน้องมีแรงจูงใจในการทำงาน รู้สึกว่างานที่ทำมีคุณค่าและมีความหมาย
  • กระตุ้นการเติบโต : เป็นโค้ชให้คำปรึกษา ตั้งใจรับฟังปัญหาลูกน้อง แบบฟังให้สุดในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
การเป็นผู้นำ คือการสามารถกระตุ้นให้คนอื่นหันมา “ร่วมมือกัน” เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายร่วมกันได้ ความเป็นผู้นำที่ดีในศตวรรษที่ ๒๑ ไม่ใช่การสั่งงานหรือควบคุมลูกน้องให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่เป็นการที่สามารถขอความร่วมมือแล้วลูกน้องอยากให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ คุณสมบัติผู้นำในยุค AI ได้แก่
  • ทักษะการแสดงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและความศรัทธา
  • การไม่หยุดเติบโต กระตุ้นการเติบโตเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ผู้นำต้องเป็นคนไม่หยุดเติบโตด้วย แล้วจะทำให้เกิดพื้นที่เติบโตตามมาโดยอัตโนมัติ ลูกน้องจะรู้สึกอยากพัฒนาตนเองและอยากเติบโตไปด้วยกัน
  • ความเชื่อมั่นใน “ความเป็นไปได้” ของลูกน้องด้วยใจจริง
ที่กล่าวมาทั้งหมด ๓ ทักษะที่ควรพัฒนาเพื่อรับมือกับการมาของ AI คือ ทักษะวิชาชีพ ทักษะการสื่อสาร และทักษะองค์กร ๓ ทักษะล้วนมีแก่นอยู่ที่มนุษยสัมพันธ์
1
เมื่อเรามีภูมิปัญญา ความคิดสร้างสรรค์แล้ว เราต้องสร้างเครือข่าย อาศัยความเป็นผู้นำโน้มน้าว ร่วมมือกันลงมือทำ สู่การสร้างนวัตกรรม
โฆษณา