"Now and Then" - The Beatles (2023)
The Beatles สร้างสถิติใหม่ในอเมริกา มีซิงเกิ้ลอันดับ 1 บน Billboard Airplay ห่างกันยาวนานที่สุดถึง 53 ปี
กระแสเพลง "Now and Then" อาจจะจางหายไปมากในเมืองไทย แต่ในอังกฤษยอดขายซิงเกิ้ลยังขายดีมากในตารางอันดับ Official Singles Sales Chart สัปดาห์นี้ยังคงอยู่อันดับ 1 มา 5 สัปดาห์ต่อเนื่องครับ (ยอดขายจากแผ่น CD แผ่นไวนิล ยอดดาวน์โหลดและจากฟอร์แมตอื่นๆ)
แต่ถ้ารวมยอดสตรีมมิ่งทั้งออดิโอและวิดีโอเข้าไปด้วย อันดับบนตารางอันดับ Official Singles Chart Top 100 ของเพลง "Now and Then" จะร่วงจากอันดับ 11 ในสัปดาห์ที่แล้วลงไปที่อันดับ 30 ในสัปดาห์นี้ หลังจากเข้ามาในชาร์ตได้ 5 สัปดาห์
แต่วันนี้แอดอยากมาพูดถึงความนิยมในอเมริกาผ่านตารางอันดับ Billboard กัน แม้ซิงเกิ้ล "Now and Then" เพลงสุดท้ายของ The Beatles จะไม่สามารถยืนแท่นขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ด Hot 100 ในอเมริกาได้ แต่ก็ยังกู้หน้าขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต "Billboard Airplay" แทน ทำให้ The Beatles มีเพลงอันดับ 1 บนชาร์ต "Billboard Airplay" เป็นครั้งแรกในรอบ 53 ปีนับตั้งแต่เพลง "Let It Be" ทำได้ในปี 1970
ตารางอันดับบิลบอร์ด "Adult Alternative Airplay" (Tripple A Airplay) เริ่มเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม ปี 1996 ตอนนั้นเพลง "Free As A Bird" สูงสุดอยู่ที่อันดับ 11 แต่มาวันนี้เพลง "Now and Then" ของ The Beatles สามารถทะลุขึ้นจากอันดับ 2 มาอันดับ 1 ได้ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นผลการจัดอันดับประจำวันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้ (ครบ 43 ปีที่ John Lennon จากโลกนี้ไป)
ผลที่เกิดขึ้นจึงทำให้ The Beatles สร้างสถิติใหม่บน "Billboard radio" กลายเป็นศิลปินที่มีซิงเกิ้ลอันดับ 1 ห่างกันยาวนานที่สุดถึง 53 ปี โดยในปี 1970 เพลง "Let It Be" อยู่อันดับ 1 บนบิลบอร์ด "Adult Contemporary" (4 สัปดาห์) และวันนี้ปี 2023 เพลง "Now and Then" อยู่อันดับ 1 บนบิลบอร์ด "Adult Alternative Airplay" ถึงแม้จะเป็นคนละตารางอันดับ แต่ทั้ง 2 ชาร์ตต่างเป็นตารางอันดับประเภท "Billboard Airplay" (จัดอันดับตามความนิยมทางสถานีวิทยุ)
ที่มา: AmericanSongWriter
***ปกควรเป็น "Adult Alternative" แทนที่จะเป็น "Adult Pop" ต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย***
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
