“นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)” กับ “การเดินทางข้ามเวลา” และ “สิ่งมีชีวิตจากต่างดาว”
“นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)” นามนี้หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี
เขาเป็นนักประดิษฐ์สมองเปรื่องที่มีผลงานล้ำยุคมากมาย เป็นพื้นฐานสำหรับวิทยาการสมัยใหม่หลายๆ อย่าง เช่น ไฟฟ้ากระแสสลับ การสื่อสารไร้สาย หรือระบบวิทยุเป็นต้น
วิสัยทัศน์ของเทสลานั้นเรียกได้ว่าก้าวล้ำนำหน้าผู้คนในยุคเดียวกัน โดยเทสลานั้นใฝ่ฝันถึงโลกที่เชื่อมต่อกันได้ด้วยพลังงานไร้สาย ทำให้การติดต่อสื่อสารนั้นสะดวกง่ายดาย ซึ่งนี่คือความฝันที่ก่อให้เกิดโครงการใหญ่อย่าง “หอคอยวาร์เดนคลิฟ (Wardenclyffe Tower)” หรือที่รู้จักในนามของ “หอคอยเทสลา (Tesla Tower)”
แต่เรื่องราวความปราดเปรื่องของเทสลานั้นก็มีมากกว่าที่บันทึกไว้ หลายอย่างยังคงเป็นปริศนา
นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)
ในเวลานั้นมีรายงานว่ามีสัญญาณปริศนาจากนอกโลก และทฤษฎีเกี่ยวกับการทดลองเรื่องแรงต้านแรงโน้มถ่วงและการเดินทางข้ามเวลาของเทสลา ก็ทำให้ภาพของเทสลาไม่เพียงเป็นชายผู้ที่มีแนวคิดก้าวล้ำนำหน้าคนในยุคเดียวกัน แต่อาจจะเป็นชายผู้ที่สามารถติดต่อกับอะไรบางอย่างนอกโลกได้
เทสลามีความลับเรื่องการเดินทางข้ามเวลาจริงหรือไม่? เขาเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่างจากนอกโลกจริงหรือเปล่า?
เราลองมาหาคำตอบกันครับ
การเดินทางในฐานะนักประดิษฐ์ของเทสลานั้น เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยแนวคิดที่ล้ำเกินจินตนาการและเทคโนโลยี โดยในบรรดาแนวคิดล้ำๆ ของเขาที่โดดเด่นที่สุดแนวคิดหนึ่ง ก็คือเรื่องการส่งพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว เทสลาได้มองเห็นโลกที่กระแสไฟฟ้าสามารถส่งผ่านอากาศได้ ไม่จำเป็นต้องใช้สายไฟหรือตัวกลางใด
วิสัยทัศน์นี้เรียกได้ว่าล้ำยุคกว่าใครในยุคนั้น หากทำได้จริง จะเรียกว่าเป็นการปฏิวัติวงการเลยทีเดียว
หนึ่งในโครงการที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดนี้ ก็คือ “หอคอยวาร์เดนคลิฟ (Wardenclyffe Tower)” หรือที่รู้จักในนามของ “หอคอยเทสลา (Tesla Tower)”
หอคอยวาร์เดนคลิฟ (Wardenclyffe Tower)
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากมหาเศรษฐีคนสำคัญอย่าง “เจ.พี. มอร์แกน (J.P. Morgan)” และเทสลาก็ได้ตั้งใจจะสร้างสาธารณูปโภคที่สามารถส่งสัญญาณไร้สายข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
แต่แนวคิดของเทสลานั้นไม่ใช่เพียงแค่การสื่อสาร แต่เขายังตั้งใจจะให้หอคอยวาร์เดนคลิฟเป็นหอคอยแรกของโลกที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าไร้สายให้ทุกคนได้ฟรี และจะขยายหอคอยเช่นนี้ไปยังที่อื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งแนวคิดนี้เองที่เป็นปัญหา
ทั้งสโคปของโครงการและแนวคิดที่จะให้ผู้คนใช้งานได้ฟรีๆ เป็นปัญหาสำหรับเหล่านายทุน เนื่องจากนายทุนอย่างมอร์แกนก็ต้องการผลกำไรที่ลงเงินไป ในเมื่อเทสลาจะให้คนใช้ได้ฟรีๆ มอร์แกนและนายทุนคนอื่นๆ จึงพากันถอนทุนออกไป
เมื่อปราศจากเงินทุน ความฝันเรื่องโลกที่เต็มไปด้วยพลังงานไร้สายแบบฟรีๆ ของเทสลาก็ต้องจบลง หอคอยของเทสลาก็ถูกทิ้งค้างอย่างนั้น แต่หอคอยนี้ก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีไร้สายในเวลาต่อมา
เจ.พี. มอร์แกน (J.P. Morgan)
นอกจากนั้น ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทสลาที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
เทสลาเคยเล่าว่าตนนั้นมองเห็นแสงกลุ่มหนึ่ง ตามมาด้วยช่วงเวลาที่ทำให้เทสลารู้แจ้ง โดยเทสลากล่าวอ้างว่าตนนั้นเห็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เป็นภาพโฮโลแกรมในภาพความคิด
ด้วยเรื่องราวเหล่านี้ทำให้หลายคนสงสัย
เทสลานั้นได้ไอเดียต่างๆ เหล่านี้จากวิสัยทัศน์ของตนเอง หรือว่าจริงๆ แล้วเขาได้ไอเดียต่างๆ มาจากแหล่งที่เกินความคาดหมายหรือจินตนาการได้?
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1899 (พ.ศ.2442) เทสลาจับสัญญาณแปลกๆ ได้ในเครื่องตนเอง โดยสัญญาณนี้ไม่เหมือนสัญญาณอื่นๆ ที่เขาเคยรับได้ในช่วงทำการทดลองสัญญาณวิทยุ
เทสลาได้ตรวจสอบสัญญาณเหล่านี้ และตั้งสมมติฐานว่าสัญญาณนี้อาจจะเป็นสัญญาณจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว ซึ่งแน่นอนว่าสมมติฐานเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้และไม่เป็นที่เชื่อถือนัก หากแต่เทสลาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนที่คิดนอกกรอบอยู่แล้ว
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แนวคิดเรื่องสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างประหลาด และเทสลาก็เชื่อว่าสัญญาณพวกนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการติดต่อสื่อสารจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ก้าวล้ำกว่ามนุษย์มาก
ความเชื่อนี้ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดในหัวของเทสลาเท่านั้น หากแต่ยังถูกนำมาหลอมรวมกับงานและทฤษฎีในภายหลังของเขาอีกด้วย โดยเทสลาเชื่อว่ามนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอย่างเดียวในจักรวาล และสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวก็พยายามจะติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ ซึ่งแนวคิดนี้ก็ทำให้เห็นอีกมิติหนึ่งในงานของเทสลา
นอกเหนือจากเรื่องของพลังงานไร้สายแล้ว งานของเทสลายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้เรื่อง “การเดินทางข้ามเวลา”
ถึงแม้ว่าเทสลาจะไม่เคยกล่าวอ้างว่าตนนั้นพัฒนาเทคโนโลยีเรื่องการเดินทางข้ามเวลาได้ แต่งานบางชิ้นของเขาในช่วงท้ายๆ ก็เป็นเหมือนสัญญาณบ่งบอกถึงการเดินทางข้ามเวลาในอนาคต
หนึ่งในหลักคิดของเทสลา เป็นเรื่องของ “ลำแสงมรณะ (Death Ray)” ซึ่งเป็นลำแสงเลเซอร์ที่สามารถสกัดกั้นการรุกรานจากภายนอก
ความคล้ายคลึงระหว่างแนวคิดเรื่องลำแสงมรณะของเทสลากับเทคโนโลยีกองทัพในยุคใหม่ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย
เป็นไปได้หรือไม่ที่งานของเทสลาจะเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีสมัยใหม่หลายๆ อย่าง แม้แต่การเอาชนะกาลเวลา?
เทสลาเคยกล่าวว่าตนกำลังทำงานบางอย่างที่จะทำให้สงครามกลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งคำกล่าวนี้ก็เรียกได้ว่าก้าวล้ำเทคโนโลยีทุกอย่างที่มีอยู่ รวมทั้งความพยายามที่จะเอาชนะกาลเวลาด้วย
ความเข้าใจในเรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของเทสลาและงานวิจัยต่างๆ ทำให้บางคนคิดว่าเทสลาอาจจะค้นพบหลักการในการเดินทางข้ามเวลาได้แล้วก็เป็นได้
การวิเคราะห์ทฤษฎีทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เห็นว่างานของเทสลานั้นเต็มไปด้วยความลี้ลับ การที่เทสลาก้าวล้ำคนอื่นๆ และมองเห็นเทคโนโลยีที่จะมาในอนาคตทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าเขาสามารถมองเห็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้จริง หรือเพราะว่างานวิจัยของเขาสามารถตอบหลักการเรื่องการเดินทางข้ามเวลาได้?
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่างานของเทสลานั้นก้าวล้ำหลายๆ คน และก่อให้เกิดจินตนาการต่างๆ มากมาย ท้าทายความเข้าใจเรื่องเวลาและอวกาศ
บางที หากศึกษางานของเทสลาอย่างลงลึกและจริงจัง เราก็อาจจะปลดล็อคความลับหลายๆ อย่างได้ก็เป็นได้
- 80
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
