4 ธ.ค. 2023 เวลา 01:32 • ท่องเที่ยว

Japan Autumn 2023 .. The Festival of Colors (07) ทะเลสาบ จูเซนจิ

พระอาทิตย์ในฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นมักจะกล่าวอำลากันตั้งแต่เวลาประมาณ 4 โมงเย็น .. เราต้องการเก็บภาพในช่วงแสงสุดท้ายของวัน โดยไม่ใช่แค่ชมบรรยากาศแสงสีกับฟ้าครามๆเท่านั้น จึงต้องรีบเดินทาง
เราขับรถต่อมายังทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันนี้ .. และแค่มองผ่านขณะที่รถชะลอเพื่อหาจุดเหมาะๆในการลงไปชมทะเลสาบ มองไปยังทัศนียภาพยามเมื่อแสงแดดตกลงบนผิวน้ำสีฟ้าเข้มในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้น ก็เป็นภาพที่งดงามสุดบรรยาย
Lake Chuzenji (中禅寺湖, Chūzenjiko): เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดโทะชิกิ เหนือเมืองนิกโก ที่โอบล้อมด้วยทัศนียภาพทิวเขานันไต (Mount Nantai) ภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกโก อันเป็นที่ซึ่งงดงามมีเอกลักษณ์ทุกฤดูกาล
ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นหนึ่งในทะเลสาบธรรมชาติที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นบนระดับความสูง 1,269 เมตร โดยมีเส้นทางเดินป่ารอบทะเลสาบยาวถึง 25 กิโลเมตรเลยทีเดียว
จุดชมวิวทะเลสาบจูเซ็นจิ (Chuzenji Lake Observation Deck)
จุดแรก .. คือ จุดชมวิวทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji Lake Observation Deck) ซึ่งเป็นจุดชมวิวขนาดใหญ่แบบไม่ต้องใช้ความพยายาม เพราะเมื่อเราจอดรถก็คือสามารดูวิวทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) แบบพาโนรามาได้เลย
จุดที่สอง .. คือ จุดชมวิวฮันเก็ตสึยามะ (Hangetsuyama Observation Deck) ... อยู่บนเขาในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ ทะเลสาบชูเซ็นจิ ซึ่งจะมีเส้นทางให้เราได้เดินเทรลตามเส้นทางธรรมชาติที่ไต่ขึ้นไปบนภูเขาโดยใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ในระหว่างทางเราจะได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ ได้ดูวิวสองข้างทางแบบไม่มีเบื่อเลย เหมาะสำหรับใครที่ชอบเดินเทรลหรือเดินป่า
เรามีเวลาที่จะขึ้นเขา เลยเลือกที่จะดูทิวทัศน์ด้านล่างแทน
ในฤดูกาลที่แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าเร็วกว่าทุกฤดู .. วิวที่แสงอาทิตย์ตกลงมากระทบกับใบไม้นั้นสวยงาม จนเราต้องหยุดถ่ายภาพกันอีกครั้ง
ทะเลสาบชูเซ็นจิ มีอีกชื่อว่า ‘ทะเลสาบแห่งความสุข’ .. คงจะจริงอย่างที่ใครๆว่าเอาไว้ เพราะแค่ลานจอดรถก็ทำให้ตกหลุมรักและใช้เวลาเก็บภาพไปพักใหญ่
.. ยิ่งเมื่อนั่งลงมองวิวอย่างจริงจัง เห็นเรือลำน้อยสีสดใสหลายลำจอดเทียบท่าอยู่ริมฝั่ง ก็พอจะประมาณได้ว่า ทะเลสาบแห่งนี้คงจะเป็นจุดหมายที่ฮ๊อตฮิตไม่น้อย ในการออกมาทำกิจกรรมทางน้ำ
.. ไม่ว่าจะเป็นการชมทิวทัศน์ผ่านการล่องเรือสำราญ หรือจะพายเรือ ปั่นจักยานก็น่าสนใจ ใครชอบธรรมชาติจึงไม่ควรพลาดทะเลสาบแห่งนี้
.. นี่เป็นอีกสิ่งที่น่ารัก เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้คือความเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ ภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยภูเขา ทะเลสาบ .. ขนาดในช่วงเย็นอย่างวันนี้ ไม่มีความเคลื่อนๆไหวมากมายอะไรให้ตื่นตา และเก็บภาพ ก็ยังเป็นอีกช่วงเวลาที่อิ่มเอม และรักทุกนาทีที่ได้ส่งสายตาออกไปไปกว้างไกลอยู่ดี
.. ใบเมเปิ้ลสีส้มที่อาบแสง สร้างความสุขให้กับการกดชัตเตอร์กล้องได้มากมาย .. ภาพซีลูเอทสุดท้ายของวันก่อนที่เราจะเข้าที่พัก จึงเป็นความประทับใจที่ลุ่มลึก
ความงามของหุบเขาระหว่างการเดินทางสู่ที่พัก
Minakami Hotel
ที่พักของเราในคืนนี้ คือ Minakami Hotel ซึ่งโรงแรมตั้งอยู่ในหุบเขา มีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง .. เรามาถึงช่วงที่ฟ้ามืดแล้ว จึงยังมองไม่เห็นอะไร
พนักงานให้บริการประทับใจดีมากๆ .. อธิบายและให้รายละเอียดต่างๆได้ชัดเจน
.. เท่าที่เราพูดคุยและสังเกตุ พนักงานของที่นี่ดูจะมาจากหลากหลายชาติพันธุ์ แต่เท่าที่เห็นล้วนเป็นคนเอเซีย ทั้งคนศรีลังกา อินโดนีเซีย และอื่นๆ แต่ทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และสามารถใช้เครื่องแปลใช้คุยกันในกรณีที่ลูกค้าไม่ถนัดที่จะใช้ภาษาอังกฤษ
ระหว่างพักที่นี่ (รวมถึงโรงแรมอื่นๆส้วนใหญ่) เราไม่ต้องเตรียมของอะไรไปมาก สามารถใส่ชุดยูคาตะที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ หรือไปหยิบเปลี่ยนใหม่ได้ตลอดเวลา .. เครื่องอาบน้ำก็มีมีพร้อมสรรพ
อาหารที่เสริฟที่นี่เป็นแบบอาหารชุด .. คืนแรกที่เราไปถึง เป็นอาหารแบบตะวันตก
.. อาหารเช้าจะเป็นชุดอาหารญี่ปุ่น
โรงแรมมีบริการออนเซนที่มีชื่อ .. แต่ฉันไม่ได้ไปใช้บริการ ส่วนเพื่อนที่ไปแช่ออนเซน มีความประทับใจในมิตรภาพของคนญี่ปุ่นที่ให้กับคนต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยอย่างเรา
เช้าวันใหม่ .. ฉันเปิดม่านหน้าต่างออก เจอกับแสงเทพที่ส่องทะลุจากก้อนเมฆลงมาเหมือนสปอร์ตไลท์ ถือเป็นลางดี อุณหภูมิก็กำลังเย็นสบาย ไม่หนาว
ทิวทัศน์ของหุบเขาที่มองจากห้องพักนั้น ว๊าววว มาก .. โรงแรมตั้งอยู่บนชง่อนผาที่สูงมากพอสมควร เมื่อมองลงไปจะเห็นลำธารเล็กๆที่ไหลมาตามโตรกผา
.. ทัศนียภาพของต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีที่เป็นส่วนประกอบของภาพที่ปรากฏในสายตานั้นงดงาม .. แสงแรกของวันที่ปรากฏทางด้านทิศตะวันออกหลังภูเขา ส่องมากระทบกับใบไม้สีสันสดใส ได้เพิ่มมิติให้ภาพที่สวยอยู่แล้ว งดงามมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่สุดแสนพิเศษสำหรับห้องพักของเรา คือ อ่างอาบน้ำที่เป็นออนเซนส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ที่ระเบียงห้อง
.. อาบน้ำอย่างแสนสุข รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่แผ่กว้างต่อหน้าคุณ .. ช้าๆ งดงามและผ่อนคลาย เป็นการปรนเปรอตัวเองที่วิเศษสุดค่ะ ...
ช่วงเช้าฉันใช้เวลาเล็กน้อย ออกไปเดินสำรวจใกล้ๆบริเวณที่พัก .. ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษค่ะ แล้วเราก็ออกเดินทางต่อ
The real voyage of discovery consists not in seeking new landscapes but in having new eyes!
โฆษณา