วันนี้พาเที่ยว 1 วันกับวัดเก่าน่าชมที่เมืองนนท์
1.วัดปราสาท วัดเก่าแก่ ที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง มีอายุกว่า 400 ปี
ผังวัด
หนึ่งในวัดที่มี โบสถ์มหาอุด ที่หาชมได้ยากนัก ภายในวัดมีความน่าสนใจมากมาย นอกจากความโดดเด่นของ “อุโบสถ” ที่มีลักษณะการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนศิลปะสมัยอยุธยา ซึ่งตัวอุโบสถมีลักษณะคล้ายท้องเรือสำเภา มีประตูทางเข้าอุโบสถ 3 บาน ไม่มีหน้าต่าง ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีการสร้างช่องแสงด้านหลังองค์พระประธาน 1 ช่อง เพื่อให้แสงสว่างกระจายไปทั่วพระประธานเปรียบประมาณว่ามีรัศมีส่องแสงออกมาคะ
ภายในโบสถ์ประดิษฐาน พระพุทธรูป พระประธานคือ หลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธรูปปราสาททอง
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ พร้อมพระสาวกและหมู่พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิและปางมารวิชัยอีกกว่า 25 องค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวนนท์กราบไหว้บูชาเราเข้าด้านในโบสถ์แล้ว รู้สึกเหมือนโดนสะกดมนต์ให้จิตใจอยู่กับพระธรรม เหมาะกับการเข้ามาสวดมนต์และนั่งสมาธิ เป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
ในโบสถ์มีกระดาษพิมพ์บทสวดขอขมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบทสวดพระมหาจักรพรรดิ์ เราสามารถหยิบสวดตามได้เลยคะ
ภายในอุโบสถ
เรานั่งมองไปรอบๆ ภายในโบถส์เราจะได้เห็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทศชาติชาดก ที่ภาพจะสึกกร่อนตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงสภาพให้เห็นถึงความสวยงามของฝีมือช่างวาดได้คะ
2. วัดชมภูเวก
เป็น วัดดัง ที่ไม่ควรพลาดหากได้มีโอกาสมาเที่ยว นนทบุรี เพราะว่าเป็นวัดต้นแบบที่สร้างได้มาตรฐานดีเยี่ยมวัดหนึ่งคะ
ภายในวัด
พอเดินเข้ามาในวัด สัญลักษณ์เด่นที่เราจะเห็นสง่าด้านขวามือของวัดก็คือ พระมุเตา หรือ เจดีย์ทรงมอญ โดยมีเจดีย์องค์ใหญ่ล้อมรอบด้วยเจดีย์รายรอบ 4 องค์
เจดีย์
ผังวัด ทำให้เดินชมได้ทั่ว
ด้านหลังจะมีโบสถ์หรืออุโบสถหลังเก่าที่ออกแบบให้มีประตูเข้า-ออกทางด้านหน้าด้านเดียวตามคติมอญ ที่เรียกว่า “โบสถ์มหาอุต” ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณรอบด้าน โดยเฉพาะภาพของพระแม่ธรณีที่อยู่บริเวณผนังเหนือประตูทางเข้า ถือได้ว่าเป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมในท่วงท่าที่อ่อนช้อยงดงามอยู่ในซุ้มเรือนแก้วยอดแหลมและได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพแม่พระธรณีที่งดงามที่สุดภาพหนึ่งของเมืองไทยเลยคะ ภายในอุโบสถหลังใหม่นั้น ก็จะเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานศิลปะสุโขทัยและพระพุทธรูปยืนอีก 2 องค์
ภายในโบสถ์มหาอุต
รูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมในท่วงท่าที่อ่อนช้อยงดงาม
ถัดมาด้านหลังเป็นวิหารอีกองค์สำหรับประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง มีทางขึ้นวนเป็นพญานาค สวยงามมากคะ
วิหาารพระพทุธบาท
ภายในวิหารได้สร้างมณฑปไม้ครอบพระพุทธบาทไว้อีกชั้นหนึ่ง ด้านบนของวิหารตกแต่งด้วยพระพุทธรูปมากมาย มีบางองค์สีเปลียนเป็นสีชมพูพ้องกับชื่อวัดเลยคะ
เดินมาด้านหลังก็จะเป็นศาลท่านพ่อปู่ศรีชมภู เป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์มากแห่งหนึ่งของวัดชมภูเวก เป็นสถานที่สถิตของดวงวิญญาณท่านพ่อปู่ศรีชมภู คอยดูแลรักษาวัดแห่งนี้ ในอดีตท่านเป็นผู้นำพี่น้องชาวมอญ ทำสงครามกับพม่าตามที่ท่านผู้รู้ภายในวัดได้บอกไว้
3. วัดชลอ
วัดชลอ ตั้งอยู่ในอำเภอบางกรวย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ฮไลท์ของวัด อย่าง อุโบสถเรือสุพรรณหงส์ ที่ตั้งสง่าอยู่ภายในวัดนั้น
โบสถ์แอ่นโค้งแบบที่เรียกว่า “ตกท้องสำเภา”
ซึ่งเป็นอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างภายหลัง ส่วนอุโบสถหลังเก่าซึ่งอยู่ด้านหน้าของวัดนั้นก็เป็นศิลปะสมัยอยุธยา ฐานอาคารโบสถ์แอ่นโค้งแบบที่เรียกว่า “ตกท้องสำเภา” ซึ่งเป็นงานที่นิยมสร้างในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ด้านหลังของวัดติดคลองอ้อมนนท์ สามารถให้อาหารปลาได้ ที่นี่ร่มรื่น อากาศดี
ด้านหลังวัด
มูลเหตุของการสร้างวัดชะลอนั้น ด้วยตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยตอนเหนือที่เชื่อมต่อกับคลองอื่น เป็นโค้งน้ำที่น้ำไหลเชี่ยวจึงมักมีอุบัติเหตุอยู่เสมอ จึงสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตให้คนเรือได้ลดความเร็วและใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเมื่อเดินเรือมาถึงบริเวณนี้
ถ้าว่างๆ ขับรถไม่ไกลมาเที่ยวที่นี่ได้นะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
