Gen Z ชาวจีน พาเพื่อนใหม่มาเขย่าบัลลังก์ชาจีนโบราณ
ในวัฒนธรรมจีนอันแสนจะกว้างใหญ่ “ชา” ถือเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลาและมีสตอรี่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาในสังคมและธุรกิจมานานกว่าสามพันปี ชาวจีนดื่มชาประมาณ 40% ของโลก มันจึงเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันชาวจีนไปแล้ว แต่คนอายุต่ำกว่า 30 ปีหรือที่อยู่ในวัย Gen Z ซึ่งเติบโตมาในยุคที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูและการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน ก็กำลังมีบทบาทเปลี่ยนสายสัมพันธ์ของสังคมจีนกับเครื่องดื่มโบร่ำโบราณนี้ ผลกระทบที่ว่านี้ไม่ใช่แค่การดื่มชาเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อวิธีการชงและวิธีการเพลิดเพลินกับรสชาติของมัน
อิทธิพลของ Gen Z จุดประกายสิ่งที่เรียกว่า "การปฏิวัติกาแฟ" ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนเกิดเหตุการณ์สำคัญในการบริโภคกาแฟ นั่นคือการเข้ามาของ Starbucks ในปี 1990 และการเกิดขึ้นของ Luckin Coffee ในปี 2017 ธุรกิจทั้งสองได้เปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับกาแฟและชาต่อสังคมจีนอย่างมีนัยสำคัญ
Starbucks ทำให้คนจีนได้เรียนรู้ถึงการจ่ายเงินค่ากาแฟที่แพงกว่าชา และทำให้ชาวจีนได้รับประสบการณ์มากกว่าตัวเครื่องดื่ม
ส่วน Luckin Coffee ก็แสดงให้เห็นว่าจีนมีกลุ่มผู้ดื่มกาแฟที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยสนับสนุนกาแฟท้องถิ่นได้
ในขณะที่ผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่หลงใหลในสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น วัฒนธรรมกาแฟจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์นี้ ความสะดวกสบายและการเข้าถึงได้ง่าย กลายเป็นตัวกำหนดนิยามของร้านกาแฟใหม่ ๆ และได้ดึงดูดไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการ “เสพประสบการณ์”
กาแฟให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการปล่อยตัวปล่อยใจสู่อิสระเสรี มันจึงสอดคล้องกับความชอบของคนรุ่นที่เปลี่ยนจากลัทธิวัตถุนิยมไปสู่ประสบการณ์ การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมนี้ไม่ได้ลบล้างความสำคัญของชาไปเสียทีเดียว แต่กลับทำให้ภาพรวมการดื่มเครื่องดื่มดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แม้ว่าความสนใจในกาแฟจะเพิ่มมากขึ้น แต่ชาก็ยังคงเจริญเติบโตอยู่ต่อไป ในเมืองต่างๆ ของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซียะเหมิน และเฉิงตู ซึ่งเป็นที่ที่วัฒนธรรมกาแฟเจริญรุ่งเรืองนั้น ชาวเมืองก็ยังมีความกระตือรือร้นในการดื่มชาไม่แพ้กัน ตัวเลขชี้ว่าการบริโภคกาแฟและชานมไข่มุกในเมืองใหญ่ชั้นนำเหล่านี้แทบจะเท่า ๆ กัน
ความต้องการของ Gen Z มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโลกของชา ประมาณ 71% ของประสบการณ์การดื่มชา "ใหม่" อันหมายถึงชานมไข่มุกและชาผลไม้นั้น ได้รับแรงผลักดันจากความชอบของชาว Gen Z เพราะไลฟ์สไตล์ของการดื่มในระหว่างเดินทาง ความภักดีต่อแบรนด์ และความชื่นชอบในรสชาติที่หลากหลาย ได้กระตุ้นให้เกิดชาแบบใหม่ ๆ มากกว่าแบบดั้งเดิม
แบรนด์ชั้นนำอย่าง HeyTea ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการสร้างสรรค์ชาและมีผู้ติดตามจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่ารสชาติและการสร้างแบรนด์ในวัฒนธรรมการดื่มชานับเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่ว่า
วิถีวัฒนธรรมการดื่มชาของจีนคือการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับวัฒนธรรมกาแฟที่กำลังเติบโต แม้ว่าเทรนด์ต่างๆ อาจมาบรรจบกัน โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ แต่คนหนุ่มสาวกลับแสดงความรู้สึกชื่นชมเครื่องดื่มทั้งสองอย่างจริงใจ เป็นที่คาดว่าในอนาคตการเติบโตของทั้งสองตลาดจะเพิ่มเป็นสองเท่า โดยแต่ละตลาดต่างก็จะมอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้ดื่มโดยที่ไม่ทะเลาะวิวาทกัน
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
