สงครามยิว-ปาเลสไตน์ ตอนที่ 3 : ตระกูลร็อธชิลด์ผู้ช่วยก่อตั้งประเทศอิสราเอล
หมายเหตุของผุ้เขียน: คำว่ายิวและปาเลสไตน์ ในที่นี้ใช้เป็นคำสามัญ นาม ผู้เขียนไม่มีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะใช้เป็นคำที่แสดงถึงหรือสร้างความเกลียดชัง สบประมาท ปรามาส อาฆาตมาดร้าย ลบหลู่ดูหมิ่น ดูถูก เหยียดหยามหรือด้อยค่าหรือกระทบกระเทียบเปรียบเปรยทางมนุษยชาติ เชื้อชาติ ศาสนา และชาติพันธุ์ หรือเผ่าพันธุ์ใดๆทั้งสิ้น
“ ยุคนี้เงินคือพระเจ้าและร็อธชิลด์คือประกาศกของพระองค์” ไฮน์ริช ไฮน์ กวีเยอรมัน
ในตอนที่สามนี้ ริชชี่ขอพาท่านย้อนเวลา กลับไปดูเรื่องราวก่อนการก่อตั้งประเทศอิสราเอลตั้งแต่ ช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียนในช่วงปลายยุคจักรวรรดินิยม
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 อังกฤษขยายอาณานิคมไปทั่วโลกโดยสามารถรบชนะทุกประเทศกลายเป็นอภิมหาอำนาจอันดับหนึ่งนักล่าเมืองขึ้นแข่งกับฝรั่งเศสที่ตามมาห่างๆทั้งในยุโรปเอเซียและอาฟริกา
และที่อาฟริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 อังกฤษได้แผ่ขยายอิทธิพลครอบครองอียิปต์ ตะวันออกกลาง ซาอุดิอารเบีย ปาเลสไตน์ และอิรัค …
รวมทั้งครอบครองเยรูซาเล็มซึ่งกองทัพอังกฤษได้กรีฑาทัพเข้ายึดครองเยรูซาเล็มได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 ในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 1917 (และ ถอนออกจากเยรูซาเล็ม วันที่ 14 พฤษภาคม 1948 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ครองอยู่ 31 ปี )
อังกฤษเรียกดินแดนที่ยึดครองนี้ว่าดินแดนแห่งพันธสัญญาอาณัติปาเลสไตน์ ( Mandatory Palestine )
แต่ทำไมอังกฤษมาให้ความสำคัญอย่างมากต่อดินแดนที่แห้งแล้งที่สุดแห่งนี้ในปาเลสไตน์?
และทำไมต่อมาในปีที่ถอนทัพออกจากปาเลสไตน์กลับยกดินแดนแห่งพันธสัญญาอาณัติปาเลสไตน์ในความปกครองของตนนี้ให้ยิวชาตินิยมไซออนนิสต์ในยุโรปอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่นั่นทั้งๆที่ชาวยิวเป็นชน กลุ่มน้อยในปาเลสไตน์…อย่างหน้าตาเฉย…
อันเป็นที่มาของความลับแห่งการขัดแย้งจนถึงทุกวันนี้….
คำตอบเกือบทั้งหมดเริ่มแรกอยู่ที่ตระกูลร็อธชิลด์…
ย้อนกลับไปในปลายศตวรรษที่ 18 ต้นศตวรรษที่ 19 มหาเศรษฐีชาวยิว-อังกฤษ ลูกชายคนที่สามของไมเออร์ ร็อธชิลด์ ชื่อ บารอน เนธัน ร็อธชิลด์ ( 1777-1836 ) ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญที่รวยที่สุดในโลก…โดยเฉพาะในช่วงหลังสงครามนโปเลียนและปฏิวัติฝรั่งเศส
ไมเออร์ แอมเชล ร็อธชิลด์ ต้นตระกูลอภิมหาเศรษฐี 20 ล้านล้านเหรียญ ผู้ซึ่งกวีเยอรมันไฮน์ริช ไฮน์ กล่าวถึงว่า “ยุคนี้เงินคือพระเจ้าและร็อธชิลด์ตือประกาศกของพระองค์”
บิดาของเขาคือยิวชาวเยอรมันที่แฟรงก์เฟิร์ต ไมเออร์ แอมเชล ร็อธชิลด์ ( 1744- 1812 ) ผู้เป็นต้นตระกูล”โล่ห์แดง”หรือ”ร็อธชิลด์”( Rothschild=Red Shield ที่ได้รับพระราชทานตราประจำตระกูลในปี 1822 จากจักรพรรดิฟรานซิสที่ 1 แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี พ่อตานโปเลียน)
ไมเออร์เป็นนายธนาคารชาวยิวผู้สร้างความร่ำรวยจากการปฏิวัติฝรั่งเศส และ จากกองเถ้าถ่านความพินาศของสงครามนโปเลียน
เขาได้รับการขนานนามว่าเป็น” บิดาแห่งการเงินการคลังการธนาคารระหว่างประเทศ “
ไมเออร์กำเนิดมาจากชีวิตเด็กยากจนในเกตโตที่ แฟรงก์เฟิร์ต แต่ประสพความสำเร็จในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส จากการขายเหรียญกษาปณ์และของเก่าของกษัตริย์และขุนนางฝรั่งเศส ผันตัวเองมาเป็นนายธนาคารให้เจ้าชายวิลเลียมแห่งปรัสเซีย ( 1783-1851 ) ผู้ทำสงครามกับนโปเลียน
เมื่อนโปเลียนโจมตีปรัสเซียในปี 1806 เจ้าชายวิลเลียมได้ขอให้ไมเออร์และลูกชายสองคนขนเงินและสมบัติหนีไปไว้ที่อังกฤษและฝรั่งเศสโดยให้เนธันนำเอาไปลงทุนกับดยุ้คออฟเวลลิงตันที่กำลังรบกู้ชาติให้แก่สเปนจนสเปนสามารถประกาศอิสรภาพสำเร็จ
ไมเออร์กระจายความเสี่ยงส่งลูกชายทั้งห้าคนไปทำธุรกิจธนาคารในลอนดอน ปารีส เวียนนา แฟรงก์เฟิร์ต และเนเปิ้ล โดยเนธันลูกชายคนที่สาม ได้รับแต่งตั้งจากบิดาเมื่ออายุเพียง 21 ปี ในปี 1791 ให้ไปตั้งโรงงานทอผ้าที่แมนเชสเตอร์และลงทุนในตลาดหุ้นที่ลอนดอนในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมที่อังกฤษและปฏิวัติฝรั่งเศสและในช่วงสงครามนโปเลียน
บารอน เนธัน ร็อธชิลด์ผู้รวยที่สุดในโลกสมัยสงครามนโปเลียน
ในช่วงสงครามนโปเลียนที่ยุโรป เนธันสนับสนุนระบอบกษัตริย์จักรวรรดิปรัสเซีย รัสเซีย สวีเดน และออสเตรีย ให้เงินอังกฤษยืมเพื่อออกเงินกู้ต่อแก่จักรวรรดิเหล่านี้ในการรบกับนโปเลียน นานเกือบ 10 ปี
เมื่ออังกฤษประกาศสงครามกับฝรั่งเศส ในปี 1803 และตั้งจอมพลเรือ ลอร์ดโฮราชิโอ เนลสันเป็นแม่ทัพเรือ อังกฤษสามารถประเดิมเอาชนะกองทัพเรือผสมสเปน-ฝรั่งเศส ของนโปเลียนซึ่งบัญชาการรบโดยกษัตริย์แห่งสเปน น้องชายนโปเลียน ที่ทราฟัลการ์ในเดือนตุลาคม 1805 (อันเป็นที่มาของจตุรัสทราฟัลการ์ในกรุงลอนดอน)
จอมพลเรือ ลอร์ด โฮราชิโอ เนลสัน ขุนพลตาเดียวแขนด้วน ผู้รบชนะกองทัพเรือนโปเลียนที่ทราฟัลการ์ นอกฝั่งสเปน-โปรตุเกส
แต่กองทัพพันธมิตรทั้ง 5 กลับมาแพ้อย่างยับเยิน ต่อนโปเลียนในเดือนธันวาคม 1805 ที่ออสตราลิตซ์ (เช็คโกสโลวาเกีย) …และแพ้ย่อยยับมาตลอดในทุกสมรภูมิจนนโปเลียนสามารถยึดสเปนอิตาลีและยุโรปเกือบทั้งทวีป รวมถึงเข้าตีอียิปต์ และตะวันออกกลาง ในปี 1809
ทำให้กษัตริย์ และขุนนางทั้งปวงของยุโรปต้องพึ่งบริการทุกระดับประทับใจของนายธนาคารอย่างไมเออ์รและลูกชายทั้ง5 ของเขาในการต้องรีบซื้อขายเคลื่อนย้ายทรัพย์สมบัติออกนอกประเทศ ทำให้ตระกูลร็อธชิลด์สะสมของมีค่าวัตถุโบราณและเพชรนิลจินดามหาศาลมากกว่า 60,000 ชิ้น ซึ่งต่อมาได้บริจาคออกไปให้มากกว่า 150 พิพิธภัณฑ์ทั่วโลก
ในขณะเดียวกัน ในช่วงการรบกับนโปเลียนเป็นเวลามากกว่า10ปี เนธัน ร็อธชิลด์ได้กลายเป็นนายธนาคารใหญ่ที่สุดในยุโรปผูกขาดการค้าการลงทุนในสมรภูมิและสนามรบ และควบคุมตลาดหุ้นในอังกฤษและยุโรป ทำมาหากิน ค้าทอง เงิน อาวุธ อาหาร เหล้า ยาสูบ ที่ดิน แทนบิดาไมเออร์ซึ่งเสียชีวิตในปี 1812
เขาเป็นคนไม่กี่คนที่มีม้าเร็วมาแจ้งข่าวสงครามว่าใครเป็นผู้ได้รับชัยชนะต่อนโปเลียนที่รัสเซียและวอเตอร์ลูและได้เข้าซื้อหุ้นอังกฤษในขณะที่ทุกคนเทขาย
การรบครั้งสุดท้ายของนโปเลียนในสงครามวอเตอร์ลู ที่เบลเยี่ยม ที่ซึ่งดยุคแห่งเวลลิงตันรบชนะนโปเลียน
ลูกชายคนที่5 ของ ไมเออร์ ชื่อ เจคอบ ( 1792-1868) ก็ไม่แพ้พี่ชายก็ได้รับมอบหมายจากบิดาให้ตั้งธนาคารที่ปารีสในช่วงสงครามนโปเลียน ทำทีว่าช่วยจักรวรรดิฝรั่งเศส แต่ลับๆกลับช่วยบิดากับพี่ชาย เนธัน ค่อยๆผ่องถ่ายสินทรัพย์และทรัพย์สมบัติของพวกเจ้าฝ่ายตรงข้ามนโปเลียนให้ออกจากยุโรป และดำเนินกิจการธนาคารต่อจาก บิดา และ เนธัน พี่ชาย (หลังจากที่บิดาเสียในปี 1812 ในปีที่นโปเลียนแพ้ต่อรัสเซีย และต่อมาหลังจากเนธันตาย ในปี 1836)
บารอนไลโอเนล เดอร็อธชิลด์ ผู้เข้าเล่นการเมืองในรัฐสภาอังกฤษ
ต่อมาลูกชายคนโตของ บารอน เนธัน คือ บารอน ไลโอเนล เดอ ร็อธชิลด์ ( 1808-1879 ) เป็นยิวคนแรกที่เข้าไปนั่งในรัฐสภาอังกฤษ กลายเป็นนักการเมืองที่สนับสนุนยิว เขาสนับสนุนสงครามไครเมีย ปฏิเสธเงินกู้ให้รัสเซียที่ต่อต้านยิวในโปแลนด์ และเข้าซื้อหุ้นคลองสุเอซจากรัฐบาลอียิปต์ คุมเส้นทางเดินเรือโลก
ส่วนลูกชายคนโต ของเจคอบ คือเอ็ดมอนด์ (1845-1934) เกิดที่ฝรั่งเศส ก็เก่งไม่แพ้กัน เขาได้รับอิทธิพลจากปรมาจารย์เจ้าของปรัชญา ยิวขาตินิยม ไซออนนิสต์ และเป็นคนให้เงินรายใหญ่ที่สุดแก่ยิวไซออนนิสต์ ของตระกูล ได้สมญาจากชาวยิว ไซออนนิสต์ว่า “ ฮาบารอน ฮานาดิฟ ฮาเยดูอา” ( Habaron Hanadiv Hayedouah ) หรือแปลว่า “ท่านบารอนท่านผู้มีมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” ต่อชนชาติยิว…
บารอนเอ็ดมอนด์ ร็อธชิลด์ ผู้มีอุปการคุณให้เงินตั้งประเทศอิสราเอลและรัฐบาลอิสราเอลถึงกับพิมพ์รูปของเขาบนธนบัตร 500 เชเก็ล และสร้างอนุสรณ์สถานฝังไว้ไว้บนยอดเขาเมืองท่าไฮฟา เจ้าของไวน์ ชาโต ลาฟิต
เจ้าของ ชาโต เดอ ร็อธชิลด์ อันลือขื่อ ที่ บูลอญจน์-บียองกูต์ ตัวจริงเสียงจริง บารอนเอ็ดมอนด์ เดอร็อธชิลด์ เป็นผู้อุปถัมป์ให้ตั้งประเทศอิสราเอล เอ็ดมอนด์เป็นเพื่อนสนิทกับ ชาอิม ไวซ์มันน์ ประธานาธิบดีคนแรกของอิสราเอล
เมื่อตายลงและภริยาตามไปติดๆอีกเพียง 1 ปีต่อมาศพของทั้งคู่ถูกนำไปฝังที่ สุสาน แปร์ ลาแชส และในปี 1954 ได้ถูกนำไปฝังยังประเทศอิสราเอล เมื่อเรือถึงเมืองท่าไฮฟา รัฐบาลอิสราเอลได้มีการเปิดแตรไซเร็น และยิงสลุต 19 นัด และประธานาธิบดี เบนกูเรียน ได้กล่าวสดุดีคุณงามความดีและนำทั้งคู่ไปฝังบนเนินเขาสูงสุดของเมืองไฮฟา เรียกว่า รามัต ฮานาดิฟ แปลว่าอนุสรณ์สถานของผู้มีมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และตั้งมูลนิธิ Yod Hanadiv ในปีนั้น
ลูกชายของเอ็ดมอนด์ได้บริจาคเงินสร้างรัฐสภา คเนสเส็ต ( Knesset ) ให้ทั้งหมด และธนาคารแห่งชาติอิสราเอลได้พิมพ์รูปของเอ็ดมอนด์ บิดาของเขาลงบนธนบัตร ใบละ 500 เชเก็ล และตั้งชื่อบูลวาร์ด ร็อธชิลด์ที่กรุงเทลอาวีฟและที่อื่นทั่วอิสราเอล
ปัจจุบันตระกูลร็อธชิลด์หรือร็อธไชลด์ แล้วแต่จะเรียกยังมีอำนาจและอิทธิพล ต่อรัฐบาลต่างๆทั่วโลก รวมทั้งรัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา
นอกจากแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติด้วยกัน ร็อธชิลด์ยังลงทุนในกิจการร่วมกัน มีทรัพย์สมบัติมหาศาล ถึง 20 ล้านล้านเหรียญ บริษัทที่ตั้งโดยเนธันในปี 1811 มีอายุได้ 212 ปีแล้ว…และถ้านับช่วงบิดาของเนธันธนาคารก็อยู่มาเกือบ 250 ปีทีเดียว มีรายได้ มากกว่า 690 พันล้านเหรียญต่อปี ( มากกว่า GDP ไทยปีนี้ และประมาณการอีก 5 ปีข้างหน้า )
ที่ทำการบริษัทร็อธชิลด์ใน City of London
มีปราสาทและคฤหาสน์มากกว่า 1800 หลัง มีที่ดิน มากกว่า 60,000 ตารางไมล์ หรือ 1/3 ของประเทศไทย ใกล้เคียงกับรัฐนิวยอร์ค ซึ่งรวมแมนฮัตตันเข้าไปด้วย เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเกิน 100 ลำ ทองคำ 45 พันล้านเหรียญ เรือยอชท์มากกว่า 60 ลำ เรือสำราญมากกว่า 130 ลำ เรือบรรทุกสินค้ามากกว่า 400 ลำ มีน้ำมันสำรองไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาร์เรล ธนาคาร 52 ธนาคาร บริษัทยา110 บริษัทไบโอเทค 19 และห้องแล็บ ไม่ต่ำกว่า 75 แห่งทั่วโลก
มีไม่หวัดไม่ไหวจนคนจนๆทั่วไปอย่างริชชี่คิดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 500 ล้านล้านเหรียญ นั่นปะไร…
แต่เป็นไปไม่ได้เพราะสมบัติโลกรวมกันไม่นับป่าและทรัพยากรธรรมชาติมี ค่าเพียง 450 ล้านล้านเหรียญในปี 2015 และเป็นไปไม่ได้ที่ร็อธชิลด์จะมีสมบัติมากกว่าสมบัติโลก และเป็นไปไม่ได้ที่จะมีมูลค่าเกินประเทศสหรัฐ ( 100 ล้านล้านเหรียญ )
นอกจากทรัพย์สมบัติเหล่านี้ คนไทยยังรู้จักร็อธชิลด์ในเรื่องเหล้าองุ่น ตระกูล ลาฟิต ที่ร็อธชิลด์ยังเป็นเจ้าของ โดยเอ็ดมอนด์ ฃื้อไว้ตั้งแต่ปี 1868 ( สมัยปลายรัชกาลที่4 ต้นรัชกาลที่5) ปัจจุบันคือ ชาโต ลาฟิต ร็อธชิลด์…1 ใน 5 อรหันต์
ไวน์อรหันต์ ลาฟิต ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ทรงโปรด และเป็นไวน์อันดับหนึ่งของฝรั่งเศสสมัยนโปเลียน
อันได้แก่ ลาฟิต ลาตูร์ โอบริออง มาโกซ์ และมูตองร็อธชิลด์ บางท่านอาจจะเติม เปตรุส ไปด้วย ก็ไม่ผิดกติกาอันใด ถ้าเป็น ตระกูลไวน์ปอลยัค ละก้อ…..ถึงไหนถึงกัน
ว่าแล้วก็เปรี้ยวปากขอไปเบรคเพื่อ ดมดอมและหอมไวน์ก่อน สำหรับตอนต่อไปค่อยกลับมาเล่าเรื่องไวน์ เอ๊ย ร็อธชิลด์ต่อ…เอิ๊ก
ขอขอบคุณ:
◦
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
