7 ธ.ค. 2023 เวลา 12:02 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

**ตำนานเครื่องค้นหาเสียงในสงครามโลกครั้งที่ 1**

ก่อนการพัฒนาระบบเรดาร์ เจ้าหน้าที่ทหารต้องพึ่งพาวิธีต่างๆ ในการค้นหาและติดตามเครื่องบินข้าศึกที่กำลังเข้ามา
หนึ่งในวิธีดังกล่าวคือการใช้ "เครื่องค้นหาเสียง" หรือที่เรียกว่าเครื่องระบุตำแหน่งเสียง (acoustic locator) อุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับช่องทางขนาดใหญ่หรือเครื่องขยายเสียง ได้ถูกวางตำแหน่งอย่างชาญฉลาดเพื่อรับคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมาโดยเครื่องบินที่กำลังเข้าใกล้ แม้แต่รุ่นพกพาก็มี
เครื่องค้นหาเสียงทำงานโดยใช้หลักการตรีโกณมิติ โดยการวิเคราะห์ความแตกต่างเล็กน้อยของเสียงที่ไปถึงแต่ละแตรของอุปกรณ์สองหรือสามอัน ผู้ปฏิบัติงานสามารถระบุทิศทางโดยประมาณของแหล่งที่มาของเสียงได้ ยิ่งเครื่องบินอยู่ใกล้มากเท่าไหร่ ความแตกต่างของความเข้มของเสียงระหว่างแตรก็จะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น ข้อมูลนี้จะถูกส่งต่อไปยังปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ทำให้พวกเขาสามารถคาดการณ์การเข้าใกล้ของศัตรูและเตรียมการป้องกันได้
เครื่องค้นหาเสียงถูกนำไปใช้ครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเฉพาะในช่วงแรกของการทำสงครามทางอากาศ แม้ว่าพวกมันจะให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับตำแหน่งของศัตรู แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ประสิทธิภาพของพวกมันได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ เสียงรบกวนพื้นหลัง และความซับซ้อนในการตีความความแตกต่างของเสียงที่ละเอียดอ่อน นอกจากนี้ เครื่องค้นหาเสียงยังเหมาะสำหรับการตรวจจับเครื่องบินที่บินต่ำเป็นหลัก เนื่องจากเครื่องบินที่บินสูงนั้นยากที่จะมองเห็นเมื่อเทียบกับเสียงรบกวนพื้นหลัง
การถือกำเนิดของระบบเรดาร์แบบปฏิบัติจริงชุดแรกได้ส่งเครื่องค้นหาเสียงไปสู่ความลืมเลือน และสิ่งที่เรามีส่วนใหญ่คือภาพถ่ายที่แสดงช่วงเวลาสั้นๆ นั้น
เครื่องค้นหาเสียงอาจไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงความฉลาดและความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการพัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น
โฆษณา