8 ธ.ค. 2023 เวลา 09:17 • ท่องเที่ยว
วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน

วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

วัดที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย
ผู้เขียนได้มีโอกาสไหว้พระทำบุญในวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวจากประสบการณ์โดยตรงที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศของวัดแห่งนี้กันค่ะ
วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
ก่อนอื่นผู้เขียนจะพาผู้อ่านมาแนะนำทำความรู้จักกับวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องราวความเป็นมากันก่อนนะคะ
วัดพระศรีมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ถูกสร้างขึ้นในสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการสร้างวัดขึ้นมาบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญเพื่อเป็นอนุสรณ์การปกครองระบอบประชาธิปไตย
วัดพระศรีมหาธาตุมีกำหนดให้แล้วเสร็จทันวันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2484 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้สร้างวัดขึ้นโดยให้ชื่อว่า วัดประชาธิปไตย
ในระหว่างการก่อสร้างพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (ขณะดำรงตำแหน่งนาวาเอก หลวงธำรงค์นาวาสวัสดิ์) ได้เดินทางไปขอพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย รวมทั้งกิ่งพระศรีมหาโพธิ 5 กิ่ง จากต้นที่สืบเนื่องมาจากต้นที่พระโคตมพุทธเจ้าเสด็จประทับ และตรัสรู้ พร้อมดินจากสังเวชนียสถานคือสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ที่แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน
รัฐบาลได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ กิ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์และดินดังกล่าวมาประดิษฐานที่วัดซึ่งกำลังสร้างนี้
จากนั้นได้มีการตั้งชื่อวัดว่า วัดพระศรีมหาธาตุ และถวายเป็นเสนาสนะเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485
วัดพระศรีมหาธาตุมีถาวรวัตถุที่สำคัญ คือ พระเจดีย์ศรีมหาธาตุ ซึ่งภายในมีเจดีย์องค์เล็กประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนผนังมีช่องบรรจุอัฐิของผู้ทำประโยชน์แก่ประเทศ และยังมีพระศรีสัมพุทธมุนี เป็นพระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัยซึ่งเดิมประดิษฐานที่วังหน้า
สำหรับพื้นที่ภายในวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด 246 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน แบ่งออกเป็นที่ตั้งวัด 83 ไร่เศษ และที่ธรณีสงฆ์เหลือจากที่ตั้งวัดอีก 163 ไร่เศษ ได้รับอนุญาตให้สร้างเป็นที่สำนักสงฆ์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2484 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2484
หลังจากที่ผู้เขียนได้แนะนำความเป็นมาของวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารกันไปแล้ว ผู้เขียนจะพาผู้อ่านมาแนะนำกิจกรรมของวัดนี้กันต่อค่ะ เนื่องจากผู้เขียนได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมทางศาสนาหลายอย่างภายในวัด จึงได้รวบรวมกิจกรรมมาฝากผู้อ่านกันค่ะ จะมีกิจกรรมอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ
1.ไหว้พระทำบุญ เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต
เมื่อเดินเข้ามายังประตูทางเข้ามุ่งหน้าสู่พระเจดีย์ของวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บริเวณด้านหน้าทางด้านซ้ายมือจะพบกับจุดร่วมทำบุญหยอดเงินใส่ตู้บริจาคและมีถาดใส่ดอกไม้ไหว้พระ ซึ่งจะมีดอกไม้ให้เลือก 2 อย่าง คือ ดอกบัวและดอกกล้วยไม้ ถาดใส่ชุดธูปเทียนและทองคำเปลว และยังมีให้เลือกทำบุญหยอดเงินใส่บาตรตามพระประจำวันเกิด ซึ่งจะมีจานใส่เหรียญตามจำนวนที่แตกต่างกันไปในแต่ละวันเกิดและเหรียญสำหรับใส่บาตรอื่น ๆ ที่ไม่ใช่บาตรพระประจำวันเกิดรวมไว้ให้ด้วย
จุดทำบุญบริจาคซื้อดอกไม้ ธูป เทียน ทอง
2.ปิดทองพระ
หลังจากที่ผู้เขียนได้ไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนก็เลือกปิดทองหลังพระที่องค์พระนอน ซึ่งเป็นพระประจำวันเกิดของผู้เขียน
3.เติมน้ำมันตะเกียงประจำวันเกิด เพิ่มแสงสว่างนำทางชีวิต
เมื่อเดินต่อมาทางด้านซ้ายจากจุดทำบุญไหว้พระและปิดทอง จะพบกับจุดทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง ซึ่งจะมีถังใส่ขวดเติมน้ำมันตะเกียงวางไว้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเติมน้ำมันตะเกียง พร้อมตู้รับบริจาคทำบุญตามกำลังศรัทธา ซึ่งผู้เขียนได้ทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงพร้อมอธิษฐานเพื่อขอขมาและอโหสิกรรมต่อสรรพสิ่งทั้งหลาย รวมทั้งขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
จุดเติมน้ำมันตะเกียงประจำวันเกิด
4.ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับ
จุดทำบุญถวายชุดสังฆทานจะอยู่ทางด้านขวาจากจุดทำบุญไหว้พระ ซึ่งเป็นศาลาที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ผู้เขียนได้มีโอกาสถวายสังฆทาน ซึ่งได้เลือกทำบุญจากชุดสังฆทานที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ทำบุญตามกำลังศรัทธา ซึ่งจะมีพุทธศาสนิกชนทยอยมาถวายสังฆทานอยู่ตลอดเวลา ผู้เขียนได้ถวายชุดสังฆทานพร้อมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับคุณปู่ คุณย่า และคุณยาย
จุดทำบุญถวายสังฆทาน
5.นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
ผู้เขียนได้นั่งสมาธิภายในพระเจดีย์ ซึ่งบรรยากาศภายในพระเจดีย์เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ มีอากาศที่เย็นสบาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะกับการทำสมาธิ
6.ทำทานให้อาหารปลาและเต่า กับการให้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
 
เป็นกิจกรรมที่ผู้เขียนทำเป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนกลับ โดยผู้เขียนเลือกซื้ออาหารปลาจากจุดขายที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ กับสระน้ำ โดยอาหารปลาที่ขายนั้นจะมีให้เลือก 2 อย่าง คือ อาหารแบบเม็ด จะมีแบบถังเล็ก ราคา 20 บาท และถังใหญ่ ราคา 50 บาท และขนมปังก้อน ราคา 35 บาท ผู้เขียนได้เลือกซื้ออาหารปลาแบบถังเล็กมาให้อาหารปลาในสระน้ำ ซึ่งบริเวณสระน้ำของวัดมีปลาอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้มีโอกาสให้อาหารเต่าอย่างใกล้ชิด ซึ่งในตอนแรกผู้เขียนได้ให้อาหารปลาเสร็จและกำลังจะเตรียมตัวเดินทางกลับ ก็ได้มีเต่าว่ายน้ำมาหา ทำให้ผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะเดินกลับไปซื้อขนมปังก้อนจากจุดขายอาหารปลากลับมาให้เต่า ซึ่งเต่าตัวนี้พยายามจะเดินขึ้นมาหาผู้เขียน ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเอ็นดูในความน่ารักของเต่าเป็นอย่างมาก
บรรยากาศร่มรื่นภายในวัด
ผู้เขียนใช้เวลาในการเดินสำรวจบรรยากาศรอบ ๆ ภายในวัด ซึ่งวัดนี้จะมีจุดเด่นตรงที่มีสะพานทอดยาวเดินไปยังลานต้นโพธิ์ที่อยู่กลางน้ำ โดยมีสระน้ำล้อมรอบและมีจุดให้อาหารปลาและจุดปล่อยปลา
บริเวณลานต้นโพธิ์กลางน้ำ
นอกจากบริเวณลานต้นโพธิ์กลางน้ำแล้ว ยังมีสวนและพื้นที่สีเขียวอยู่รายล้อมภายในบริเวณวัด ซึ่งทำให้บรรยากาศภายในวัดมีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก เหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อนนอกเหนือจากการมาไหว้พระทำบุญอีกด้วยค่ะ
พื้นที่สีเขียวภายในบริเวณวัด
ข้อมูลการเดินทาง
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมายังวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร สามารถเลือกเดินทางด้วยวิธีขับรถยนต์ส่วนตัว (ทางวัดมีพื้นที่จอดรถไว้รองรับผู้ที่เดินทางเป็นจำนวนมาก) หรือจะนั่งรถสาธารณะ ซึ่งมีให้เลือกเดินทางได้หลายวิธี หากเลือกเดินทางโดย BTS ให้ลงที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) ส่วนรถเมล์ให้ขึ้นสาย 26 29ก 34 39 51 59 95 107 114 126 129 185 188 503 513 522 524 543 ค่ะ
สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวที่ได้นำเสนอไป ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน หากใครยังไม่รู้ว่าจะไปไหว้พระทำบุญที่ไหนดี ผู้เขียนขอแนะนำวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารค่ะ นอกจากจะได้มาไหว้พระทำบุญแล้ว ยังสามารถแวะมาพักผ่อนในวันหยุดกันได้ด้วยค่ะ
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา