Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MONEY LAB
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
12 ธ.ค. 2023 เวลา 04:00 • ธุรกิจ
โมเดลธุรกิจประกัน กู้เงินคนอื่นฟรี แล้วเอาไปลงทุน
หลายคนอาจไม่รู้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนระดับโลก ชื่นชอบธุรกิจประกันเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่า ธุรกิจประกันเป็นเหมือนเครื่องจักรผลิตเงินสดที่ยอดเยี่ยมมาก
2
นอกจากนั้น จุดเริ่มต้นของอาณาจักร Berkshire Hathaway ของบัฟเฟตต์ ก็มาจากการซื้อธุรกิจประกันที่ชื่อ GEICO เช่นกัน
1
แล้วธุรกิจประกัน เป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดที่ยอดเยี่ยม ได้อย่างไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
2
ธุรกิจประกัน เกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่มีการเดินเรือค้าขายทางทะเล โดยพ่อค้าที่กลัวว่าเรือสินค้าของตัวเองจะประสบภัย ก็จะทำสัญญาไว้กับผู้รับประกันภัย
พ่อค้าจะมอบสินค้าจำนวนหนึ่ง ไว้ให้ผู้รับประกันภัย หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า ค่าเบี้ยประกัน เพื่อแลกกับค่าชดเชย ในกรณีที่เรือของพ่อค้าต้องประสบภัยพิบัติทางทะเล
จะเห็นได้ว่า โมเดลธุรกิจประกัน ก็คือการโอนความเสี่ยง จากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่ง โดยจ่ายค่าเบี้ยประกัน เพื่อแลกกับค่าสินไหมทดแทน
รู้หรือไม่ว่า ค่าเบี้ยประกัน ที่บริษัทประกันภัยและประกันชีวิตในประเทศไทยรับเข้ามา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่าสูงถึง 660,000 ล้านบาท
ซึ่งเบี้ยประกันเหล่านี้ ถือเป็นกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาในบริษัทประกันอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ กระแสเงินสดจะไหลออกจากบริษัท ก็ต่อเมื่อบริษัทต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกัน
2
พูดง่าย ๆ ก็คือ ธุรกิจประกันจะมีเงินสดไหลเข้ามาทุกปี และจะเก็บเงินไว้ที่ตัวเอง จนกระทั่งเกิดภัยพิบัติขึ้นมา และถูกเคลม
ซึ่งเบี้ยประกันที่บริษัทรับมาโดยที่ยังไม่ถูกเคลม จะเรียกว่า FLOAT
ในทางบัญชี บริษัทจะบันทึก FLOAT เป็นหนี้สิน เพราะเบี้ยที่บริษัทรับเข้ามา บริษัทมีโอกาสที่จะต้องจ่ายเป็นเงินชดเชยออกไป ในอนาคต
2
แต่จริง ๆ แล้วโอกาสที่ธุรกิจประกันภัยในไทย จะต้องจ่ายเงินชดเชยออกไป มีแค่เพียง 50% เท่านั้น
หมายความว่า หากบริษัทรับเบี้ยประกันมา 100 ล้านบาท ตามสถิติแล้วบริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในอนาคตอยู่ที่ 50 ล้านบาทเท่านั้น
พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้บริษัทประกัน สามารถนำ FLOAT ไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อได้ ซึ่งนี่ก็คือข้อดีของธุรกิจประกัน
1
เพราะตามปกติแล้ว เมื่อบริษัททั่วไปต้องการเงินลงทุน ก็คงหนีไม่พ้นต้องกู้ยืมเงิน หรือหาคนมาลงทุนเพิ่ม
แต่ถ้าบริษัทประกัน ต้องการจะลงทุนในโครงการหรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ก็สามารถนำ FLOAT ส่วนที่เหลือไปลงทุนได้ โดยไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินให้เสียดอกเบี้ย
จึงอาจเรียกได้ว่า บริษัทประกันเป็นผู้กู้เงินฟรีรายใหญ่รายหนึ่งก็ว่าได้
1
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อแตกต่างของธุรกิจประกันภัยกับประกันชีวิต ก็คือระยะเวลาของการเคลมประกัน
1
โดยธุรกิจประกันชีวิต จะมีระยะเวลาการเคลมประกันที่นานกว่าธุรกิจประกันภัย
ทำให้บริษัทประกันชีวิต มีข้อได้เปรียบคือ สามารถแบ่งเงินบางส่วนเพื่อนำไปลงทุนระยะยาวได้ เพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยในระยะเวลาอันใกล้
ซึ่งการลงทุนระยะยาวก็มักจะมีความผันผวนที่ต่ำกว่า และทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนทบต้นได้อย่างเต็มที่ จนกลายเป็นเหมือนเครื่องจักรผลิตเงินสดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจประกันจะมีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และดูเหมือนเครื่องจักรผลิตเงินสด
1
แต่ถ้าบริหารจัดการความเสี่ยงได้ไม่ดี หรือไปรับประกันในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป ค่าเบี้ยประกันที่รับมา ก็อาจจะไม่พอจ่ายค่าสินไหมทดแทน จนนำไปสู่การล้มละลายได้เช่นกัน..
1
2
References
-
https://www.tgia.org/Non-LifeStatistics-TH
-
https://www.muangthai.co.th/th/about-mtl/investor-relations
-
https://thaipublica.org/2017/04/banyong-pongpanich-83/
-
https://www.longtunman.com/394
-
https://www.blockdit.com/posts/623919f6a47e097b46de08dc
ธุรกิจ
77 บันทึก
78
8
104
77
78
8
104
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย