เหตุผลที่ต้องค้าน “กำแพงกันคลื่นหาดปะเสยะวอและบางเก่า”
มูฮัมหมัดกัสดาฟี กูนา หนึ่งในเครือข่าย SavePantaiTIMUR บอกว่า “ปะเสวยะวอ คือ บ้านแม่ของผม” ถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่ที่ปะเสวยะวอเป็นหลักในปัจจุบัน แต่ความผูกพันกับชายหาดแถวนั้นยังคงมีอยู่ และไม่อยากเห็นชายหาด 16 กิโลเมตร ที่คนมลายูอย่างเราเรียกในภาษามลายูว่า Pantai TIMU(ปัน-ตัย-ติ-มอ) หรือ ชายฝั่งตะวันออก กลายเป็นกำแพงกันคลื่นเหมือนชายหาดอื่นๆที่พังมาแล้ว
โครงการกำแพงกันคลื่นหาดปะเสวยะวอ และ หาดบางเก่า
กัสดาฟี กล่าวว่า ผมได้เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนั้นด้วย และผมมีเหตุมากเพียงพอที่จะบอกกับสังคมว่าเราต้องหยุดโครงการกำแพงกันคลื่นหาดปะเสยะวอและหาดบางเก่านี้ ก่อนที่ชายหาดทั้งหมดของฝั่งตะวันออกจะถูกแทนที่ด้วยกำแพงหินตลอดแนวชายหาด
เหตุผลสำคัญประการแรก คือ ที่ผ่านมาสังคมไทยมีบทเรียนสำคัญของการสร้างกำแพงกันคลื่นบนชายหาดมากมายแล้วว่า คือความล้มเหลวของการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เมื่อสร้างกำแพงกันคลื่นชายหาดจะหายไป เกิดการกัดเซาะชายฝั่งมากขึ้น ชายหาดทั้ง 16 กิโลเมตร จะเสียหายหากเริ่มโครงการกำแพงกันคลื่นที่ปะเสยะวอและบางเก่า
ปิดกั้นการแสดงความเห็นและมีส่วนร่วมของประชาชน คือ ความไม่ชอบธรรมของโครงการนี้ และชัดเจนว่าผู้ที่เห็นต่างไม่ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นรวมถึงถูกข่มขู่คุกคามในเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน
กำแพงกันคลื่นปะเสยะวอและหาดบางเก่า ไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ในทางวิชาการยังมีการถ่ายเททราย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและส่งผลกระทบน้อยกว่ากำแพงกันคลื่น แต่มาตรการถ่ายเททรายกลับไม่ถูกนำมาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน
ทั้งหมดนี้ คือ เหตุผลสำคัญที่ต้องหยุดกำแพงกันคลื่นหาดปะเสวยะวอและบางเก่า ก่อนที่ชายหาดที่เรียกว่า Pantai TIMUR จะกลายเป็นกำแพงกันคลื่น
#กำแพงกันคลื่น #SavePantaiTIMUR #ทวงคืนชายหาด
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
