#ความอ่อนโยนเป็นคุณธรรมอันหนึ่ง ที่ควรเพาะบ่มขึ้นมาในจิตใจ
ผู้ที่มีจิตใจที่อ่อนโยน
ก็จะมีแต่ความคิดที่ดี ๆ คำพูดที่ดี ๆ
มีการกระทำที่ดี ๆ มีความรู้สึกที่ดี
มีความโอบอ้อมอารี
มีความรัก ความปรารถนาดีทั้งหลาย
ก็เรียกว่าเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงามนั่นเองนะ
คิดดี พูดดี ทำดี
เปรียบเหมือน "พื้นดิน"
ที่มีความชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์
สมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มีความชุ่มชื้น
พืชพันธุ์ธัญญาหารต่าง ๆ ผลหมากรากไม้
ก็เติบโตได้ มีความสมบูรณ์
อย่างเราดูหน้าฝนเนี่ย
ฝนตก จากพื้นดินแห้งแล้ง
ก็มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมา
ต้นไม้ก็เจริญงอกงามต่าง ๆ
ผิดกับช่วงที่แล้ง ผืนดินแห้งแล้ง
แตกระแหง มีความขาดแคลนต่างๆ
#ผลจากการใช้ชีวิตอยู่ในโลก
โดยเฉพาะโลกในยุคสมัยนี้
ที่เราก็ต้องหมุนไปตามกระแสของโลกเสียมาก
เป็นโลกที่ให้น้ำหนัก
กับเรื่องที่เรียกว่า "บริโภคนิยม"
สนองหาสิ่งต่าง ๆ ในโลก
เงินทอง ทรัพย์สมบัติ ลาภยศ ชื่อเสียง
ไขว่คว้าหาสิ่งต่าง ๆ ในโลก
... เข้าครอบครอง
เกิดผลกระทบตามมา
ก็คือ "เกิดกิเลส" เครื่องเศร้าหมองต่าง ๆ
กิเลสนี้เป็นไฟ มันเผา
ทำให้เกิดความเร่าร้อนทุรนทุราย
จากจิตใจที่มีความชุ่มชื้น
#ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า
".. จิตนี้ประภัสสร ผ่องใสมาแต่เดิม
แต่เศร้าหมอง เพราะอุปกิเลสจรมา.."
ผลจากการใช้ชีวิต
ทำให้เกิดกิเลสเครื่องเศร้าหมองต่าง ๆ
จากใจที่ผ่องใส
.. ก็เป็นใจที่ขุ่นมัว เศร้าหมองต่าง ๆ
.. เกิดความเครียด
.. เกิดความวิตกกังวล
.. เกิดความเร่าร้อนกระวนกระวาย
.. บางครั้งก็เกิดความเศร้า ความโศก
.. ความขุ่นเคืองใจ
.. ความคับแค้นใจต่าง ๆ
โดยเฉพาะคนในยุคสมัยนี้
ก็มีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจมากทีเดียว
โรคเครียด โรคซึมเศร้าต่าง ๆ
ร้อนอกร้อนใจ
ก็เหมือน "พื้นดิน"
ที่แห้ง แตกระแหงนั่นแหละ
จากความแห้งแล้ง
พื้นดินที่แห้งแล้งแตกระแหงนี้
ฝุ่นก็จะฟุ้งกระจายขึ้นมา
ฉันใดใจเรา...
ที่ชุ่มไปด้วยกิเลสเครื่องเศร้าหมองต่าง ๆ
ที่คอยเผาจิต เผาใจ รัดรึงจิตใจไว้
ทำให้เกิดความแข็ง ความกระด้างขึ้นมา
แล้วมันก็มีความฟุ้งขึ้นมา
เป็นความคิดต่าง ๆ ที่เรียกว่าความฟุ้งซ่าน
แล้วก็ความคิดในแง่ลบต่าง ๆ ขึ้นมา
เราจะพบว่า...
คนในยุคสมัยนี้ชอบคิดลบเยอะ คิดไม่ดี
คิดไม่ดี ต่อผู้อื่นบ้าง
คิดไม่ดี ต่อตัวเองบ้าง
#พอเราฝึกปฏิบัติเริ่มรู้เท่าทันจิตใจได้
#เราจะพบความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้น
เวลามีความคิดไม่ดีเกิดขึ้น
เรารู้สึกยังไง?..เราจะรู้สึกได้
ตอนที่ไม่ได้ปฏิบัติ
บางทีก็อาจจะไม่ค่อยได้รู้สึกอะไรมาก
แต่พอฝึกปฏิบัติ เริ่มเกิดเวทนานุปัสสนา
รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ในกาย ในใจ
เวลามีความคิดไม่ดีเกิดขึ้น รู้สึกยังไง?
ก็รับรู้ เรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
#เวลาคิดไม่ดี
ไม่ว่าจะคิดไม่ดีกับคนอื่นก็ดี
หรือแม้กระทั่งคิดไม่ดีต่อตัวเอง
บางทีก็โทษตัวเองบ้าง รู้สึกยังไง?
ผลมันสะท้อนออกมาตรง ๆ ที่เรียกว่า
"บาป และอกุศลธรรม" ให้ผลเป็นความทุกข์
ไม่ต้องรอให้ผลในภายภาคหน้าหรอก
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี่แหละ
#ถ้าเราเริ่มสังเกตใจเป็น
เราจะได้เรียนรู้มากเลย
อ๋อ..เวลาเราคิดไม่ดีปุ๊บ ใจเรามันรู้สึกอย่างไร?
เวลามองในแง่ลบในแง่ร้ายปุ๊บ
ใจเรารู้สึกยังไง
ความรู้สึกอะไรมันเกิดขึ้น?
ตรงกันข้าม...
เวลาเราคิดดี คิดดีกับคนอื่น
มองแล้วให้ความในแง่ดี
หรือคิดดีกับตัวเอง รู้สึกดี
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นให้ความรู้สึกอย่างไร?
เราจะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง
อ๋อ..ความแห้งแล้ง ความแข็งกระด้าง
ทำให้เกิดความบีบเค้น
.. ความทุกข์แบบไหน?
.. ความเร่าร้อนแบบไหน?
#ส่วนความเย็นความเบาสบาย
จากความรู้สึกดี ๆ
จากการคิดดี พูดดี ทำดี
ที่ว่าบุญกุศลให้ผลเป็นความสุข
เราก็จะเริ่มได้เกิดการตระหนักรู้
เกิดการเรียนรู้ขึ้นมา
ก็จะเริ่มเห็นโทษ
ของการที่เราปล่อยใจให้เศร้าหมอง
เกิดความแข็งความกระด้าง
ความถือตัวถือตน
เกิดความคิดที่ไม่ดีต่าง ๆ ขึ้นมา
เวลาถูกคนอื่นเขามาพูดไม่ดีใส่
เราก็เก็บกักไว้ในใจ
ใจเราให้ความรู้สึกแบบไหน
เวลาเราเก็บกักสิ่งเหล่านี้ไว้ในใจ?
.. สิ่งที่มันเป็นพิษ
.. สิ่งที่มันหนัก
.. สิ่งที่มันร้อนต่าง ๆ
เราก็เริ่มเกิดการเรียนรู้
เกิดปัญญาขึ้นมา
กับเวลาที่เราทำสิ่งดี ๆ
แล้วมันให้ความรู้สึก
ก็จะเริ่มเห็นคุณค่า
ของสิ่งที่เรียกว่า "ความอ่อนโยน" นั่นเอง
#ความคิดที่ดี #คำพูดที่ดี #การกระทำที่ดี
#สิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลให้ผลเป็นความสุข
เราก็จะเริ่มฝึกฝน
เพาะบ่มคุณธรรมขึ้นมาในจิตใจ
เริ่มสร้างรากฐานที่ถูกต้อง
ความอ่อนโยน
เริ่มตั้งแต่การอ่อนโยน "ต่อตัวเอง"
การอ่อนโยนต่อตัวเอง
ก็ด้วยการวางของหนัก
วางของร้อนลง
.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
เช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2566
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
