xrp conspiracy ตอนที่ 14 เส้นทางสู่การเป็น one world currency
เมื่อได้ยินคำว่า one world currency เป็นครั้งแรก สัก 20 กว่าปีที่แล้ว ก็คิดว่า มันไม่น่าเป็นไปได้ที่ทุกประเทศจะยอมมาใช้เงินสกุลเดียวกัน และในขณะนั้น USD ก็ดูเหมือนจะดำรงสถานะนี้อยู่
พอเกิดการรวมตัวของยุโรป เปลี่ยนมาใช้เงินสกุลยูโร ก็เห็นว่า เริ่มมีความเป็นไปได้นะ ที่ทั้งทวีปมาใช้เงินสกุลเดียวกัน แต่ก็ไม่เห็นทวีปเอเชีย แอฟริกา หันมารวมตัวกันบ้าง เพื่อใช้เงินสกุลเดียวทั้งทวีป
จากนั้นประเทศจีนก็ดูเหมือนจะร่ำรวยขึ้นมา ทำให้คิดว่าหรือจะเป็น yuan ที่จะมาเป็น one world currency แต่พอศึกษาแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะ yuan ก็อิงมูลค่ากับ USD อยู่ดี
แต่ USD ก็ยังสร้างมาจากทองคำ ทำให้ผู้เขียนคิดว่า gold standard นี่แหละคือคำตอบของปัญหา ใช้เวลาศึกษาเรื่องทองคำมากกว่า 10 ปี ทองคำไม่ไป to the moon สักที ติดอยู่แถว 2,000 USD เขื่อนไม่แตกสักทีจึงคิดว่าทองคำไม่น่าใช่คำตอบอีกแล้ว
สุดท้ายก็มาเจอบิทคอยน์ dogecoin และ crypto currency ต่าง ๆ ก็ใช้เวลาศึกษาไป เขียน block ไป อยู่ 4 ปี ตั้งแต่ 2020 จนปัจจุบัน ก็อยู่กับ
บิทคอยน์และ dogecoin มีความเป็น digital gold มาก ผู้เขียนจึงไปยึดติดกับ dogecoin อีก แต่พอศึกษาละเอียดเข้าถึงเรื่อง centralised กับ decentralised ถึงได้มีความเข้าใจมากขึ้น ว่า centralised มีมูลค่ามากกว่า decentralised
ระดับชั้นทางเงินจะเห็นว่ายิ่ง centralised เท่าไหร่ จะยิ่งมีมูลค่ามหาศาล
จึงเป็นที่มาของ xrp standard นี่เอง
และเนื่องจากเศรษฐกิจปัจจุบันควบคุมด้วยสมการ GDP = MxV เราจึงได้เห็นความพยายามในการทำลายตลาดหุ้นและทองคำ ผ่านสมการนี้
velocity ถูกทำลายตั้งแต่ subprime 2008 จนโควิด 2019 จาก 11 เท่าเหลือเพียง 1.5 เท่าในปัจจุบัน หายไป 86%
money supply ถูกทำลายเนื่องจากหนี้สินเต็มเพดาน และ GDP ไม่โต จึงไม่สามารถสร้างหนี้เพิ่มได้อีก ปริมาณหนี้สินคงที่แถว 3 ปีมาแล้ว สภาพคล่องน่าจะหายไป 75-80% แล้ว ดูจากดอกเบี้ยของเฟด
ในปีที่ 4 คือ 2024 นี้ เราจึงน่าจะได้การ exchange มูลค่าครั้งใหญ่ 140T USD จากทองคำและตลาดหุ้นไปสู่ crypto currency ซึ่งผู้เขียนเดา ๆ ว่าน่าจะมี 10 เหรียญ ที่จะได้รับการ exchange มูลค่านี้ จะได้เหรียญละ 14T USD เท่ากับมูลค่าทองคำที่ราคา 2100 USD นี่เอง เลขสวยงาม
แต่เหรียญพวก Pow น่าจะไม่ได้ไปต่อ เหตุผลเพราะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสมการเดียวกับตลาดหุ้นและทองคำ เพราะถือว่าเป็นการผลิตสินค้าอย่างหนึ่ง จึงอาจจะโดน exchange ไปด้วย เรียกว่าโดนลูกหลงแบบเต็ม ๆ dogecoin เลยซวยไปด้วย
เมื่อ สภาพคล่องเป็น 0 มูลค่าสินทรัพย์ก็จะกลายเป็น 0 ด้วย มันน่ากล้วตรงจุดนี้
bitcoin dominance เป็นตัวแทนของระบบ pow. หาก dominance ลดลงต่ำกว่า 40% รอบนี้ อาจจะเป็นการล่มสลายของระบบ Pow
เราจะ monitor เรื่องนี้ได้จาก bitcoin dominance นี้เอง ถ้าจู่ ๆ เหรียญ POS เพิ่มมูลค่ากันมา 100-200% แล้วราคาบิทคอยน์คงที่ จะเห็นมูลค่านี้ลดต่ำกว่า 40% อย่างรวดเร็ว เป็นการ confirm ทฤษฎีนี้
ดังนั้นจึงต้องกระจายการถือเหรียญให้ดี คำพูดที่ว่าเหรียญ alt coin= shit coin ของบิทคอยน์ maximalist หลังจากผ่านการ exchange ครั้งนี้ไป อาจจะต้องมาขอโทษต่อสาธารณชน เลยทีเดียว
และหลังจากที่มูลค่า exchange มาที่ 10 เหรียญแล้ว หลังจากนั้นก็น่าจะไปรวมกันที่ 1 เหรียญเพื่อสร้าง one world currency ขึ้นมา ซึ่ง 1 เหรียญของ one world currency จะมีมูลค่า 100 ล้าน USD
ตรงจุดนี้เป็นตัวแสดงให้เห็นว่าต้องเป็นระบบเสกเท่านั้น จึงจะได้มูลค่าเหรียญละ 100 ล้าน USD เพราะถ้าเป็นระบบขุด จะเพิ่มมูลค่ามากกว่าเงินในระบบไม่ได้
พอได้ one world currency ก็จะนำไป back ค่าเงินเพื่อสร้าง UBI economy เปลี่ยนระบบการเงินใหม่ต่อไป จบขั้นตอน the great reset ไว้ประมาณนี้
not financial advisor
สำหรับคนทั่วไปพอตลาดหุ้นและทองคำลง ก็จะทะยอยซื้อ ถูก burn cash จนเหลือ 0 เพราะยังยึดติดกับโลกใบเก่า ระบบการเงินแบบเดิม
พอตลาดคริปโตขึ้นก็ทะยอยขายไปจนหมด คงไม่ได้ถือกันจนถึงเป็น one world currency ถ้าไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ สุดท้ายเหรียญทุกเหรียญก็จะกลับสู่เจ้าของจนเกือบหมด
มาลุ้นกันต่อไป สำหรับการกำเนิดของ one world currency
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
