10 ธ.ค. 2023 เวลา 06:26 • ความงาม

แชร์ปัญหาผิวหน้าขาดคอลลาเจนสำหรับคนวัย 30+ พร้อมวิธีเยียวยาแบบเร่งด่วน!

เชื่อว่าหลายคนที่อายุอานามเข้าสู่วัย 30+ ต้องเริ่มเจอปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน หน้าไม่สดใส ริ้วรอยก็เพิ่มมากขึ้น แถมแต่งหน้าไม่ค่อยติด ซึ่งตัวเราเองกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ จนเริ่มว้าวุ่นใจจนถึงขั้นต้องเปิด Google หาข้อมูลแทบทุกวัน และเข้าเพจคลีนิกต่าง ๆ เพื่อสอบถามวิธีแก้ไข
จนในที่สุดก็เจอต้นตอของปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวหยาบเวลาแต่งหน้า …ว่าที่จริงมันเกิดจากผิวของเราขาดคอลลาเจน จนผิวหน้าส่งสัญญาณเตือนว่าต้องบำรุงด่วนแล้วสาว !!
และด้วยความที่อ่านมาเยอะ หาข้อมูลมาหลายที่ ก็เลยคิดว่าน่าจะมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านดู เผื่อใครกำลังเจอปัญหาแบบเราจะได้พบทางสว่างสักที เรามาดูกันก่อนว่าแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนว่าผิวหน้าของเราเริ่มขาดคอลลาเจนแล้ว
1.หน้าเริ่มมีริ้วรอย หน้าแก่ก่อนวัย
หลายคนเริ่มตระหนักถึงปัญหานี้ ก็เมื่อตอนที่แม่ค้าทุกร้านพร้อมใจกันเรียกเราว่าพี่ หรือเวลายิ้มทีไร…รอยย่นบนใบหน้าก็แย่งซีนตลอด! และตรงหน้าผากกับข้างแก้มก็เริ่มมีร่องลึก หรือร่องน้ำหมากให้เห็น นั่นเพราะใบหน้าเราขาดคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของผิวหนังกว่า 90% ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับผิวหนังบนใบหน้า โดยส่วนแรกที่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจน และง่ายที่สุดก่อนเพื่อนก็คือรอยย่นรอบดวงตา ซึ่งเป็นสัญญานเตือนเบื้องต้น
2.รอยสิวและแผลบนหน้าหายช้า
ใครที่ชอบแคะแกะเกา จะเห็นได้ชัดเจนว่ารอยบนหน้าหายช้ามาก และบางทียังส่งผลให้ผิวหน้าเราเป็นหลุมตื้น ๆ หรือบางทีใส่แมสก์ไว้นาน ๆ พอถอดออกจะเกิดรอยบนหน้า และใช้เวลานานกว่ารอยนั้นจะจางหายไป ซึ่งคนที่ร่างกายขาดคอลลาเจน เจ้าพวกรอยต่าง ๆ บนหน้าจะหายช้ากว่าคนที่ร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนเพียงพอ
3.แต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางไม่เกาะผิว
ใครที่แต่งหน้าเป็นประจำ จะรู้เลยว่ามันเซ็งแค่ไหนเวลาที่ประโคมอะไรไปบนหน้าก็ไม่เห็นผลอะไรสักอย่าง !
ไม่ว่าจะลงไพรเมอร์ ทาแป้ง โบกคุชชั่น ปัดบรอนเซอร์ แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา…ทุกอย่างก็อันตรธานหายไป แม้ว่าเครื่องสำอางจะราคาแพงแค่ไหน แต่ถ้าหน้าเราขาดความชุ่มชื้น แต่งหน้ายังไงก็ไม่รอด ไม่ติดทน ต้องเติมทั้งวันจนขาดความมั่นใจ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะผิวหน้าขาดคอลลาเจนซึ่งทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาวในผิวหนังช่วยยึดเกาะเครื่องสำอางให้เรานั่นเอง
3 ข้อนี้คือสัญญานที่เราสังเกตได้ง่าย ๆ เบื้องต้น โดยยังไม่ต้องใช้เครื่องตรวจใด ๆ ทั้งสิ้น คราวนี้เรามาลองดูวิธีเยียวยากอบกู้ให้น้องคอลลาเจนกลับมาสู่ผิวหน้าเรากัน
•วิธีแรก…เลือกใช้สกินแคร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของ Hyaluron, Hyaluronic Acid, Sodium Hyaluronate ซึ่งโปรดักส์ที่มีสารเหล่านี้ จะมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้ดี และช่วยผลักคอลลาเจนให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น
แต่ก็จะอยู่แค่ชั้นหนังกำพร้า และด้วยคุณสมบัติที่คอลลาเจนสามารถอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวมัน จึงทำให้ผิวชั้นหนังกำพร้าชุ่มชื้นขึ้นได้ ซึ่งเหมาะที่จะใช้ก่อนการแต่งหน้าเพราะจะช่วยให้เครื่องสำอางติดหน้ามากขึ้น และถ้าใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอก็จะทำให้ผิวหน้าอิ่มน้ำขึ้น จึงแลดูเหมือนว่าริ้วรอยลดลง แต่ถ้าหยุดใช้คอลลาเจนก็หายวับไปเหมือนเดิม
•วิธีที่สอง…กินอาหารเสริมคอลลาเจนช่วยได้
ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจนมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งการกินคอลลาเจนให้ได้ผลดี แนะนำว่าควรเลือกคอลลาเจนสายสั้น (Hydrolyzed Collagen) เนื่องจากเป็นคอลลาเจนที่ผ่านการไฮโดรไลซ์ (Hydrolysis) จนมีขนาดที่เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย และกลายเป็นองค์ประกอบของการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
โดยปริมาณของคอลลาเจนที่กินได้ใน 1 วัน โดยจะให้ผลดีและและปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงคือ ปริมาณ 2.5 – 15 กรัม ซึ่งการกินอาหารเสริมก็อาจจะเห็นผลไวกว่าการกินคอลลาเจนจากธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องกินต่อเนื่องสักระยะกว่าจะเห็นผล ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนใจร้อนเท่าไหร่นัก
•วิธีสุดท้าย…ก็ฉีดคอลลาเจนเข้าหน้าไปเลยซิคะ
วิธีนี้ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบรอ อยากสวยเลย สวยไวแบบ 5G ซึ่งการฉีดคอลลาเจนก็มีโปรดักส์หลายตัวให้เลือก แต่ที่เราสนใจมากที่สุดตอนนี้ก็คือตัว GOURI (กูริ) ซึ่งเป็นของเหลวชนิด Fully Liquid PCL (Polycarprolactone) จากประเทศเกาหลี ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และด้วยความที่เป็น Fully Liquid PCL จึงสามารถกระจายตัวได้ดี กระตุ้นคอลลาเจนของผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพได้ทั่วทั้งใบหน้า และยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ซึ่งข้อดีของ GOURI ที่เราหาข้อมูลมา คือใช้เวลาเร็วและไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังการฉีดอาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำการรักษา โดยทั่วไปจะหายไปภายใน 2 – 3 ชั่วโมงถึง 2 วัน และที่สำคัญเป็นสารที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งอันนี้ตรงใจเรามาก เรียกได้ว่าแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดแบบปลอดภัยหายห่วง
เอาล่ะหลังจากหาข้อมูลมาสักพัก ก็ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่าการฉีด GOURI น่าจะตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าขาดคอลลาเจนของเราที่สุดแล้ว…ที่เหลือก็คือเลือกคลีนิคที่ได้มาตราฐานแล้วก็เลือกวันเหมาะ ๆ ไปเติมคอลลาเจนให้ฉ่ำ ๆ ไปเลย
และสำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจแต่สนใจจะฉีด Gouri ก็ลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลินิกชั้นนำทั่วประเทศ หรือจะทำแบบเราโดยการถามกับบริษัทที่นำเข้าโดยตรงเลย ก็ลองทักไปได้ที่เพจ Edencolers-Thailand ซึ่งจะมีแอดมินคอยตอบทุกความสงสัยเกี่ยวกับ GOURI ให้หายข้องใจในทุกประเด็น
หวังว่าข้อมูลที่นำมาแชร์เบื้องต้นจะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อย สำหรับสาววัย 30+ ที่ในจุดนี้คอลลาเจนบนหน้าหายากยิ่งกว่าเงินในบัญชีซะอีก !
โฆษณา