ทริปเที่ยวชิลเชียงใหม่2 วัน 1 คืน กินข้าวซอยร้านดัง แวะคาเฟ่สุดชิค ก่อนไปนอนใกล้ชิดธรรมชาติที่แม่ลาย
เข้าสู่ช่วงหน้าหนาว อากาศกำลังดีเย็นสบายแบบนี้ จะมีที่ไหนดีไปกว่าเชียงใหม่ไม่มีอีกแล้ว
ทริปนี้เรามีเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน แต่อยากรับลมหนาว อากาศดีๆในช่วงนี้
เลยเลือกที่จะไปเที่ยวพักผ่อนกันชิลๆที่เชียงใหม่กัน โดยเริ่มทริปกันที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะไปนอนพักผ่อนริมลำธารกันที่แม่ลายกัน 1 คืน
โดยพิกัดที่เที่ยวทั้งหมดในทริปนี้ก็ตามนี้เลยย
- Early Owls Cafe
- Khao-So-i
- Bee Forest
- Atlantis Valley
- อ่างแก้ว มช
🚘การเดินทางในเชียงใหม่เราเลือกเช่ารถขับเอานะ จะสะดวกสบายที่สุด
มาดูกันว่าสองวันหนึ่งคืนที่เชียงใหม่กับทริปพักผ่อนสบายๆแบบนี้ จะมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง ตามมาดูกันได้เลยย
Early Owls
เริ่มต้นทริปในตอนเช้าของวันแรกกันด้วยการหาคาเฟ่ หากาแฟดีๆดื่มกันก่อนเลย
เราแวะมาที่ Early Owls คาเฟ่ที่บรรยากาศดีมากก เป็นบ้านไม้ที่อยู่ท่ามกลางสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น มีมุมชิลๆให้นักพักผ่อนเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งด้านในตัวคาเฟ่เอง ที่เป็นบ้านไม้ ตกแต่งสไตล์โฮมมี่ๆ
หรือจะเป็นโซนในสวนด้านนอก ที่สามารถเอาเก้าอี้กับโต๊ะพับเล็กๆ ที่ทางร้านมีจัดเตรียมไว้ให้เอาออกไปเลือกมุมนั่งเองได้เลย
เราชอบร้านนี้มาก นั่งได้ทั้งวันไม่มีเบื่อเลย ชอบบรรยากาศที่เป็นสวนร่มรื่นและสามารถเลือกมุมได้ตามใจชอบ และตัวบ้านไม้ที่ดูโฮมมี่ๆ อบอุ่นเหมือนได้นั่งกินกาแฟอยู่ที่บ้านตัวเองเลย
ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งเป็นอเมริกาโน่มา ราคาอยู่ที่ 80 บาท ตัวกาแฟหอมใช้ได้เลย และที่สำคัญร้านนี้เค้ารักษ์โลกด้วยนะ ด้วยการใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติทั้งหมด ทั้งหลอดและแก้วที่ทำจากชานอ้อยและเปลือกข้าวโพด
คอนเซ็ปร้านก็ตามที่บอกเลยนะ เป็นคาเฟ่บ้านไม้สไตล์โฮมมี่ๆ และเน้นที่นั่งพักผ่อนภายในสวนที่มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับคนที่อยากมานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ หากิจกรรมยามว่างทำกันสบายๆ
ส่วนที่ตั้งของร้านจะอยู่แถวโซนช้างเผือก ถัดจากประตูช้างเผือกขึ้นมาทางทิศเหนือเล็กน้อย ส่วนการเดินทางมาขึ้นอยู่กับว่ามาจากโซนไหนนะ ถ้ามาจากในเมืองทั่วๆไปก็ไม่นานเลย 15 นาทีก็ถึงแล้ว
⏰เปิดทุกวัน หยุดวันพุธวันเดียว เวลา 09:00-18:30
📍https://maps.app.goo.gl/UocNPGv9jdEUs3kX8
ข้าวโซอิ
กินกาแฟกันเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะมุ่งหน้าสู่แม่ลาย ก็แวะมาหาอะไรรองท้องกินกันก่อน อยากกินข้าวซอยอร่อยๆมาตั้งแต่อยู่กรุงเทพแล้ว เลยแวะมาที่ร้านดังของเชียงใหม่เค้าหน่อย ที่ร้านข้าวโซอิ
ร้านข้าวซอยที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาในร้าน ทั้งการจัดแจงหน้าตาอาหาร ไปจนถึงสไตล์การตกแต่งร้านต่างๆให้ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นๆ ที่ร้านจะมีเมนูอยู่สองแบบด้วยกัน คือข้าวซอยเส้นสดในน้ำแกงและข้าวซอยผัดแห้ง มาวันนี้เราเลยสั่งมาทั้งสองแบบเลย
เมนูแรกจะเป็นข้าวซอยเส้นสดเนื้อน่องลาย ท็อปด้วยหอยเชลและไข่กุ้ง ตัวเส้นสดดีมาก หนึบๆเคี้ยวสนุก เนื้อมีความตุ๋นมานุ่มกำลังดี หอยเชลกับไข่กุ้งก็สดอร่อยมาก ส่วนน้ำซุปหอมเข้มข้นรสชาติดีและรสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป ราคาเมนูนี้อยู่ที่ 214 บาท
เมนูที่สองจะเป็นข้าวซอยผัดแห้งเนื้อใบพาย ท็อปด้วยหอยเชลและไข่กุ้ง เนื้อคือดีนุ่มเคี้ยวหนึบกำลังดี หอยเชลกับไข่กุ้งก็สดอร่อยเช่นกัน ส่วนตัวเส้นที่ผัดกับซอสสูตรของทางร้าน รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมดีมากๆ ราคาเมนูนี้อยู่ที่ 234 บาท
หลังจากได้มาลองกินข้าวซอยที่ร้านนี้แล้วรู้สึกว่าสามารถผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับความเป็นญี่ปุ่นเข้ากันได้ดีเลย ทั้งวัตถุดิบที่นำมาฟิวชั่นกันไม่ว่าจะเป็นเครื่องแกง เส้นข้าวซอยของไทยหรือวัตถุดิบของญี่ปุ่นทั้งเนื้อนำเข้าต่างๆ ไข่กุ้ง ก็คือเข้ากันดีมากๆ
ส่วนตัวชอบทั้งสองแบบเลยนะ แบบนี้ก็ได้ความแปลกใหม่ดี ส่วนแบบไทยๆดั้งเดิมก็ได้ความคลาสสิค อร่อยจัดจ้านแบบไทยๆ สามาถเลือกมากินได้ทั้งสองแบบเลย
⏰เปิดทุกวัน 09:00-20:00
📍https://maps.app.goo.gl/MJBnawEW5cAZtHwF9
Bee Forest
ได้เวลามุ่งหน้าสู่แม่ลาย เราขับรถมาระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกลเลย ประมาณ 50 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว เส้นทางก่อนถึงจะเป็นขึ้นเขาทางแคบเล็กน้อย แต่ไม่ได้ขับยากจนเกินไป
ที่พักจะอยู่ใกล้ชิดติดกับลำธารเลย มีห้องพักทั้งหมดแค่ 4 ห้องเท่านั้น จะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมดก็คือเข้าพักได้ 2 ท่าน+เสริมได้ 1-2 ท่าน ราคา 2,390 บาท เท่ากันทุกห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม Wifi ให้ รวมไปถึงอาหารเช้ารวมในค่าที่พักแล้ว
ส่วนการตกแต่ง แต่ละห้องจะแตกต่างกันไปนะ สามารถเข้าไปติดตามดูห้องแบบต่างๆกันได้ที่เพจของที่พักเลย >> https://www.facebook.com/BeeforestHome/
ที่นี่จะเหมาะกับการมาพักผ่อนแบบเงียบสงบมากๆ และอยู่ห่างจากแม่กำปองประมาณ 6 กิโลเมตร ถ้าใครอยากจะแวะไปแม่กำปองด้วยก็สามารถทำได้เช่นกันน้า
📍https://maps.app.goo.gl/AJNR7J9nLzz7vkPp9
ห้องพัก
ห้องที่เรามาพักจะเป็นห้องที่นอนได้ 2 คน มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม Wifi ให้ รวมไปถึงอาหารเช้ารวมในค่าที่พักแล้ว มีมุมนั่งเล่นหน้าห้อง และเดินลงไปนิดเดียวก็ถึงลำธารเลย
อ้อ..ที่นี่จะเป็นห้องพัดลมนะไม่มีแอร์ แต่อากาศก็คือดีมาก ขนาดเปิดพัดลมยังหนาวต้องห่มผ้าเลย ส่วนด้านในตกแต่งเป็นอิฐๆ เน้นโทนสีส้ม ได้บรรยากาศวินเทจๆหน่อย
ราคาห้องนี้อยู่ที่ 2,390 บาท จองได้ผ่านทาง inbox fb page Bee Forest >> https://www.facebook.com/BeeforestHome/
นั่งชิลริมลำธารหน้าห้องพัก
เรามาถึงที่นี่ก็ช่วงบ่ายๆแล้ว หลังจากนั่งพักผ่อนอยู่ที่ห้องสักพัก ก็ลงมาที่ลำธารด้านหน้าห้องพัก สามารถเอาโต๊ะที่อยู่หน้าห้องมากางได้เลยนะ
ทางที่พักเค้าจะมีบริการสำหรับแต่ละห้องของใครของมันให้เลย น้ำคือใสและเย็นมากก
ทำงานกันมาเหนื่อยๆ ได้มานั่งพักผ่อนชิลๆกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
พักผ่อนริมลำธาร
ได้นั่งปล่อยกายปล่อยใจไปกับสายน้ำแบบนี้ มันดีมากๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ นั่งมองน้ำ มองนก มองต้นไม้ไป ได้เติมพลังกายพลังใจให้ตัวเองแบบนี้ รู้สึกได้เพิ่งพลังรีชาจน์แบตเตอรี่ให้กับตัวเองได้เต็มเปี่ยมเลย
น้องหมาประจำที่พัก
ที่นี่จะมีน้องหมาประจำฟร้อนอยู่ตัวนึง ไม่แน่ใจน้องชื่ออะไร แต่น่ารักมากก คอยชะเง้อออกมาต้อนรับลูกค้าตลอด
ช่วงเย็นๆเจ้าของจะปล่อยน้องออกมาวิ่งเล่น ก็คือซนใช้ได้ วิ่งเล่นได้ไม่มีเหนื่อยเลย 555
บรรยากาศที่พัก
ช่วงเย็นๆที่นี่บรรยากาศดีมาก มีมุมให้ได้นั่งเล่น นั่งพักผ่อนกันหลายมุมเลย ส่วนอากาศก็ดีมากๆ พอดึๆขึ้นเรื่อยๆ อากาศก็จะค่อยๆเย็นสบายมากๆขึ้น
ช่วงกลางคืนนี่หนาวประมาณนึงเลย สัก 20 องศาได้ แต่ยุงอาจจะเยอะนิดนึงนะ แนะนำให้พกสเปรย์กันยุงมาด้วย
กินหมูกระทะกับอากาศดีๆ
ตกเย็นมา ได้เวลาหมูกระทะ ด้วยความที่อยู่ในป่าคือมืดไวมากก ยังไม่ทันหกโมงเย็นก็คือแทบไม่มีแสงแล้ว
อากาศดีๆประมาณ 20 องศาต้นๆแบบนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการสั่งหมูกระทะมากินกันอีกแล้ว สามารถนั่งกินที่โต๊ะในส่วนกลางของที่พักได้เลย จะตั้งอยู่ริมลำธาร
หมูกระทะสามารถสั่งกับทางที่พักได้เลยนะ ราคาจะอยู่ที่ชุดละ 599 บาท มีหมู มีผัก น้ำจิ้มให้ครับ กินกันสองคนก็คืออิ่มกำลังดีเลย
กินอาหารเช้าหน้าห้องพัก
เช้าวันถัดมา อาหารเช้าจะมาเสิร์ฟให้ที่หน้าห้องพักช่วง 08:00-10:00 สามารถนัดเวลาเสิร์ฟอาหารเช้ากับทางที่พักได้เลยนะ ว่าอยากกินช่วงเวลากี่โมง
ในส่วนของอาหารเช้าจะเป็นข้าวต้ม ไข่ต้ม ขนมปังและน้ำส้มง่ายๆ นั่งกินหน้าห้องพักได้เลย เช้าๆแบบนี้ได้ข้าวต้มร้อนๆมากินกับอากาศเย็นๆ คือชิลมากก
บรรยากาศหน้าที่พัก
บรรยากาศรอบๆที่พักช่วงเช้า ด้านหน้าจะเป็นถนนเส้นหลักของที่นี่นะ จะมีบ้านคนบ้างประปราย เพราะตัวที่พักจะอยู่ระหว่างทาง ไม่ได้อยู่ในชุมชน
Atlantis Valley
หลังจากกินข้าวเช้ากันเรียบร้อย ก็จัดการเช็คเอาท์ออกจากที่พัก เตรียมตัวกลับเข้าเมืองเชียงใหม่
แต่ก่อนจะกลับ ก็เดินมาที่ Atlantis Cafe คาเฟ่ที่อยู่ข้างๆที่พักกันก่อน มาหาน้ำกินกันซักหน่อย เราสั่งเป็นชาเขียวลาเต้มานะ รสชาติไม่หวานมาก ชาเขียวหอมใช้ได้ ราคาอยู่ที่แก้วละ 150 บาท
ที่นี่จะเป็นคาเฟ่บ้านไม้เล็กๆ สไตล์วินเทจๆ ที่อยู่ติดลำธารเช่นกัน มีมุมร่มรื่น บรรยากาศดีๆให้นั่งเยอะมากก สำหรับสายชิลแบบเราก็คือชอบเลย ถ้ามีเวลาเยอะๆหน่อย น่าหาหนังสือมานั่งอ่านพักผ่อนกันแบบสโลว์ไลฟ์สุดๆ
⏰เปิดทุกวัน เวลา 08:00-17:00
📍https://maps.app.goo.gl/BwmePgjYpkZxqetc8
Atlantis Valley
เดินลงไปด้านล่างของคาเฟ่ จะเป็นที่นั่งมุมต่างๆริมลำธารของ Atlantis Valley บรรยากาศดีน่ามานั่งจิบกาแฟชมธรรมชาติกันไปชิลๆมากก มีน้องเป็ดอยู่ในลำธารด้วยนะ น่าจะเป็นของเจ้าของที่นี่เลี้ยงไว้
อ่างแก้ว
ช่วงเย็นกลับเข้ามาในเมือง มาปิดท้ายทริปสั้นๆแบบนี้กันที่อ่างแก้ว อ่างเก็บน้ำในตัวเมืองมหาลัยเชียงใหม่ ที่มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ยังต้องแวะมาเสมอ
ชอบในบรรยากาศลมเย็นๆ ผู้คนที่มาเดินเล่นออกกำลังกาย นั่งเล่นพักผ่อนกัน และช่วงพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าไป ได้นั่งมองท้องฟ้าเป็นสีไทวไลท์ สวยงามมากๆ
⏰เปิดทุกวันตลอดเวลา คนนอกสามมารถเข้าได้
📍https://maps.app.goo.gl/bsjhesyxsRqBhops7
จบกันไปแล้วกับทริปพักผ่อนสั้นๆที่เชียงใหม่กันแบบชิลๆ ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่ชอบมากๆ ได้หาอะไรอร่อยๆกินในตัวเมือง หาคาเฟ่ชิลๆนั่ง และได้ออกมาพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติโดยไม่ต้องขับรถออกไปจากตัวเมืองไกลๆ
บางทีการที่ได้ออกจากที่ๆคุ้นเคย มาหาสถานที่ใหม่ๆในการมาพักผ่อนแบบนี้บ้างมันก็ดีเหมือนกันนะ ได้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องเร่งรีบ ได้อยู่กับธรรมชาติกันแบบใกล้ชิด
เชียงใหม่สำหรับเราก็ยังคงเป็นเชียงใหม่ที่คุ้นเคยเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมากี่ครั้งๆ ก็ยังหลงรักในเมืองนี้ และยังประทับใจกับสถานที่ต่างๆและผู้คนที่น่ารักอยู่เสมอ
ไม่ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ทั้งผู้คนที่ต่างเร่งรีบกันมากขึ้น ตึกรามบ้านช่องที่ผุดกันขึ้นมามากมายขนาดไหน แต่เชียงใหม่ก็ยังมีเสน่ห์สำหรับเราเสมอไม่เคยเสื่อมคลาย 💚
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
