19 ธ.ค. 2023 เวลา 08:00 • ท่องเที่ยว
นิกโก

เที่ยวนิกโก้ 1 วัน เมืองมรดกโลกในวันใบไม้เปลี่ยนสี 🍁

เข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกๆปี ที่นิกโก้คงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของใครหลายๆคน ที่อยากแวะมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี และสถานที่เที่ยวสวยๆของที่นี่กัน
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนนั้น ที่อยากจะมามาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้มาสักที
มาครั้งนี้มีเวลาว่าง 1 วันจากโตเกียว เลยตั้งใจว่าจะมาที่นี่ให้ได้ เราจะพาเพื่อนๆมาดูกันว่า มานิกโก้ 1 วัน จะมีที่ไหนน่าไปเที่ยวไปกินกันบ้าง
พิกัดเที่ยวนิกโก้ในหนึ่งวันก็จะประมาณนี้เลย
- Shinkyo Bridge
- Rinnoji Shrine
- Toshogu Shrine
- Futarasan Shrine
- Nikko Pudding Tei
- Ranburu Restaurant
- Yuba Manju
2
ครั้งนี้เราจะเน้นเที่ยวในโซนมรดกโลกกันก่อนนะ เพราะมีเวลาแค่ 1 วัน
พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย ว่านิกโก้ในหนึ่งวันจะไปที่ไหนได้และมีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง
วิธีการซื้อตั๋วเดินทางไปนิกโก้
การเดินทางไป Nikko เราเลือกจองตั๋ว Nikko Pass แบบ World Heritage Area ที่เหมาะสำหรับคนที่จะมาเที่ยวที่นี่แบบ 1-2 วันนะ พาสนี้จะครอบคลุมการเดินทางด้วยบัสในนิกโกัจำนวน 2 วัน โดยจองผ่านทาง Traveloka ในราคา 500.50 บาท
ข้อดีของ Pass นี้คือ
-ใช้ขึ้นรถไฟจากสถานี Asakusa Station ไป สถานี Tobu-Nikko แต่ต้องทำการ reserve seat เพิ่ม โดยการไปซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติที่สถานี ในราคาเที่ยวละ 1,650 เยน(396 บาท)
- ใช้ขึ้นรถบัสได้ฟรีทุกสายที่ Nikko แบบไม่จำกัด
- สามารถใช้ qr code แสดงให้พนักงานดูตอนจะขึ้นได้เลย
ส่วนขั้นตอนการซื้อก็สะดวกสบายง่ายมากๆ เสิชคำว่า Nikko Pass ได้เลย ก็จะมีหน้าจอขึ้นมาให้เลือกใส่วันที่ จำนวนคน และมีบอกรายละเอียดต่างๆทั้งการใช้งาน รวมไปถึงคอมเม้นรีวิวจากผู้ใช้งานจริงให้ได้ดูอีกด้วย
สามารถตามไปจอง Nikko Pass World Heritage Area ได้ที่ลิงค์นี้เลย >> https://www.traveloka.com/th-th/activities/Japan/product/nikko-pass-all-area-1001691211436
📍https://maps.app.goo.gl/yCh3G1Rs6iFBNT3M9
ขึ้นรถไฟไปนิกโก้
ส่วนขั้นตอนการจองก็ไม่ยากเลยนะ ที่ตู้อัตโนมัติจะมีให้เลือกภาษาทั้งไทยและอังกฤษ แล้วกดเลือกสถานีปลายทางเป็น Tobu-Nikko เลือกเวลาที่จะไปและจ่ายเป็นเงินสดได้เลย
พอขึ้นมาบนรถไฟก็จะเป็นที่นั่งแบบนี้เลย นั่งสบายมาก ใช้เวลาเกือบๆสองชั่วโมงก็ถึง Nikko กันแล้วว
การเดินทางในนิกโก้
มาถึงสถานี Tobu-Nikko เดินออกมาหน้าสถานี ข้ามถนนมาก็จะเจอกับจุดขึ้นรถบัสเลย ตรงนี้จะมีทั้งหมด 3 สาย ให้เลือกต่อแถว
1
วันนี้เราจะเที่ยวกันเฉพาะโซนมรดกโลก ก็เลยเลือกขึ้นสาย 2B ที่จะวิ่งไปยังวัดสามแห่งที่เราจะไปเที่ยวกันในวันนี้ แต่จะลงที่ป้าย Shinkyo Bridge เพื่อแวะชมสะพานแดงชื่อดังของที่นี่กันก่อน
1
การขึ้นบัสของที่นี่จะขึ้นประตูกลางและลงประตูหน้านะ ตอนลงสามารถโชว์ qr code ที่ซื้อผ่าน Traveloka ให้กับพนักงานขับรถดูได้เลย
เสริมให้นิดนึงการใช้รถบัสที่ญี่ปุ่นต้องบอกว่าสะดวกสบายมากๆนะ คนที่รอขึ้นบัสก็คือต่อแถวรอ ไม่มีการแซงคิวกันเลย และสะดวกสบายตรงที่ไม่ต้องมีพนักงานมาคอยเก็บค่ารถ ตรงด้านหน้าของรถจะมีตู้ให้หยอดเงิน ใช้บัตรต่างๆแท็ปเอา หรือถ้าใครมีพาสแบบเราก็แค่แสดงให้พนักงานขับรถดูได้เลย สะดวกสบายกว่าเมืองไทยมากๆ
📍https://maps.app.goo.gl/binnDwX3378ujmZE8
Shinkyo Bridge
หลังจากขึ้นบัสจากป้ายหน้าสถานี Tobu-Nikko มา แค่กิโลกว่าๆก็ถึงที่สะพานแดงกันแล้ว ตรงจุดนี้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวกันมาก มีลำธารไหลผ่าน ฉากหลังสะพานแดงเป็นต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง สวยมากๆ
1
ส่วนถ้าใครจะขึ้นสะพานจะมีค่าเข้า 400 เยน(96 บาท) นะ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ่ายจากถนนบริเวณด้านข้างสะพานก็สวยแล้ว เพราะถ้าขึ้นไปบนสะพานก็จะไม่เห็นวิวตัวสะพานเลย เลยอยากแนะนำว่าไม่ต้องขึ้นไปบนสะพานให้เสียเงินก็ได้นะ
🚃การเดินทาง : นั่งบัสสาย 2B มาลงที่ป้าย Shinkyo
⏰Mon-Sun 09:00-16:00
📍https://maps.app.goo.gl/diE7NbWBoEo3wb4N8
Rinnoji Shrine
จากสะพานชินเคียว ข้ามถนนมาและเดินต่อมาประมาณ 5 นาที ก็จะเจอกับวัดรินโนจิ อีกหนึ่งวัดสำคัญของที่นิกโก้ที่ถูกก่อตั้งโดยพระสงฆ์ผู้นำศาสนาพุทธเข้าสู่นิกโก้ และมีวิหารหลักของวัดชื่อ Sanbutsudo ที่สร้างมาจากไม้สวยงามมากๆ
คนที่มาที่วัดรินโนจิส่วนใหญ่ก็จะนิยมมาชมความสวยงามของตัววิหารแล้วก็มาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันนะ ส่วนการขอพรสามารถขอเรื่องทั่วๆไปได้เลย เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต
⏰Mon-Sun 08:00-17:00
📍https://maps.app.goo.gl/9vwsM8Kkiawx1sFt8
สวนญี่ปุ่นในวัดรินโนจิ
และที่วัดรินโนจิยังมีสวนญี่ปุ่นขนาดเล็ก Shoyoen ที่สวยมากก ในช่วงที่เรามาเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี
สวนนี้ช่วงที่เราไปไม่ได้เปิดให้เดินเข้าไปเยี่ยมชมนะ สามารถยืนชมได้จากรอบนอกเลย ไม่แน่ใจว่าช่วงวันอื่นๆ ปกติแล้วเค้าจะเปิดให้เข้าไปเดินชมได้รึเปล่านะ
ใบไม้เปลี่ยนสี
ใบไม้แดงที่วัดรินโนจิ กำลังสวยเลย ที่นิกโก้โซนมรดกโลกนี้ ใบไม้จะเปลี่ยนสีในช่วงราวๆต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปีนะ
1
ทางเดินไป Toshogu Shrine
จากวัดรินโนจิ เดินไปต่อกันที่ศาลเจ้าโทโชกุ จะเป็นทางเดินเชื่อมกันเลย ระยะทางประมาณ 3-4 ร้อยเมตร เดินชิลๆ ชมใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทางไปด้วยเพลินๆ
Toshogu Shrine
มาถึงศาลเจ้าโทโชกุ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆถ้าได้มานิกโก้แล้วไม่ควรพลาดเลย
เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่พำนักสุดท้ายของท่านโชกุน Tokugawa Ieyasu แห่งญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนในสมัยฟื้นฟูเมจิ จึงถือว่ามีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมากๆ
ด้านหน้าจะมีเสาโทริอิขนาดใหญ่ และเจดีย์แดง 5 ชั้น ให้ได้ถ่ายรูปและชมความสวยงามกันด้วย
ด้านในจะไม่สามารถเข้าได้นะ ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวที่ศาลเจ้าโทโชกุกันจะนิยมมาชมความสวยงามของเสาโทริอิขนาดใหญ่และเก่าแก่ของที่นี่ รวมถึงมาสักการะขอพรในเรื่องของการงานให้ราบรื่น และปราศจากอุปสรรคใดๆในหน้าที่การงาน
Toshogu Shrine
หนึ่งในไฮไลท์ของที่ศาลเจ้าโทโชกุที่มีชื่อเสียงก็คือ อาคารไม้ที่มีรูปลิงแกะสลัก เป็นรูปลิงปิดหู ปิดตา ปิดปาก 3 ตัว
สื่อถึงการ ไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี ไม่พูดถึงสิ่งที่ไม่ดี และไม่มองในสิ่งที่ไม่ดี เป็นความลับสามประการของปัญญา จะช่วยให้เด็กๆเติบโตด้วยใจที่ซื่อสัตย์
Futarasan Shrine
จากศาลเจ้าโทโชกุ เดินต่อมา 2-3 ร้อยเมตร ก็จะเจอกับศาลเจ้าฟูทาระซัง เป็นศาลเจ้าที่มีอายุมากกว่าพันปีเลย เรียกว่าเก่าแก่มากๆ
ที่นี่จะเป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่มีความคลาสสิคสวยงงามมากๆ คนนิยมมาสักการะขอพรกันในเรื่องของโชคลาภและการขอพรเรื่องความรัก เนื่องจากเทพเจ้าโอนามุจิโนะมิโกโตะ ที่เป็นเทพเจ้าหลักประจำศาล เป็นเทพเจ้าในด้านนี้นั่นเอง
และยังมีจุดถ่ายรูปกับถังเหล้าสาเกด้านหน้าของวัด ที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนที่มาที่นี่ชอบมาถ่ายรูปกันอีกด้วย
⏰Mon-Sun 08:30-16:30
📍https://maps.app.goo.gl/u2i42b5xG4eMLa9s5
Futarasan Shrine
ด้านหน้าวัดจะมีต้นไม้ที่เปลี่ยนสีอยู่บ้างเล็กน้อย และเป็นจุดขึ้นรถบัส สาย 2B ที่เราจะขึ้นต่อไปเพื่อกลับไปเที่ยวในตัวเมืองนิกโก้กันต่อ
เดินเล่นในเมือง
ขึ้นรถบัสจากศาลเจ้าฟูทาระซังมาไม่ถึงสิบนาที ก็จะมาถึงตัวเมืองนิกโก้กันแล้ว
เรามาลงที่สถานีชินเคียวเช่นเคย และเดินเล่นดูบรรยากาศเมืองสองข้างทางที่เป็นทั้งบ้านเรือนของผู้คนและร้านอาหารร้านรวงต่างๆ ช่วงใกล้ๆเย็นๆแบบนี้คือบรรยากาศดีสุดๆ
Nikko Pudding Tei
เดินเล่นกันมาเรื่อยๆมาเจอกับร้านพุดดิ้งชื่อดังของที่นี่ Nikko Pudding Tei
เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ พุดดิ้งรสคลาสสิคท็อปด้วยซอฟต์ครีมนมเนื้อเนียน อร่อยมากกก กินสองอย่างพร้อมๆกันแล้วรสชาติละมุนกลมกล่อมสุดๆ เมนูนี้ราคา 560 เยน(135 บาท)
ส่วนอีกเมนูที่เราสั่งมาลองจะเป็น พุดดิ้งรสสตรอเบอรี่นะ ตัวพุดดิ้งเค้ายังอร่อยเหมือนเดิม แต่จะได้ความเปรี้ยวหวานของสตรอเบอรี่เข้ามาตัดรสชาติกัน อร่อยไปอีกแบบดีเหมือนกัน เมนูนี้ราคา 400 เยน(96 บาท)
⏰Mon-Sun 10:00-17:00
📍https://maps.app.goo.gl/WvFeYYWCgMW5XepE8
Yuba Tonkatsu
กินของหวานกันแล้วก็ต้องมากินของคาวกันบ้างที่ร้าน Ranburu เดินต่อจากร้านพุดดิ้งมาได้เลย ไม่กี่ร้อยเมตร
ร้านนี้จะอยู่แถวๆสถานี Tobu-Nikko เป็นร้านที่มี Yuba ที่เป็นฟองเต้าหู้เมนูขึ้นชื่อของที่นิกโก้ จริงๆ Yuba นี่สามารถนำมาทำได้หลายเมนูเลยนะเช่น เป็นโซบะก็ทำได้ แต่เราเลือกสั่งเมนู Yuba Tonkatsu มา
หลังจากได้ลองกิน Yuba ครั้งแรกแล้วคือชอบมากก คือเป็นฟองเต้าหู้ทอด ราดด้วยไข่สไตล์ทงคัตซึ อร่อยกลมกล่อมดีมากๆ ถ้าใครมาเที่ยวนิกโกะแนะนำเลยว่าต้องมาลอง Yuba สักเมนูนึงนะ
⏰Mon-Sun 10:30-17:00
📍https://maps.app.goo.gl/3rzRVKZk1UAaBdhX6
บรรยากาศเมืองกลางคืน
บรรยากาศแถวสถานี Nikko-Tobu ช่วงกลางคืน อากาศช่วงที่เราไปคือหนาวมาก ลมแรง อุณภูมิไม่ถึง 5 องศา ถ้าใครจะมาลองเช็คอุณภูมิก่อนมากันด้วยนะ จะได้เตรียมชุดกันหนาวกันมาให้พร้อม
Yuba Manju
ตบท้ายด้วยขนมหน้าสถานีก่อนกลับโตเกียวกันสักนิด กับ Yuba Manju หรือซาลาเปาฟองเต้าหู้ทอด ร้าน Sakaeya เป็นร้านเล็กๆ แต่คนยืนต่อคิวยาวพอสมควรเลย อาจจะเพราะอากาศที่หนาวเลยต้องหาอะไรร้อนกินกันซักหน่อยด้วย
ขนม Yuba Manju นี้จะมีแค่ไส้เดียวเลยนะก็คือไส้ถั่วแดง ทอดออกมาได้กรอบมากก และโรยด้วยเกลือนิดๆด้านบน ตัดกับความหวานของถั่วแดงและความกรอบของแป้งซาลาเปาทอดกรอบ รสชาติเข้ากันพอดี
อันนี้ยกให้เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของเราที่นิกโก้เลย
⏰Mon-Sun 09:30-17:30
📍https://maps.app.goo.gl/Mf4razsuNFsdGmDKA
ขากลับโตเกียวก็นั่งรถไฟจากสถานี Tobu-Nikko ไปลง สถานี Asakusa เหมือนเช่นเคย โดยใช้ Nikko Pass+ซื้อตั๋ว Reserve Seat ได้เลย
ทริปเที่ยวนิกโก้โซนมรดกโลกใน 1 วันจากโตเกียวถือเป็นอีกรูทที่เราชอบเลย ใช้เวลาตั้งแต่เช้าถึงค่ำสบายๆ
เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาไม่มากนักแต่อยากมาเที่ยวนอกเมืองโตเกียวบ้าง มีครบทั้งที่เที่ยวสวยๆ เดินเล่นในเมืองและของกินอร่อยๆ
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าได้มาอีก ตั้งใจว่าจะต้องกลับมาค้างคืนและไปเที่ยวนิกโก้โซนธรรมชาติ อีกโซนที่น่าเที่ยวของนิกโก้แน่นอน เพราะว่ายังมีอีกๆหลายๆที่เลย ที่ยังไปเที่ยวไม่ครบ และน่าจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 2-3 วันถึงจะเพียงพอ
ทริคท่องเที่ยวนิกโก้
- สำหรับคนที่มาเที่ยวที่นิกโก้ 1-2 วัน แนะนำว่าให้ซื้อ Nikko Pass แบบ World Heritage Area พาสนี้จะครอบคลุมการเดินทางด้วยบัสในนิกโกัจำนวน 2 วัน โดยจองผ่านทาง Traveloka ในราคา 500.50 บาท และยังครอบคลุมสำหรับการเดินทางจากโตเกียวในรถไฟสาย Tobu-Nikko จากสถานี Asakusa แบบไปกลับอีกด้วย แต่ต้อง reserve seat เพิ่มเติมด้วยนะ ในราคาเที่ยวละ 1,650 เยน(396 บาท)
- ถ้าอยากเที่ยวแบบครบๆทั้งโซนมรดกโลกและโซนธรรมชาติ ใช้เวลา 3-4 วัน โดยสามารถใช้พาสแบบ Nikko All Area Pass พาสนี้จะครอบคลุมการเดินทางด้วยบัสในนิกโกัจำนวน 4 วัน โดยจองผ่านทาง Traveloka ในราคา 991 บาท และยังครอบคลุมสำหรับการเดินทางจากโตเกียวในรถไฟสาย Tobu-Nikko จากสถานี Asakusa แบบไปกลับอีกด้วย แต่ต้อง reserve seat เพิ่มเติมด้วยนะ ในราคาเที่ยวละ 1,650 เยน(396 บาท)
- สำหรับคนที่มีเวลาแค่ 1 วัน แนะนำว่าให้ออกจากโตเกียวเช้าหน่อย เพื่อที่จะได้มีเวลาเที่ยวที่นิกโก้มากขึ้น
- ในรูทที่เราเที่ยวครั้งนี้ ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงโดยประมาณก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากแต่ละที่อยู่ใกล้ๆกันหมด
- โซนมรดกโลกที่นิกโก้ใบไม้จะเปลี่ยนสีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนโดยประมาณ
- โซนธรรมชาติมีหลากหลายโซนมาก ใบไม้จะเปลี่ยนสีแตกต่างกันตามแต่ละโซน ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม
- อยากเที่ยวนิกโก้แบบคุ้มค่าสามารถตามไปจอง Nikko Pass World Heritage Area ได้ที่ลิงค์นี้เลย >> https://www.traveloka.com/th-th/activities/Japan/product/nikko-pass-all-area-1001691211436
โฆษณา