เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ : ปฏิเสธทุกข้อเสนอพรีเมียร์ลีก สู่ว่าที่ตำนาน เรอัล มาดริด | Main Stand
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ยอดกองกลางชาวอุรุกวัย ถือเป็นผลผลิตจากการเฟ้นหาเด็กพรสวรรค์ชั้นยอดจากทั่วทุกมุมโลกของ เรอัล มาดริด
เขาถูกยกให้เป็นกองกลางระดับโลกในวัยเพียง 25 ปี และถูกวางให้รับภาระหน้าที่สานต่อผลงานของรุ่นพี่ระดับตำนาน ในวันที่ โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช จะลาทีมไป
แต่กว่าจะมาเป็น เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ที่เรารู้จักกันในวันนี้ เส้นทางค้าแข้งของเขาไม่เคยง่าย เพราะครั้งหนึ่งวัลเวร์เด้ เคยเกือบได้ย้ายไปค้าแข้งในพรีเมียร์ ลีก แต่เขากลับเลือกปฏิเสธข้อเสนอนั้น จนเส้นทางลูกหนังพาเขามาบรรจบกับทีมราชันชุดขาว
Main Stand จะพาไปทำความรู้จักกับยอดกองกลางคนนี้ให้มากขึ้น
เริ่มฉายแววพรสวรรค์ตั้งแต่เด็ก
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1998 ที่กรุงมอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย ในครอบครัวชนชั้นแรงงาน พ่อของเขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คาสิโน ส่วนแม่ขายเสื้อผ้าและของเล่นในตลาดนัด เรื่องราวของเขากับฟุตบอลเริ่มขึ้นตั้งแต่ วัลเวร์เด้ มีอายุเพียง 2 ขวบ
เจ้าหนูวัลเวร์เด้ไม่สนใจของเล่นชิ้นไหนเลยนอกจากลูกฟุตบอล เจ้าตัวใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันเตะบอลให้เข้าตาข่ายที่พ่อเขาทำไว้ภายในห้องนั่งเล่นที่บ้านของตัวเอง
จนกระทั่งอายุได้ 3 ขวบ ครอบครัวเริ่มเห็นพรสวรรค์ในตัววัลเวร์เด้ จึงได้พาไปสมัครเป็นนักเตะเยาวชนกับสโมสรท้องถิ่นในบ้านเกิด แต่ในช่วงแรกเขามักใช้เวลาไปกับการเป็นมาสคอตของทีมชุดใหญ่
อายุ 5 ขวบ วัลเวร์เด้ ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดอายุไม่เกิน 6 ปี แต่เขาไม่มีแม้แต้รองเท้าสตั๊ดจะใส่ แม่ของเขาต้องเดินตระเวนหารองเท้าในราคาที่พวกเขาจะจ่ายได้ จนได้ไปเจอกับรองเท้าคู่หนึ่งในร้านขายรองเท้ามือสอง รองเท้าคู่นั้นก็ได้กลายเป็นรองเท้าสตั๊ดคู่แรกและพาเขาคว้าแชมป์แรกในชีวิต
ในปี 2008 วัลเวร์เด้ได้ถูกเชิญตัวให้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเปญญาโรล ทีมใหญ่ในเมืองมอนเตวิเดโอ แต่ด้วยความเป็นเด็กขี้อาย วัลเวร์เด้กลับไปยืนหลบอยู่ข้างต้นไม้ จนสตาฟของทีมต้องตะโกนเรียกให้เขามาเล่น แม้ในตอนแรกเขาจะอาย แต่เมื่อได้เริ่มโชว์ฝีเท้าเขากลับทำให้ทุกคนตกตะลึงในความสามารถและพรสวรรค์ที่มีได้
แม่ของวัลเวร์เด้ที่กำลังยืนดูการฝึกซ้อมของลูกชายอยู่ ได้ยินโค้ชบอกว่าลูกชายของเธอเป็นเด็กที่หายากและจะผ่านการทดสอบแน่นอน เมื่อได้ยินอย่างนั้นแม่รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายมาก จึงได้เดินเข้าไปหาโค้ชและพูดว่า "เด็กคนนั้นที่คุณกำลังพูดถึงคือลูกชายของฉัน" โค้ชได้แสดงความยินดีกับคุณแม่เพราะวัลเวร์เด้ผ่านการทดสอบฝีเท้า อีกทั้งยังขอบคุณครอบครัวที่เลี้ยงดูวัลเวร์เด้มาอย่างดี
ได้ลงเล่นเคียงข้างนักเตะในดวงใจ
พัฒนาการของวัลเวร์เด้ในอคาเดมีของเปญญาโรลเติบโตอย่างก้าวกระโดด เขาต่อยอดความสามารถของตัวเองจนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอุรุกวัยชุด U15 และในฤดูกาล 2015-16 วัลเวร์เด้ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับเปญญาโรลชุดใหญ่เคียงข้างกับไอดอลในวัยเด็กของเขาอย่าง ดิเอโก้ ฟอร์ลัน อดีตดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยที่เคยค้าแข้งกับหลายสโมสรในยุโรป อย่าง แอตเลติโก มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บียาร์เรอัล และ อินเตอร์ มิลาน
ฟอร์ลัน กลับมาลงเล่นให้กับเปญญาโรลอีกครั้งในฤดูกาล 2015-16 หลังจากที่เคยเป็นเด็กในอดาเดมี และเป็นคนที่คอยดูแล คอยให้คำแนะนำในเรื่องการก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับวัลเวร์เด้ว่า "จะต้องทำงานอย่างหนักและมีความอ่อนน้อมถ่อมตน"
จากคำแนะนำและการช่วยเหลือของฟอร์ลัน ที่เหมือนเป็นการจุดประกายความฝันและสร้างแรงบันดาลใจ วัลเวร์เด้โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับเปญญาโรล พวกเขาได้ลงเล่นเคียงข้างกันและช่วยให้ต้นสกัดคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ
ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทำให้วัลเวร์เด้กลายเป็นที่จับตามองของเหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีม อย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ อาร์เซนอล
ไม่เคยอยากไปเล่นในพรีเมียร์ลีก
หลังจากที่ตกเป็นข่าวกับหลายทีมในยุโรป จนในปี 2016 วัลเวร์เด้ ได้มีข่าวเกี่ยวโยงกับสโมสรดังจากอังกฤษอย่าง อาร์เซนอล แต่ข่าวที่ได้รับการเปิดเผยหลังจากนั้น กลายเป็นว่าวัลเวร์เด้ไม่ผ่านการทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์
ภายหลังวัลเวร์เด้ได้ออกมาเปิดใจกับ The Players' Tribune ถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า
"จริง ๆ เรื่องราวมันมีบางอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้น มันไม่เกี่ยวอะไรกับอาร์เซนอลหรอกนะ แต่ผมไม่เคยต้องการไปเล่นในอังกฤษ ในวงการฟุตบอลบางครั้งคุณก็เหมือนตกเป็นตัวประกัน เพราะพวกเขา (เอเย่นต์) มักมากับข้อเสนอดีๆ ที่จะช่วยพาเราหลีกหนีจากความจนได้ เพื่อให้เราไม่กล้าปฏิเสธ แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ง่ายเลย ผมต้องไปอยู่คนเดียวที่ลอนดอน ไม่มีครอบครัว ต่างภาษา และผมไม่เคยรู้สึกสบายใจเลย"
การที่วัลเวร์เด้ไม่ผ่านการทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอล อาจไม่ได้เป็นเพราะความสามารถของเขาที่มีไม่พอ แต่ปัญหาเรื่องสภาพจิตใจก็อาจจะส่งผลต่อเขาด้วย วัลเวร์เด้แสดงเจตนาชัดเจนว่าไม่เคยมีความคิดที่จะไปเล่นในพรีเมียร์ลีก แม้จะเป็นลีกที่ใหญ่หรือได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกแค่ไหนก็ตาม
"ผมกล้าและบ้าพอที่จะปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้น ผมอยู่ที่อุรุกวัยตลอดไปก็ได้ ตราบใดที่ได้อยู่กับครอบครัว"
ผมคือเด็กที่มาดริดต้องการ !
ระหว่างที่กำลังเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ เพื่อลงเล่นในรายการฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้ชุด U17 พบกับอาร์เจนตินา ที่ปารากวัย วัลเวร์เด้ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในโรงแรมได้รับการติดต่อจาก เรอัล มาดริด โดยตัวแทนของทีมราชันชุดขาวกล่าวว่า "เราเชื่อว่าคุณสามารถกลายเป็นสตาร์ได้ เราต้องการให้คุณและครอบครัวย้ายไปที่มาดริด"
"มีผู้เล่นทั่วโลกอีก 500,000 คน แต่มาดริดต้องการเซ็นสัญญากับผม อย่างงั้นgหรอ ? บ้าไปแล้ว คุณกำลังโกหกผมอยู่" วัลเวร์เด้แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขาคิดว่าคนตรงหน้ากำลังล้อเล่นอยู่ จนแม่ของเขาต้องเรียกให้ตั้งสติ
"ผมดีใจมากๆ เลยวิ่งลงไปที่ล็อบบี้โรงแรมเพื่อไปหาพ่อ ผมตะโกนบอกพ่อว่า พ่อ ! พ่อ ! มาดริดอยู่ที่นี่" พ่อพูดกลับมาว่า "อะไรนะ หมายความว่าไงที่พวกเขาอยู่ที่นี่ ขึ้นไปบนห้อง พวกเขาต้องการเซ็นสัญญากับผม เรอัล มาดริด ต้องการเซ็นสัญญากับผม พ่อมองหน้าผมเหมือนผมเป็นคนที่บ้าที่สุดในโลก แล้วเขาก็ตะโกนกลับมาว่า อยู่บนห้อง แล้วแกลงมาทำอะไรที่นี่ กลับขึ้นไปซะ !"
"วันนั้นเป็นวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชีวิตของผม เพราะผมเห็นพ่อแม่ตื่นเต้นมาก แม่ของผมร้องไห้ไม่หยุด ส่วนพ่อตกใจจนกลายเป็นหิน"
ท้ายที่สุด เรอัล มาดริดตัดสินใจเซ็นสัญญากับกองกลางดาวรุ่งชาวอุรุกวัยจากสโมสรเปญญาโรล ไปร่วมทีม ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านยูโร
ชีวิตใหม่ในมาดริด
หลังจากได้เซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด วันฝึกซ้อมวันแรกก็เดินทางมาถึง วัลเวร์เด้เล่าความรู้สึกแรกของเขาในมาดริด "ผมเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ ผมจำอะไรแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันดูเบลอไปหมดในความทรงจำผม ผมพยายามดูว่าทุกคนแต่งตัวกันยังไง"
"เข็มขัด Gucci"
"สตั๊ด Nike คู่ใหม่ แบบไม่มีรอยขีดข่วน"
"กระเป๋าสตางค์ Louis Vuitton"
"กางเกงใน Gucci นี่มันอะไรกันเนี่ย ของพวกนี้ราคาเท่าไหร่กัน"
ประสบการณ์ครั้งแรกในห้องแต่งตัวของทีมระดับโลกอย่างเรอัล มาดริด ทำให้วัลเวร์เด้รู้สึกประหม่าไม่น้อย เขามาที่นี่ด้วยเสื้อตัวละ 2 ยูโร และพวกของใช้แพง ๆ เหล่านั้นที่ได้เห็นไม่ใช่ของนักเตะระดับสตาร์ของทีมด้วยซ้ำ
"สำหรับผม ZARA ก็ถือว่าแพงมากแล้ว แต่นี่ผมกำลังมองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่าพวกเขาสวมนาฬิกาที่ราคาแพงกว่าบ้านของผมอีก !"
การได้มาพบเจอสภาพแวดล้อมแบบใหม่ สังคมรอบข้างที่เปลี่ยนไป เงินทองและชื่อเสียงที่เข้ามา หากไม่ได้เติบโตมาโดยการมีพื้นฐานทางครอบครวที่ดี สิ่งยั่วยุเหล่านี้อาจพาให้เหล่านักเตะดาวรุ่งหลงระเริง และเลือกเดินในเส้นทางที่ผิดได้ แต่วัลเวร์เด้ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวมาเป็นอย่างดี เขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และพร้อมจะพัฒนายกระดับตัวเองขึ้นไปเทียบเคียงนักเตะระดับโลก
ฤดูกาล 2016-2017 วัลเวร์เด้ลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด กัสติยา ทีมสำรองของเรอัล มาดริด ก่อนจะถูกปล่อยยืมกับให้กับสโมสร เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า จนกระทั่งฤดูกาล 2018-2019 วัลเวร์เด้ ได้รับโอกาสในการลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซานติอาโก้ โซลารี โดยในช่วงแรกของการเล่นกับทีมราชันชุดขาว วัลเวร์เด้ผ่านมือกุนซือของมาดริดมาแล้ว 3 คน รวมทั้งฆูเลน โลเปเตกี และ ซีเนดีน ซีดาน แต่ยังไม่สามารถยึดตัวจริงได้ เพราะสถานการณ์แดนกลางของมาดริดในตอนนั้นที่มีทั้ง กาเซมิโร่, โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช
จนกระทั่งการเข้ามาของคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมากประสบการณ์ที่เห็นแววความสามารถของวัลเวร์เด้ ว่าน่าจะเล่นในตำแหน่งอื่นได้ อันเชล็อตติทดลองใช้วัลเวร์เด้ทั้งในตำแหน่งแบ็กขวา สลับกองกลาง แต่ตำแหน่งที่แจ้งเกิดเขาจริง ๆ คือตัวรุกริมเส้นฝั่งขวา
ส่วนคำถามที่ว่าเขาประสบความสำเร็จขนาดไหน ? แชมป์ลาลีกา 2 สมัย, แชมป์โคปา เดล เรย์ 1 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 2 สมัย และสถิติการลงเล่นที่รวมทุกถ้วยมากกว่า 30 นัดต่อฤดูกาล มาตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 คงตอบคำถามได้เกินพอแล้ว
ฟุตบอลช่วยให้ก้าวผ่านมรสุมชีวิต
หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับเรอัล มาดริด และเส้นทางในอาชีพการค้ากำลังขึ้นสู่กราฟสูงสุด วัลเวร์เด้กลับต้องเผชิญกับเรื่องลำบากใจในชีวิต แพทย์แจ้งกับเขาว่าการตั้งครรภ์ของภรรยาในครั้งนี้มีโอกาสเสี่ยงสูงมาก เธออาจสูญเสียบุตรในครรภ์ได้
"ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ ภรรยาของผมต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ผมไม่กล้าร้องไห้ให้ใครเห็น บางครั้งผมใช้เวลาในห้องน้ำประมาณ 10-15 นาที เอามือกุมหัวตัวเองแล้วร้องไห้ออกมา และเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบถึงฟอร์มในสนามของผมด้วย"
ในเกมการแข่งขันโกปา เดล เรย์ นัดที่เรอัล มาดริด แพ้ให้กับบียาร์เรอัล 2-3 เมื่อเดือนเมษายน 2023 ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นหลังเกม เมื่อวัลเวร์เด้ไปทำร้ายร่างกาย อเล็กซ์ บาเอน่า นักเตะของทีมเรือดำน้ำสีเหลือง จากการเปิดเผยของสื่อคาดว่า แรงจูงใจเกิดจากการที่บาเอน่าไปล้อเลียนวัลเวร์เด้ เรื่องที่ภรรยาของเขาแท้งลูก ตั้งแต่ในเกมที่เจอกันเมื่อเดือนมกราคม แม้ว่าในเวลาต่อมาลูกของวัลเวร์เด้จะคลอดตามกำหนด และแข็งแรงดีก็ตาม แต่วัลเวร์เด้ โกรธแค้นกับเรื่องนี้มากจนลงไม้ลงมือในที่สุด
"ผมเจ็บปวดมากที่สื่อมองว่าผมเป็นคนใช้ความรุนแรง แต่บอกตามตรงว่าผมไม่เสียใจเลย เพราะมันมีการล้ำเส้นเกิดขึ้น ผมแค่ทำมันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการปกป้องครอบครัว"
"ผมมีครอบครัว และแฟนบอลกว่า 80,000 คน คอยโอบกอดผมไว้ในวันที่ตกต่ำที่สุดในชีวิต"
วัลเวร์เด้มีทั้งครอบครัวและแฟนบอลราชันชุดขาวทั่วโลกที่คอยให้กำลังใจ จนเขาสามารถก้าวข้ามผ่านมรสุมในชีวิตมาได้ และลงเล่นให้กับมาดริดด้วยแพสชันที่เต็มเปี่ยมอีกครั้ง
แม้จะมีข่าวเชื่อมโยงกับลิเวอร์พูล แต่จิตใจของวัลเวร์เด้ แน่วแน่มาโดยตลอด เขาไม่เคยมีความคิดที่จะออกจากมาดริด เลย เพราะนี่เป็นที่ที่สร้างตัวตนของเขาขึ้นมา จนในที่สุดมาดริดก็ตอบกลับความซื่อสัตย์นี้ด้วยการขยายสัญญาออกไปถึงปี 2029 พร้อมค่าฉีกสัญญา 1,000 ล้านยูโร เพราะมาดริดมองว่านี่คือเพชรเม็ดงามที่พวกเขาเจียระไนขึ้นมาเอง และจะเป็นอนาคตของทีมได้อีกนาน
แหล่งอ้างอิง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
