13 ธ.ค. 2023 เวลา 05:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ

📌นายกฯ ยัน `ดิจิทัล วอลเล็ต` ดันหนี้สาธารณะไม่เกิน 64.8% ย้ำขึ้นค่าแรงไม่ทำให้เอกชน`หายนะ`

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมมนา “คนไทยถาม นายกฯเศรษฐาตอบ”ถึง ความคืบหน้าของโครงการ Digital Wallet คาดเร็วที่สุดจะได้ใช้ในช่วงเดือน พ.ค. 67 โดยยอมรับว่า จากการออกพ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อดำเนินในโครงการดังกล่าว และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีก 100,000 ล้านบาท จะส่งผลให้หนี้สาธารณะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 64.7-64.8% จากเดิมอยู่ที่ 62% โดยยืนยันว่า ยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง
“เงื่อนไขไม่ได้แจกทุกคน กำหนดคนที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาทไม่ได้ เงินเดือนเกิน 70,000 บาทไม่ได้ ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า คนรวยไม่ควรได้ ไม่ควรให้ทุกคน”นายเศรษฐา กล่าว
สำหรับมาตรการ Digital Wallet ยืนยันว่า ไม่ใช่นโยบายรัฐเดียวที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังมีนโยบายอื่นๆ เช่น การเปิดการค้า การลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) สูงขึ้น และทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะปรับลดลงด้วย
ด้านมาตรการค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท นั้น ภายใน 4 ปีจะขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีเป็น 25,000 บาทให้ได้ ส่วนมติของคณะกรรมการไตรภาคี ที่อนุมัติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเสนอมานั้น ยืนยันว่า รับไม่ได้ โดยเฉพาะการกำหนดขึ้นค่าแรง 2 บาทของภาคใต้ โดยปัจจุบัน เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และไม่เป็นธรรม ดังนั้นจะต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเชื่อว่า การปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้ จะไม่เกิดหายนะกับภาคธุรกิจอย่างแน่นอน แต่จะส่งผลมิติบวกมากกว่า
“เรื่องของเงินเดือน เป็นความเหลื่อมล้ำ มีความไม่เป็นธรรม ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม จะอ้างไตรภาคี นายกฯไม่มีอำนาจในการแทรกแซงพูดได้หมด เราอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงว่าเหมาะสมหรือไม่ การขึ้นไปขนาดนั้น ทำให้ธุรกิจหายนะหรือไม่ หากขึ้นอย่างเหมาะสม รัฐบาลนี้ ภายใต้การนำของผม การลดค่าใช้จ่าย การลดค่าไฟ การเปิดตลาดใหม่ การเจรจาการค้า การดึงนักลงทุนใหม่ๆเข้ามา ถึงจุดหนึ่งภาคธุรกิจพอใจได้ จะคืนความชอบธรรมให้ประชาชนฐานราก และให้เศรษฐกิจดีขึ้น”นายเศรษฐา กล่าว
ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหากัดกร่อนสังคมไทยมายาวนาน และเป็นปัญหาใหญ่ รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยมีการวัดเคพีไอสำหรับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ และฝ่ายการปกครอง โดยยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่ โดยเคพีไอ กำหนดทั้งตัวเลขจำนวนและมูลหนี้ที่ลดลง
ขณะที่มาตรการดูแลค่าไฟฟ้า ซึ่งจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยมาตรการนี้จะหมดลงในช่วงเดือนม.ค.67 ซึ่งในวันนี้ จะมีการประชุมเพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่า จะต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วยอย่างแน่นอน สำหรับแนวทางที่จะแก้ไขราคาพลังงานอย่างยั่งยืน จะต้องพิจารณาโครงสร้าง การบูรณาการระยะยาว เช่น พลังงานสะอาด ที่ภาคประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ คือ โซลาร์รูฟท็อป โดยจะต้องมีการสนับสนุนให้ประชาชนทำมากขึ้น
สำหรับของของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้ประชาชน คือ รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ความสุขของพี่น้องประชาชน ที่ประชาชนอยากได้ เป็นเรื่องที่ รมว.ตระหนักดี ส่วนของขวัญของประชาชนที่จะมอบให้ ไม่ใช่การขึ้นค่าแรง ราคาพืชผล อากาศสะอาด เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ได้
“ของขวัญที่อยากจะมอบให้ อาจไม่ใช่เรื่องจับต้องได้ จะให้คำมั่นว่า รัฐบาลนี้ จะเอาความต้องการของพี่น้องประชาชน เอาปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จะทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ จะนำปัญหาต่างๆ ที่พูดคุยกันในพื้นที่ จะเอามาแก้ไขให้ได้ในทุกปัญหา”นายเศรษฐา กล่าว
*************************************
หนังสือ e-book “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน”
โฆษณา