14 ธ.ค. 2023 เวลา 12:01 • ข่าวรอบโลก

คดีพรากผู้เยาว์ แม้จะเต็มใจ แต่ต้องนอนคุกอยู่ดี

ประเด็นร้อนที่สุดในสังคมไทย ณ ตอนนี้คงหนีไม่พ้นคดีเด็กอายุ 17 ปีถูก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกอย่าง พ่อบาส สมรักษ์ คำสิงห์ พาขึ้นโรงแรม แล้วถูกแจ้งความในคดีพรากผู้เยาว์
ข่าวล่าสุดเพื่อนของเด็กอายุ 17 ปีออกมาเปิดเผยว่า เพื่อนๆพยายามห้ามและอาสาที่จะไปส่งน้องอายุ 17 ปีที่บ้านแล้ว แต่ตัวน้องยืนยันที่จะไปกับพ่อบาสอยู่ดี ซึ่งสอดคล้องกับกล้องวงตรปิดหน้าผับ ตอนที่ออกมาจากร้านกันพอดี
เท่ากับน้องเขาเต็มใจไปกับพ่อบาส แล้วพ่อบาสจะพ้นผิดหรือไม่?
ประเด็นนี้คงต้องมากางตำรากฎหมายกันดูแล้วล่ะ
“พรากผู้เยาว์” คือ การพาหรือแยกเด็กหรือผู้เยาว์ ออกไปจากอำนาจปกครองดูแลของบิดามารดา ทำให้อำนาจปกครองดูแลของบิดามารดาถูกรบกวนหรือถูกกระทบกระเทือน โดยบิดามารดาไม่รู้เห็นยินยอมด้วย อันเป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของบิดามารดา
การพรากผู้เยาว์ถือเป็น “ความผิดทางอาญา” ซึ่งมักจะเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยความผิดฐานพรากผู้เยาว์ที่ขึ้นสู่ชั้นศาลเป็นจำนวนมาก มักเป็นคดีพรากร่วมกับข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา, พาไปเพื่อการอนาจาร, หรือพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย
หรือว่าง่ายๆก็คือ แม้จะเต็มใจไปด้วย แต่ถ้าพ่อแม่เขาเอาผิด ยังไงผู้กระทำก็มีความผิดอยู่ดี
ทีนี้เรามาดูกันว่า ถ้าผิดแล้วจะต้องรับโทษอย่างไรบ้าง
ในกรณีที่ผู้เยาว์อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ยินยอมหรือเต็มใจไปด้วย บุคคลที่คิดจะพรากผู้เยาว์ก็ยังถือว่ามีความผิดและได้รับโทษติดคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท ซึ่งเป็นความผิดอาญา ไม่สามารถยอมความได้ แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้เป็นผู้ฟ้องหรือร้องทุกข์เอาผิดด้วยตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็สามารถจับตัวผู้กระทำให้มารับโทษได้
แม้น้อง 17 ปี จะถูกสังคมตราหน้าว่าไปกับผู้ชายเองแล้วจะมาแจ้งความเอาผิดเขาได้อย่างไร แต่คงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ตามตัวบทกฎหมายนั้นสามารถเอาผิดได้จริงๆ แม้จะเต็มใจก็ตาม ซึ่งบทลงโทษก็หนักหนาเอาเรื่อง จำคุกสูงสุดถึง 10 ปี
ดังนั้นคงขึ้นอยู่กับผู้ปกครองของเด็ก 17 ปีแล้วล่ะว่า จะเอาเรื่องพ่อบาสหรือไม่ คงค้องติดตามกันต่อไป
โฆษณา