วิสัยทัศน์คืออะไร แตกต่างจากเป้าหมายระยะยาวอย่างไร ?
มีไครเคยเป็นเหมือนผมบ้างไหมครับเวลาที่เราจะก่อตั้งองค์กร หรือเขียนแผนธุรกิจ จะมีส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจเลยเขียนแบบงง ๆ ไป นั่นก็คือ ส่วนของ วิสัยทัศน์ นั่นเอง แล้วจริง ๆวิสัยทัศน์คืออะไรด้วยความสงสัย ผมจึงลองเข้าไปถามกูเกิ้ลดู เว็บส่วนมากก็จะบอกคล้าย ๆ กันว่า Vision คือ เป้าหมายระยะยาว ส่วน Mission คือ เป้าหมายระยะสั้น
อ่าวแล้วทำไมต้องใช้คำต่างกันด้วยถ้าความหมายมันเหมือนกันจริงมั้ยครับ? ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ก็พยายามหาข้อมูลมาเรื่อย ๆ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจริง ๆ แล้ว Vision มันคืออะไร แตกต่างจากเป้าหมายระยะยาวอย่างไร ?
จนมีเวลาผ่านไป เกือบครึ่งปี ผมได้อ่านหนังสือ เล่มหนึ่งของคุณ Simon Sinek ชื่อหนังสือชื่อว่า Start with why และได้ฟังคลิบบรรยายของเขาใน youtube เป็นจำนวนมาก ผมจึงเข้าใจว่าอ๋อ จริง ๆ แล้ว คำว่า vision มันไม่ได้หมายความว่าเป้าหมายระยะยาว
จริง ๆแล้ว คำนี้แยกออกได้เป็นสองส่วนนั่นก็คือ "วิสัย" ซึ่งแปลว่า ลักษณะที่เป็นอยู่ หรือ ขอบเขต กับอีกคำหนึ่งคือ "ทัศน์" การเห็น รวมกัน กลายเป็น วิสัยทัศน์ แปลได้ว่า ภาพที่ต้องการเห็น หรือภาพที่อยากจะสร้างให้เป็นจริง
อธิบายได้ว่า เป็นภาพในหัวของเราที่เราจินตนาการขึ้นมาอย่างจัดเจน ว่าในอนาคตข้างหน้าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น หรือจะต้องเป็นจริงให้ได้ และเมื่อเราจินตนาการเห็นภาพนั้นแล้ว เราจะต้องสรรหาถ้อยคำ เพื่อถ่ายทอดมันออกไป จนคนอื่น สามารถที่จะนึกภาพภาพนั้นตามได้
แต่ก็ยังมีส่วนที่ยังแตกต่างจากเป้าหมายระยะยาวอยู่อีก นั่นก็คือ ภาพที่เราเห็นนั้นจะต้องไม่เป็นไปเพื่อตัวเอง แต่เป็นไปเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ หรือเพื่อโลกเขาเรา และเป็นสิ่งที่จะทำสำเร็จได้ยากมาก ๆ และสุดท้ายคือ วัดผลหรือประเมินได้ยากด้วย
ยกตัวอย่างเช่น vision ของ Martin luther king ที่ได้บอกไว้ว่า
“วันหนึ่งเด็กผิวขาวกับเด็กผิวสีจะเดินจูงมือไปด้วยกัน จะเล่นในสนามหญ้าด้วยกัน”
จากถ้อยคำนี้ เราจะเห็นได้ว่า มี 4 อย่างคือ
- 1.เราสามารถนึกภาพตามได้อย่างชัดเจน
- 2.ไม่ใช่เพื่อตัวของเขาเองแต่เพื่อคนอื่น ๆ
- 3.เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะทำให้เกิดขึ้นได้
- 4.ไม่สามารถที่จะวัดเป็นตัวเลขออกมาได้ว่าต้องได้จำนวนทำไหร่จึงจะประสบความสำเร็จ
ซึ่งต่างจำคำว่า “เป้าหมาย” เพราะว่าถ้าเป็นเป้าหมายจะเป็นตรงกันข้ามเลยนั่นก็คือ
- 1.เห็นภาพอนาคตชัดเจน
- 2.เพื่อตัวเองหรือเพื่อองค์กร
- 3.สามารถทำได้ใน 5 ปี 10 ปี หรืออาจจะ 20 ปี
- 4.สามารถที่จะวัดผลได้ ประเมินตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ได้
จะเห็นได้ว่าข้อที่เหมือนกันคือ ข้อแรก ส่วนอีก 3 ข้อที่เหลือนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย และนี่คือสิ่งที่ผมได้ไตร่ตรองจากสิ่งที่ได้ศึกษามาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว
กลั่นกลองออกมาว่ามันต่างกันอย่างไร จึงได้นำมาถ่ายทอดเพื่อที่ผู้ที่สนใจ จะสามารถนำไปประยุกต์ได้
หากว่าไครที่สนใจอยากจะศึกษาต่อ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถไปหาอ่านหนังสือของ Simon sinek ได้ หรือจะเข้าไปฟังสิ่งที่เขาได้พูดได้บรรยายไว้ใน youtube ก็ได้
สุดท้ายนี้หากคุณอ่านแล้วชอบก็อย่าลืมเซฟเก็บไว้หรือจะแชร์ให้คนอื่นต่อก็ยิ่งดี เพื่อที่จะได้ช่วยคนที่กำลังค้นหา vision ของตัวเองได้เข้าใจคำคำนี้มากขึ้น และช่วยกันทำให้สังคมของเราดีขึ้น ช่วยให้โลกใบนี้ดีขึ้น ขอบคุณครับ
ช่อง youtube ของคุณ Simon sinek
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
