15 ธ.ค. 2023 เวลา 01:55 • ไลฟ์สไตล์

การศึกษา…กับโอกาสในการศึกษาต่อ (ตอนที่ 7)

..ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมครอบ
อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ภายใน
เหมือนอ้อมกอดรักแม้ได้โอบใคร
…ชาติ…ภาษา…ไม่สำคัญ…เท่าใจตรงกัน
…รักข้ามขอบฟ้าข้ามมาผูกพัน
ผูกใจรักมั่นสองดวงให้เป็นดวงเดียว
...รักข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์
จากเพลง รักข้ามขอบฟ้า คำร้อง กวี สัตตโกวิท
ทำนอง สง่า อารัมภีร์ ร้องโดย ศรีไศล สุชาติวุฒิ
อันเนื่องมาจากตอนที่ 6 ได้โพสต์รูปภาพหนึ่งที่มีผู้ชายฝรั่งมาถ่ายรูปด้วย เลยจะขอเล่าให้ฟังในตอนนี้เสียเลย ☺️
เทอมนั้นเป็นเทอมสุดท้ายที่รอการแก้ไขจากบัณฑิตวิทยาลัย เลยมีเวลาว่างมากหน่อย แต่ต้องไปเป็นพนักงานเสริฟ 3 วันต่อสัปดาห์ หาเงินจ่ายค่าอาหารและอพาร์ทเมนท์ เมื่อถึงเวลาต้องแก้ไขวิทยานิพนธ์ก็ทำช่วงกลางวัน
มีอยู่วันหนึ่งน้องสุดที่รักคนที่พูดถึงเกือบทุกตอนบอกว่า “ว่างๆพี่..ก็ไปโพสต์หาเพื่อนฝรั่งคุย แบบ pen friend สมัยเด็กๆน่ะ เวลากลับเมืองไทยจะได้ฝึกภาษาอังกฤษไ้ด้ด้วย” ไอ้เราก็เชื่อน้องทุกอย่าง เข้าไปในเว็บหาคู่ของ Yahoo โพสต์รูปภาพ คุณสมบัติเล็กๆน้อยๆ และคุณสมบัติของคนที่อยากจะคุยด้วย
มีคนติดต่อมา 8 คน บางคนก็คุยดีแต่อยู่ไกลคนละฝั่งทวีป โอกาสจะได้เจอตัวเป็นไปไม่ได้เลย บางคนก็คุยใน Rate R ก็เลิกคุยไป เหลือ 2 คน อยู่ Texas และ Mississippi ทั้ง 2 คนนี้เป็นคนที่ถามเรื่องการเรียนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็เลยคุยกันนานกว่าคนอื่นๆ ตอนหลังก็เหลือคนเดียว คือผู้ชายฝรั่งที่อยู่ในรูป เพราะสามารถมาเจอกันได้ แค่ 2 ชั่วโมง(ขับรถ)เดินทาง
แต่ก่อนจะเล่าต่อไปเคยเล่าให้ฟังครั้งหนึ่งแล้วว่า ก่อนได้มาเรียนที่นี่ ไปหาเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอดีเพื่อนเชิญหมอดูที่เป็นอดีตนักเรียนแพทย์จากประเทศเพื่อนบ้านลี้ภัยมาเมืองไทย มาดูหมอกัน ตอนแรกก็เกรงใจเพราะเรามาแบบไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า แต่เพื่อนก็บอกว่าดูได้ไม่เป็นไร ตอนนั้นกังวลใจเรื่องว่าจะได้ไปเรียนต่อต่างประเทศหรือเปล่า น้องคนที่ดูบอกว่าได้ไปแน่ๆเป็นประเทศใหญ่ๆด้วย
และจะเจอเนื้อคู่ที่นั่น พอได้มาเรียนที่นี่ ก็จัดแจงสอดส่ายสายตาดูว่า มีคนไทยคนไหนที่มาเรียนและยังไม่แต่งงานบ้าง ก็มีแต่น้องๆทั้งนั้น ส่วนที่อายุมากกว่าหรือใกล้เคียงกันก็แต่งงานแล้ว แถมบางคนเอาภรรยามาด้วย ก็เลยเซ็งๆ และไม่คิดว่าจะมองฝรั่งเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ก็มีเพื่อนฝรั่งอยู่บ้าง ที่ได้เจอกันบ่อยหน่อยเห็นจะเป็นคนที่ช่วยตรวจภาษาอังกฤษให้ ตอนแรกก็คิดว่าหรือจะเป็นคนนี้ 😃 แต่พบว่ามีแฟนแล้วและรักแฟนมากก็เลยหมดหวัง แต่ด้วยความที่เกิดปีเดียวกัน เรียนปริญญาเอกเหมือนกัน (ต่างคณะ) ก็เลยเชิญมากินอาหารไทยอยู่หลายครั้งเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูภาษาอังกฤษให้เป็นอย่างดี ได้ตามไปเที่ยวบ้านพ่อแม่พร้อมกับเพื่อนเค้าบ้าง หรือบางทีนั่งรถเที่ยวต่างเมืองแบบไปเช้าเย็นกลับตอนที่เค้าไปทำงานอื่นบ้าง
ตอนหลังเค้าป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ก็เลยได้เจอกันน้อยลงและไม่ได้เจอกันในที่สุด (หลังจากกลับมาเมืองไทยสิบกว่าปีนึกถึงว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ก็เลยลอง search ชื่อดูว่ายังอยู่ที่ Alabama หรือเปล่า เพราะคิดว่าเผื่อย้ายไปอยู่ที่นั่นอาจจะได้เจอกันบ้าง พบว่าเสียชีวิตในวัย 50 ปี รู้สึกตกใจและเสียใจ เค้าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง)
หลังจากนั้นก็เลิกคิดถึงเรื่องเนื้อคู่ที่จะเจอ มุ่งแต่เรียนกับการเที่ยวตอนปิดเทอมที่แสนเพลิดเพลินใจ
กลับมาพูดถึงฝรั่งผู้ชายคนนั้นต่อ หลังจากที่น้องสุดที่รักแนะนำให้หาเพื่อนคุยภาษาอังกฤษ จาก 8 คน ก็เหลือแค่ 1 คน จากที่เขียนข้อความคุยกันผ่าน website ก็มาคุยกันทางอีเมล์ ส่งรูปเพิ่มให้กันดู แล้วก็โทรศัพท์คุยกัน หลังจากนั้นไม่นานก็ขอมาเจอตัว มันน่ากลัวมากๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าเค้าเป็นคนดีหรือเปล่า จะมาหลอกลวงหรือมาฆ่ามาแกงเราหรือเปล่า ก็เลยมาเล่าให้พี่คนไทยที่มีสามีอเมริกันตาสีฟ้าเจ้าของร้านอาหารไทยและน้องสุดที่รักฟัง ทั้งสองคนบอกว่าก็เจอกันสิ เลยนัดหมายว่ามาเจอกันที่หอก่อนออกไป dinner ด้วยกัน
แล้วบอกน้องสุดที่รักว่าให้ standby ที่ห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน แค่ 10 เมตร และน้องผู้หญิงอีกคนที่อยู่ตึกตรงข้าม หากได้ยินเสียงพี่ร้องให้มาที่ห้องเลยนะ 🤪
กลับมาพูดถึงฝรั่งผู้ชายคนนั้นต่อ หลังจากที่น้องสุดที่รักแนะนำให้หาเพื่อนคุยภาษาอังกฤษ จาก 8 คน ก็เหลือแค่ 1 คน จากที่เขียนข้อความคุยกันผ่าน website ก็มาคุยกันทางอีเมล์ ส่งรูปเพิ่มให้กันดู แล้วก็โทรศัพท์คุยกัน หลังจากนั้นไม่นานก็ขอมาเจอตัว มันน่ากลัวมากๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าเค้าเป็นคนดีหรือเปล่า จะมาหลอกลวงหรือมาฆ่ามาแกงเราหรือเปล่า ก็เลยมาเล่าให้พี่คนไทยที่มีสามีอเมริกันตาสีฟ้าเจ้าของร้านอาหารไทยและน้องสุดที่รักฟัง
ทั้งสองคนบอกว่าก็เจอกันสิ เลยนัดหมายว่ามาเจอกันที่หอก่อนออกไป dinner ด้วยกัน แล้วบอกน้องสุดที่รักว่าให้ standby ที่ห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน แค่ 10 เมตร และน้องผู้หญิงอีกคนที่อยู่ตึกตรงข้าม หากได้ยินเสียงพี่ร้องให้มาที่ห้องเลยนะ 🤪
วันนัดพี่คนไทยช่วยหาชุดให้ใส่ เพราะอยู่ที่นี่มีแต่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ชุดสวยๆแทบไม่มี ดูความเรียบร้อยแล้วกลับไป พอถึงเวลามีคนมาเคาะประตูห้อง เปิดประตู แล้วเจอเค้า…อืมมม…ตรงปก…
เชิญเข้ามาในห้องคุยกันนิดหน่อยก็ออกไปกินอาหารอิตาเลียนกัน หลังกินเสร็จขับรถมาส่ง แล้วจากกันด้วยดี ยังคิดว่าเค้าจะติดต่อเราอีกไหม ปรากฎว่าเค้าไม่เข็ด ก็เลยติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ มีพาลูกชายทั้ง 2 คนมากินอาหารด้วยกันก็เคย
เมื่อถึงวันรับปริญญาก็เลยเชิญมาร่วมในงานวันนั้นด้วย และคุยกันต่อว่า หลังจากที่เรากลับเมืองไทยแล้วจะยังไงต่อ เค้าตอบว่ายังไม่รู้เลย…มันไกล…
หลังจากกลับมาได้ปีกว่าๆ ชวนเค้ามาเที่ยวเมืองไทย ให้มาเห็นว่าทางครอบครัวและสถานที่ทำงานเราเป็นอย่างไร พอเค้ากลับมาที่นี่ก็ขอแต่งงานผ่านทางอีเมล์ (สุดโรแมนติก 🤣) แต่ก็ตอบไปว่า “I do” นี่ก็จะฉลองวันครบรอบแต่งงานปีที่ 18 สิ้นเดือนกันยายน 2566 นี้กันแล้ว
จากวันที่รู้จักกันวันนั้นจนวันนี้ก็กว่า 21 ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ แต่…พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราก็ไม่รู้ แค่ทำดีต่อกันวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ…
ถ้ามันใช่ มันก็ใช่
หากไม่ใช่ ต่อให้ยื้อยุดฉุดไว้
ก็จากไปอยู่ดี
If it is ours, it shall be ours.
If it is not ours, you can not hold it back.
It will fly away, anyhow!!!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา