16 ธ.ค. 2023 เวลา 00:26 • สัตว์เลี้ยง
เทศบาลนครหาดใหญ่

ลักกี้จู่โจมงู....

"สวัสดีครับ ลักกี้ครับ" เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับลักกี้  หมาที่อยู่กับครอบครัวเรามาแล้วเกือบสิบปี และเราก็ดีใจที่มันยังอยู่กับเราถึงปัจจุบัน ที่เราพูดอย่างนี้เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่เราเกือบจะเสียลักกี้ไป เป็นเรื่องที่เราโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ซึ่งเราก็จะมาเล่าให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ตั้งแต่มีลักกี้มาอยู่ที่บ้าน มันได้ทำหน้าที่หนึ่งที่ไม่ได้มีใครขอเลย นั่นคือการคอยเฝ้าระวังบ้านให้ เราได้ยินมาว่าหลายคนเลี้ยงหมาเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่ที่ลักกี้มาอยู่กับครอบครัวเราแต่แรกเพราะเราเป็นลูกคนเดียวและช่วงปิดเทอมตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กเราจึงรู้สึกเหงาและเดียวดายแต่ใจปราถนาจะวิ่งเล่น จึงบอกแม่ว่าอยากเลี้ยงหมาและแล้วเจ้าลักกี้ตัวน้อยก็มาอยู่ด้วยกัน พวกเราเล่นด้วยกันจนตอนนี้มันก็ใหญ่เกินกว่าเราจะอุ้มมันไหวแล้ว
นอกจากจะวิ่งเล่นด้วยกันลักกี้จะคอยสอดส่องว่าสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ที่แอบเข้ามารั้วบ้านด้วย อย่างเช่น พวก งู กิ่งก่า ตะขาบหรือคางคก มันเป็นหมาที่ใจดีและเป็นมิตรต่อคนที่มาเยี่ยมบ้านแต่ไม่ใช่กับสัตว์จำพวกนี้ หลายครั้งมันเจอผู้บุกรุกยามดึกลักกี้จึงเห่าคอยเรียกให้พวกเราตื่นเป็นประจำ เอาตรง ๆ ก็น่ารำคาญละ เราเองก็เชื่อว่าเพื่อนบ้านก็รำคาญไม่ต่างกัน แต่ถึงกระนั้นยังไม่มีใครมาต่อว่าอะไรลักกี้
ทุกคนรู้ว่ามันทำด้วยความหวังดี บางครั้งที่มันปลุกพวกเราไปตรวจสอบก็ไม่เจออะไร สิ่ง ๆ นั้นที่ลักกี้มองหาอาจจะหนีหายไปเหลือไว้แต่กลิ่นให้คอยสงสัย แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่มันเป็นทั้งสัตว์มีพิษไม่ก็จิ้งจกตัวเดียว อย่างไรก็ตามเราต้องคอยระวังเสมอไม่ให้ลักกี้เข้าใกล้มันมากเกินไป เพราะฉนั้นเมื่อได้สัญญานจากลักกี้แล้วพ่อเราจะไปตรวจดูพื้นที่แถวนั้นที่ลักกี้ใช้จมูกดมหาส่วนเราจะคอยประคองและจับลักกี้ออกห่างเอาไว้เพื่อไม่ให้มันได้รับอันตรายใด ๆ จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราทำพลาด....
ช่วงบ่ายวันหนึ่งลักกี้เห่าไม่หยุด พวกเรารู้ดีว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ พ่อเราไปหยิบไม้และมองหาลักกี้ พอเจอก็พบว่ามันกำลังดมอะไรบางอย่างอยู่ในซอกเล็ก และมันก็ไม่ออกมาสักที พวกเราพยายามให้ลักกี้ถอยออกไปก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้พ่อใช้สเปรย์ฆ่าแมลงฉีดเข้าไปให้สิ่งนั้นออกมาสักที
และเมื่อมันออกมาไม่มีใครควบคุมลักกี้ได้ทันการณ์มันงับเข้าที่ตัวของงูและสะบัดวิ่งไปมากว่าจะหยุดลักกี้ได้ก็ต้อใช้เวลาครู่นึงซึ่งในตอนที่ลักกี้ยอมปล่อยงูตัวนั้นมันก็สิ้นแรงดิ้นและตายลงแล้ว พ่อเราศพไปทิ้งในหญ้านอกบ้านและวางใจลงโดยที่ไม่รู้เลยว่างูตัวนั้นได้ฝังพิษเข้าไปในคางของลักกี้แล้ว
พวกเราไม่ทันได้สังเกต ลักกี้มีอาการน้ำลายไหลอยู่ตลอดซึ่งพวกเราคิดว่ามันคงโดนยาฆ่าแมลงเข้าไปเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง หลังจากนั้น มันก็มีอาการบวม ๆ แถวปากของมัน เรากังวลว่ามันจะโดนงูพิษกัดเข้า ถึงอย่างนั้นมันยังแสดงท่าทางที่แข็งแรง ตกเย็นก็กวนให้พาออกไปเดินเล่นตามปกติ ในตอนนั้นเราเพียงแต่เฝ้ามองมันไม่ได้กระตุ้นให้พ่อแม่รีบพามันไปหาหมอเลย เรายังคงรู้สึกผิดอยู่เสมอมา เพราะว่าถ้าเรารีบกว่านี้ลักกี้คงไม่ต้องทรมานอยู่นาน....
ตกดึกตอนที่เรากำลังลงแรงค์ตีป้อมกับเพื่อนเราได้ยินแม่กับพ่อคุยกันอีกห้องว่าลักกี้นอนหมดสภาพอยู่ตอนนี้ พอเราได้ยินอย่างนั้นเราทิ้งเกมนั้นแล้วออกจากห้องไปถามดูว่าเกิดอะไรขึ้นทันที เราออกมาเห็นลักกี้ที่หมดสภาพอย่างทุกข์ทรมาน พ่อแม่เองก็ไม่รู้จะทำยังไง เรารีบคว้ามือถือมาเปิดหาว่ามีคลินิกสัตว์ใกล้ ๆ ยังเปิดอยู่ไหม พอเจอแล้วเราก็เอาเบอร์ให้แม่โทรไปหาทันที พวกเราพาลักกี้ขึ้นรถเราคอยประคองลักกี้อยู่เบาะหลังพร้อมกับบอกทางส่วนพ่อเราก็เป็นคนขับ
พอเราไปถึงเราหมอเขาวินิฉัยว่าคงโดนงูเห่ากัด พวกเราก็พลาดเองที่ไม่ได้ตรวจดูว่างูมันงูชนิดไหน แต่ด้วยอาการที่กล่อมระบบประสาทก็ดูเป็นไปได้ว่าจะเป็นงูเห่า เราเองก็เคยได้ยินว่าพิษของงูเห่าจะทำให้เหยื่อง่วงและหลับตายไปเลย แต่แล้วข้อมูลชุดนี้ก็พวงมากับข่าวร้าย ที่คลินิกตอนนี้มีเซรุ่มแก้พิษแค่โดสเดียวซึ่งขนาดตัวของลักกี้จะต้องใช้สองโดส หมอจึงแนะนำให้พวกเราขับรถไปตามโรงพยาบาลต่างๆเพื่อหาซื้อเซรุ่มแก้พิษ
ด้วยใบรับรองแพทย์เขียนมือของหมอพวกเราออกรถไปตามโรงพยาบาลเพื่อหาเซรุ่มไปที่แรกก็ไม่มีไปที่ที่สองก็ไม่มีแต่โชคดีพี่ ๆ หมอและพยาบาลโทรหาคนรู้จักจนเรารู้ว่าโรงพยาบาลไหนมีบ้าง พวกเรารีบไปที่นั่นกัน ซึ่งในตอนนั้นเวลาก็ผ่านมาเกือบจะชั่วโมงหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันที่คลินิก หมอก็คอยปลุกไม่ให้ลักกี้ได้หลับอยู่ตลอดเวลา พวกเรากลับมาพร้อมกับเซรุ่ม พอรับไปและเริ่มทำการรักษาทันที แม่เราคอยอยู่กับลักกี้พ่อก็จัดการค่าใช้จ่าย
ส่วนเราไม่กล้าที่จะไปเฝ้ามันเลย ตัวเราสั่น ใจเราหวั่นไหวน้ำตาเริ่มก่อตัว เราไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะอยู่ในสภาพนี้ มันคือความรู้สึกที่ร่างกายแสดงออกให้เห็นว่าเรากำลังจะเสียคนสำคัญในชีวิตไป เราออกมานั่งข้างนอกคนเดียวเช็ดน้ำตา และพยายามข่มความคิดไม่ให้จินตนาการไปถึงการสูญเสีย
กว่าพวกเราจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเที่ยงคืน ลักกี้จะพักที่คลินิก ก่อนนอนเราก็อดคิดไม่ได้ว่าพรุ่งนี้มันจะกลับมารึเปล่า จนแล้วจนรอดประมาณช่วงเที่ยงของวันถัดมาลักกี้กลับมาที่บ้านของเรา แก้มมันบวมแต่หมอบอกว่ามันจะหายแถมยังบอกอีกด้วยว่ามันแข็งแรงมาก ๆ เลย พวกเราโล่งใจจริง ๆ มันคือคนสำคัญในครอบครัวที่คุ้มค่าจะคอยปกป้องเช่นเดียวกับที่ลักกี้คิดแบบนั้นกับพวกเรา
มาถึงตรงนี้อาจจะมีคนที่ได้อ่านแล้วมีทั้งความรู้สึกมากมายทั้งดีและร้ายกับเรื่องที่เราเล่า เราเข้าใจทั้งหมดเลย บางครั้งเราเองก็คิดว่า ถ้าไม่ไปยุ่งกับงูตั้งแต่แรกมันคงไม่มาย้อนทำร้ายกัน ทุกชีวิตล้วนก้าวต่อเพื่อความอยู่รอด และเราควรจะคอยช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรค แต่ถึงอย่างนั้น บางครั้งก็ห่ำหั่นเพื่อความอยู่รอดหรือไม่ก็แค่เพียงความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางความคิดด้วยซ้ำ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราจึงของเลือกเก็บสิ่งสำคัญหรือช่วยเหลือคนสำคัญไว้ก่อน
นึกย้อนไปเราเลิกวิ่งเล่นกับลักกี้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เราโตขึ้นและเป็นฝ่ายที่เลิกก่อน พอมาถึงตอนนี้ผ่านเหตุการณ์นั่นไป จะกลับไปวิ่งเล่นกับมัน มันก็ขี้เกียจแล้วเมื่อกัน ตอนที่เขียนblogนี้อยู่เรายังอยู่กรุงเทพแต่ก็ปิดเทอมแล้ว จะกลับบ้านเร็ว ๆ นี้แหละ จะกลับไปกอดเจ้าลักกี้ให้หายคิดถึงด้วย....
ปล. ไม่มี IG ลักกี้ แต่มันของไอ้ตัวเล็ก มันชื่อซันนี่ @named_sunny อยากเห็นความน่ารัก....น่าชัง! ของมันก็ติดตามไว้นะ
ปล.2 คิดว่าปีนี้น่าจะไม่ได้ลงblogเพิ่มแล้วละ ฉะนั้น สวัสดีปีใหม่ Happy New Year 2024 นะทุกคน ขอบคุณนะครับสำหรับปีนี้
โฆษณา