16 ธ.ค. 2023 เวลา 14:00 • ความคิดเห็น

แชร์ประสบการณ์โดนโกงบน Facebook Marketplace เมื่อความชะล่าใจทำให้ทั้งเสียรู้และเสียเงิน

เสียเงินยังไม่เจ็บใจเท่ากับเสียรู้ โดยเฉพาะผมที่เขียนเตือนคนอื่นตลอดว่าอย่าไปเชื่อใจใครง่ายๆ บนโลกออนไลน์ แต่ตัวเองก็กลับพลาดซะเอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนที่กำลังหาซื้อ iPad บน Facebook Marketplace แผลยังสดใหม่และยังเจ็บใจไม่หายถึงตอนนี้ เลยอยากเอาประสบการณ์ความผิดพลาดของตัวเองมาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกัน
ต้องบอกก่อนว่าหน้านี้ผมก็เคยซื้อของจาก Marketplace ค่อนข้างบ่อย ไม่เคยเจอโกงจนเลย เพราะส่วนใหญ่แบบ 98% จะนัดเจอเพื่อดูของ ถ้าไม่นัดเจอและเป็นของที่อยากได้จริงๆ (กรณีพิเศษยกเว้นมากๆ ) ก็จะไปเช็กโปรไฟล์ของคนขายว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าเป็นโปรไฟล์ที่เพิ่งสร้างใหม่เลยนี่เลี่ยงเป็นอันดับแรก ถ้าเป็นโปรไฟล์ที่เชื่อถือได้ ก็จะขอรูปสินค้าในมุมต่างๆ รวมถึงวิดีโอของสินค้า บวกกับชื่อของคนขายเขียนบนกระดาษ บวกวัน/เดือน/ปี ของการสนทนาครั้งนั้น
ต่อจากนั้นก่อนจะโอนเงินก็เข้าเว็บไซต์ชื่อ ‘blacklistseller.com’ ที่สามารถเช็กคนขายที่เคยติดลิสต์โกงเงิน ซึ่งสามารถใช้ ชื่อ-นามสกุล เลขบัญชี และธนาคาร ของผู้รับเงินปลายทางไปเช็กได้เลยว่าเคยมีรายงานอะไรไว้รึเปล่า
ทำแบบนี้มาตลอดครับเลยรอดมาได้
แต่ครั้งล่าสุดผมพลาด จะบอกว่าด้วยความชะล่าใจก็คงไม่ผิดนัก
เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ครับ
หลังจากการค้นหา iPad Air 4 256GB Wifi มาหลายสัปดาห์ (เริ่มล้าๆ) ผมก็ไปเจอโพสต์หนึ่งที่ตั้งราคาไว้ 14,500 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ที่ขายๆ กันโพสต์อื่นจะอยู่ราว 15,500 - 16,000 บาท ประมาณนั้น แถมตัวนี้มีประกันเหลือด้วย แบตฯ ก็ยังดีอยู่ เลยทักไปถามว่า 13,500 ได้ไหม?
เมื่อเหยื่อมาเคาะประตูหน้าบ้าน โจรก็พร้อมจะอ้าแขนรับทันที
“พร้อมจบ” ฝั่งนั้นตอบ
ข้อสังเกตอย่างแรกของสินค้าที่มักไม่มีอยู่จริงคือตั้งราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ แบบน่าดึงดูด ไม่ต่ำจนเกินไปจนรู้สึกว่าเป็นโจรแน่นอน แต่ก็ไม่สูงเหมือนเจ้าอื่นๆ ที่ขายกันทั่วไป แล้วถ้าทักไปต่อราคา ส่วนใหญ่ก็จะพร้อมจบปิดงานแบบนี้แหละ
ผมก็ถามต่อว่าไปดูของได้ที่ไหน เขาบอกว่าของอยู่เชียงราย (ทั้งๆ ที่ตัวผมอยู่เชียงใหม่และในโพสต์ก็บอกว่าโลเคชันอยู่เชียงใหม่ ซึ่งนี่น่าจะเป็นจุดสังเกตที่สอง) อยู่ที่ร้านในห้างหนึ่ง ตรงนี้ครับเขาจะส่งหน้าเฟสของร้าน (ซึ่งเป็นร้านปลอม เอาชื่อและรูปร้านอื่นมาสร้างแล้วลงโพสต์รัวๆ แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้คนมาคอมเมนต์) พร้อมกับส่งโพสต์หนึ่งที่เป็นโพสต์เช็กเครดิตร้าน (ซึ่งจากที่ดูก็เหมือนจะเป็นหน้าม้ามาโพสต์)
1
ดูแล้วจังหวะนั้นคือดูผ่านๆ ก็ไม่ติดใจอะไร (นี่คือความชะล่าใจจุดแรก) ดูมีหน้าร้าน ดูมีเพจ ดูมีความน่าเชื่อถือ
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปเช็กประวัติคนขายตามปกติ ซึ่งตั้งเป็นส่วนตัวไว้ แต่ก็ไม่ได้เป็นบัญชีใหม่ ก็โอเค (ชะล่าใจต่อ)
เขาถามว่า “พร้อมโอนเลยไหม ถ้าส่งไปแล้วของไม่ตรงตามปก ยินดีคืนเงิน 100%” (สร้างความมั่นใจให้เหยื่อ)
จังหวะนี้ผมเริ่มเอะใจบางอย่าง นิดหนึ่งว่ามันดูเหมือนคำพูดของโจรเลย แต่ก็ยังคุยต่อครับว่า
1
“อืมมม…ผมโอเคกับราคาครับ แต่ผมอยากเห็นตัวจริงก่อน ช่วงนี้โจรเยอะ”
แล้วเขาก็เงียบไป (สงสัยคงคิดว่าปลาหลุดมือแล้ว)
ซึ่งที่จริงผมจบตรงนี้ก็ได้ เพราะดูทะแม่งๆ นิดหน่อย ถ้าไม่เห็นเครื่องจริงก็คงไม่เอา ไปหาเครื่องอื่น เพราะราคามันก็ไม่ได้ถูกอะไรมาก และหาใหม่ได้ไม่ยาก
1
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ผมดันไปมีเพื่อนอยู่เชียงรายพอดี เลยรู้สึกว่าเออ ให้เพื่อนไปดูแทนก็ได้ ขี้เกียจหาแล้วด้วย เลยทักไปหาเพื่อนว่า ‘ฝากเข้าไปดู iPad ให้หน่อยได้ไหม? ผมคุยไว้กับร้าน xxx ในห้าง xxx’ พร้อมส่งรูปหน้าร้าน รายละเอียดการคุยไปให้เพื่อนดู เพื่อนก็บอกว่าได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูให้
ผมทักกลับไปหาโจร (ปลาว่ายวนมาติดเบ็ดเองได้ด้วย เก่งชิบหายเลย) บอกว่า “งั้นเอางี้ ผมมัดจำไว้ 500 บาท เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าเพื่อนไปดูของแล้วโอเค ผมโอนเพิ่มให้”
1
โจรก็บอกว่า “ได้” (ปลากลับมาให้กินง่ายๆ อย่างน้อยก็ได้ค่าข้าววันนี้แล้ว)
ผมขอเลขบัญชี และชื่อ แล้วก็เอาไปเช็กกับ ‘blacklistseller.com’ ก็ไม่ขึ้น รู้สึกว่าคงปลอดภัยแหละ สรุปสุดท้ายโอนไป 500 บาท (ชะล่าใจสุดท้าย)
2
วันต่อมาครับ...เพื่อนไปที่ห้างนั้น เอารูปไปเทียบ ก็ไม่เห็นมีร้านนี้ เดินไปถามคนแถวนั้นก็บอกว่าไม่มี เพื่อนทักมาบอก ‘มึงโดนโจรแล้ว ดีนะโอนไปแค่ 500’
ผมก็รีบเอาชื่อร้านมาค้นบน Facebook ทีนี้ก็เจอร้านต้นทาง ซึ่งอยู่อีกจังหวัดหนึ่งเลย ร้านเขียนโพสต์บนหน้าเพจว่าเจอแอบอ้างและให้ระวังโจรเอาชื่อไปใช้ ก็เลยรู้แล้วว่าเสียเหลี่ยมโจรไปแล้ว
(จังหวะนี้ก็หัวเสียกับตัวเองพอสมควร แม้เงินไม่เยอะ แต่รู้สึกว่าไม่น่าพลาดง่ายขนาดนี้)
แน่นอนครับ หลังจากนั้นผมทักไปเขาก็ไม่ตอบอะไรแล้ว โพสต์สินค้าตัวนั้นก็ถูกลบในเวลาต่อมา สิ่งที่ผมทำได้ต่อจากนั้นก็แค่เอาชื่อและบัญชีของโจรไปรายงานบนเว็บไซต์บัญชีดำและทำใจว่า...เออ เจ็บใจ ซื้อบทเรียนราคา 500 บาทไป
เพราะฉะนั้นบทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าโจรเยอะมากครับออนไลน์ ถ้าใครเข้าไปที่เว็บไซต์บัญชีดำจะเห็นเลยว่าแต่ละวันนั้นมีคนมารายงานความเสียหายเป็นจำนวนมาก บางคนหลักร้อย หลักพัน บ้างหลักหมื่นก็มี
แล้วทำยังไงได้บ้าง? ส่วนใหญ่มันก็จบตรงนี้ ไปแจ้งความก็เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร (หากมีใครเคยไปแจ้งความแล้วได้เงินคืนหรือมีวิธีมาแชร์กันได้นะครับ) โจรก็ลอยตัว ไม่กลัวโดนจับ เพราะเราเองเป็นผู้เสียหายก็ไม่รู้จะไปตามยังไงหรือไม่มีระบบที่จะช่วยเอาผิดโจรได้ สุดท้ายก็ไปหลอกเหยื่อรายต่อไป
ทีนี้อีกประเด็นหนึ่งที่อยากเตือนคือ การซื้อของออนไลน์แบบนี้ การนัดเจอคือ 100% สุด ไม่ต้องมัดจำ ถ้าเขาไม่มาเราก็แค่เสียเวลาหรือไม่ได้ของชิ้นนั้นไป ก็ไปหาใหม่ อย่างมากก็เสียอารมณ์ (แต่จะไม่หัวเสีย) เพราะว่าถึงแม้คนขาย (ที่พร้อมเป็นโจร) มีของจริงๆ สามารถโพสต์ขาย ถ่ายคลิป ส่งหลักฐานอะไรมาให้เราดูได้ทุกอย่าง พอจ่ายเงินทั้งหมดปุ๊บ ก็ไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าเขาจะส่งของมาให้ เพราะฉะนั้นเห็นของแล้วจบสบายใจกว่า
เอาเป็นว่าบทความนี้มีมูลค่า 500 บาท ครับ 🙂
ปล. สุดท้ายผมก็ไปได้ iPad ที่ร้านมือสองในเชียงใหม่นี้แหละ ขับไปเอาที่ร้านจบเลย
#aomMONEY #โกง #มิจฉาชีพ #FacebookMarketplace
โฆษณา