16 ธ.ค. 2023 เวลา 21:58 • ปรัชญา

เรื่อง เพราะเธอคือ ท้องฟ้าของก้อนเมฆนะ

ทุกครั้งที่นายก้อนเมฆ
พบเจอกับความทุกข์
เขามักจะคลายทุกข์
ด้วยการแหงนมองดูท้องฟ้า ที่สดใสอยู่เสมอ
เพียงเชื่อว่าจะทำให้คลายความทุกข์
ที่เกิดขึ้นภายในใจของเขา
แต่ทว่าวันหนึ่ง
วันที่เขาเกิดความทุกข์ภายในจิตใจ
มากเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด
เพราะไม่ว่าเขาจะมองดูท้องฟ้าที่สดใสนานเท่าใด
ก็ไม่สามารถทำให้เขาคลายทุกข์ได้เลย
เขาจึงอ้อนวอนต่อท้องฟ้าว่า
ได้โปรดเถอะ
ให้ผมได้มองท้องฟ้า
และคลายทุกข์ได้เหมือนเดิมทีเถอะครับ
สิ้นคำอ้อนวอนนั้น
ก็มีแสงแดดที่เจิดจ้าส่องมาตรงที่เขาอยู่
ทันใดนั้น
เขาก็ได้พบกับ เธอ....ท้องฟ้า
สวัสดีค่ะฉันชื่อท้องฟ้า
ยินดีที่ได้รู้จักนะนายก้อนเมฆ
นี่รู้อะไรไหม
ทุกวันที่เธอมีใบหน้าที่เศร้าหมอง
และเมื่อเธอมองเรา ที่เป็นท้องฟ้าทีไร
เรามักจะเห็นรอยยิ้มของเธอเกิดขึ้นเสมอเลยนะ
มันดีมากจริงๆ
เลยใช่ไหมที่มองอะไรที่เรารัก แล้วยิ้มได้
เราเองก็ดีใจนะ ที่ท้องฟ้าอย่างเรา
สามารถทำให้เธอยิ้มได้
เพียงแค่เธอมองเราเท่านั้น
เธอก็มีความรู้สึก มีความสุข
แต่นี่นายก้อนเมฆ เราถามหน่อยสิ
เป็นเพราะนาย สบายใจหรอที่ได้มองท้องฟ้าอย่างเรา
ทำไมเวลาที่เรามองลงมาเห็นใครมากมาย
เราไม่เห็นจะรู้สึกสบายใจเลย
เธออาาจะคิดว่า
ท้องฟ้าอย่างเรามันกว้างมาก
จนไม่ต้องแบกรับอะไรใช่ไหม
แต่เธอรู้ไหมเราจ้องมองคนมากมาย
ที่มองท้องฟ้าอย่างเราในทุกวัน
คนที่มองมา เขาไม่ได้มองแล้วยิ้มได้แบบเธอเลย
เรามักจะเห็นพวกเขาเศร้าเสมอๆเลยนะ
ยิ่งเขามองเรานานมากเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งเศร้าลงๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
หลายครั้งที่เรามองเห็นคนพวกนั้นน้ำตาคลอเบ้า
เมื่อน้ำตาของเขาได้ ไหลออกมาแล้ว
จากที่มองเราอยู่กลับกลายเป็นรีบก้มหนีหลบหน้าท้องฟ้าอย่างเรา
ไปซะอย่างนั้น
แต่มีเพียงนาย!!
ก้อนเมฆ
ที่มองเราแล้วยิ้มออกมาได้
และคำอ้อนวอนของนาย ก้อนเมฆ
จึงทำให้เรา ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ตรงนี้และในตอนนี้
สิ้นเสียงของท้องฟ้า
นายก้อนเมฆก็ได้โผเข้ากอดท้องฟ้า
และพูดว่า
ว่างเปล่าไง
ก็เพราะเวลาที่เห็นท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งก้อนเมฆ น่ะ
มันว่างเปล่า
ก้อนเมฆอย่างเราที่ไม่มีท้องฟ้า
มันก็เป็นเพียงสิ่งที่ไร้ตัวตน
เพราะไม่มีที่ให้ยืนอยู่ตรงไหนเลย
มันทำให้เหงาหัวใจมากมายเหลือเกินเลย
รู้ไหม
ท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งก้อนเมฆ
แม้จะมีสีฟ้าทั่วทั้งฟ้า
และต่อให้มองไปไกลสุดขอบฟ้าได้เเค่ไหน
ก็ยังคงรู้สึกถึงความว่างเปล่า
และที่ทุกครั้งที่ก้อนเมฆมองท้องฟ้าแล้วยังยิ้มได้
นั่นก็เพราะอย่างน้อยๆก้อนเมฆเองก็ไม่ได้รู้สึกแบบที่ท้องฟ้ารู้สึกเพียงผู้เดียว
เพราะได้รู้ว่าท้องฟ้าเองก็รู้สึกเหมือนกัน
มันยิ่งทำให้ทุกครั้งที่ก้อนเมฆมองเห็นท้องฟ้าแล้วคลายความรู้สึกโดดเดี่ยวไปได้มาก
แต่ว่าในวันนี้ ก้อนเมฆขอได้ไหมในเมื่อเราเองก็โดดเดี่ยวเหมือนกัน
เรามาเป็นกำลังใจให้กันและก้าวไปพร้อมๆกันเถอะนะ
สิ้นคำพูดของก้อนเมฆ ท้องฟ้ากลับกอดก้อนเมฆแน่นและปลดปล่อยความทุกข์ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด ผ่านอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่น
นับตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่แหงนมองไปบนฟ้า ก็มักจะได้เห็นท้องฟ้าที่อยู่เคียงคู่กับก้อนเมฆอยู่ตลอด
แม้บางครั้งอาจเห็นว่าท้องฟ้า ไร้ซึ่งก้อนเมฆเป็นบางวัน
แต่ไม่มีวันไหนเลย ที่ก้อนเมฆจะมองไม่เห็นท้องฟ้า
นั่นก็เพราะว่า ท้องฟ้าได้โอบกอดก้อนเมฆแน่นซะจนมองไม่เห็นก้อนเมฆนั่นเอง
และหลายครั้งแม้ว่า ใครหลายคนจะมีรอยยิ้มที่ได้มองเห็นท้องฟ้าโอบกอดก้อนเมฆ แต่ก็ยังมีอยู่ไม่น้อยที่เห็นท้องฟ้าโอบกอดก้อนเมฆแล้วรู้สึกโดดเดี่ยว
แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็อยู่ที่ว่าเราจะมองมันอย่างไร
เพราะท้องฟ้า ก็ยังคงเป็นท้องฟ้า
และก้อนเมฆ ก็ยังคงเป็นก้อนเมฆ
ความที่ ต่างคนต่างมุมมอง
คนเรามองเห็นสิ่งเดียวกัน แต่ต่างมุมมอง ก็ทำให้รับรู้อะไร ที่แตกต่าง และด้วยความต่างนี้ แค่เพียง จุดเดียวที่เรามองเห็นตรงกัน มันก็เพียงพอ ที่จะเป็นเหตุผล ให้ก้าวไปพร้อมกันได้ เพราะว่าจุดที่มองเห็นตรงกันนั้น มันก็คือกำลังใจแสนสำคัญ และเพียงเท่านั้น มันก็เป็นกำลังใจที่ดีมากเพียงพอแล้ว"
จิ้นพุริ้น
คนเราน่ะเห็นต่างได้
แต่เป้าหมายเดียวกัน
มันก็เพียงพอแล้ว
จิ้นพุริ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยที่จะนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาตนเองให้มีแต่ความสุขที่หัวจิตหัวใจนะคะ
JINNPUURINN
จิ้นพุริ้น
🤍
ที่จิ้นพุริ้นใช้ เป็นหัวใจสีขาวก็เพราะว่าสีขาวนั้นจะถูกแต่งเติมด้วยสีอะไรก็ได้ นั่นหมายความว่าเราสามารถควบคุมได้แค่ หัวใจของเราว่าจะใส่สีอะไรลงไป มันก็อยู่ตรงที่ เราเลือกค่ะ
🤍
โฆษณา