จะสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวคุยกับปลาวาฬ
ให้ได้ก่อน 🐳🐳
ท่วงทำนองเพลงปลาวาฬดึงดูดใจมนุษย์มานานหลายศตวรรษ และไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม การเปล่งเสียงที่ซับซ้อนเหล่านี้ ผลิตโดยวาฬหลายสายพันธุ์ มีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจกับดนตรีของมนุษย์
วาฬหลังค่อมเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงที่สุดในมหาสมุทร เปล่งเสียงร้องที่ซับซ้อนโดยมีระดับเสียงและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพลงเหล่านี้สามารถครอบคลุมได้หลายอ็อกเทฟ [ช่วงระหว่างเสียง 2 เสียงใด ๆ โดยที่เสียงหนึ่งมีความถี่เสียงเป็น 2 เท่าของอีกเสียงหนึ่ง]ซึ่งคล้ายกับท่วงทำนองของมนุษย์ในรูปแบบขึ้นลง
เพลงของวาฬมีระดับเสียงและความเข้มข้นที่หลากหลาย คล้ายกับวิธีที่ดนตรีของมนุษย์ใช้ไดนามิกเพื่อสร้างผลกระทบทางอารมณ์ ปลาวาฬสีน้ำเงินสามารถสร้างเสียงดังที่สุดในโลกได้ถึงระดับที่อาจทำลายการได้ยินของมนุษย์ได้
แม้ว่าเนื้อเพลง▪️▪️
ของวาฬต่างจากดนตรีขอเราตรงที่ไม่มีความหมายของเนื้อเพลงที่ซับซ้อน หน้าที่หลักคือการสื่อสาร ไม่ใช่การเล่าเรื่องหรือการแสดงออกทางอารมณ์
แต่‼️ การพยายามสื่อสารกับวาฬก็เหมือนกับ
การพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาว 🐳👽
การสื่อสารระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นระหว่างอารยธรรมในอวกาศเท่านั้น บนโลกของเรามีสัตว์หลายชนิดที่สื่อสารโดยใช้ภาพ เสียง และกลิ่นที่หลากหลาย เราเพิ่งเริ่มไขความลับในการทำความเข้าใจและตอบสนองต่อภาษาต่างเผ่าพันธุ์ประเภทนี้เท่านั้น นักวิจัยจากสถาบัน SETI คิดว่าการทำเช่นนี้อาจเป็นการทดสอบที่ดีว่าเราจะสามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้หรือไม่หากเรามีโอกาส
🐳🌊〰️โชคดีที่มีโอกาสฝึกฝนมากมาย สิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งที่สุดชนิดหนึ่งซึ่งมีการสื่อสารที่มองเห็นได้ชัดเจนคือวาฬหลังค่อม พวกมันเป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้มองเห็นและนักวิทยาศาสตร์เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ เช่นเดียวกับเพลงของวาฬที่สามารถเดินทางได้ไกลถึง 15,000 กม.ผ่านความลึกของมหาสมุทร
การศึกษาสิ่งเหล่านี้เป็นจุดสนใจของทีม Whale-SETI จากสถาบัน Search for Extraterrestrial Intelligence (SETI), UC Davis และมูลนิธิ Alaska Whale Foundation เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตีพิมพ์บทความที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับวาฬตัวหนึ่งที่เรียกว่า ‼️Twain‼️
ท่ามกลางข้อความที่แลกเปลี่ยนกันอย่างมากมาย นักวิทยาศาสตร์ได้ส่งข้อความ "ติดต่อ" ซึ่งดึงดูดความสนใจของ Twain วนรอบเรือนักวิจัยประมาณ 20 นาที ตอบสนองต่อทุกเสียงที่ดังออกมาจาก
นักวิทยาศาสตร์และจับคู่ช่วงเวลาของความล่าช้าระหว่างเสียงในสิ่งที่นักวิจัย เรียกว่า "รูปแบบการสนทนา"
ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูด "สวัสดี" กับ Twain เมื่อ มาถึง นั้นคือความเข้าใจของ
เราฝ่ายเดียวโชคดีที่มีทฤษฎีอธิบายสำหรับสิ่งนั้น ในกรณีนี้คือทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า "ทฤษฎีสารสนเทศ"
ระเบียบวิธีนี้ได้รับการพัฒนาครั้งแรกในทศวรรษ 1940 โดยวิศวกรไฟฟ้า คล็อด แชนนอน ในทฤษฎีสารสนเทศ สัญญาณจะถูกวิเคราะห์ตามปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ และข้อมูลดังกล่าวสามารถมีความสัมพันธ์กันในสัญญาณต่างๆ ได้ เมื่อรวมกับเหตุการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง นักทฤษฎีภาษาคิดว่าพวกเขาอาจจะสามารถล้อเลียนข้อมูลที่มีอยู่ในสัญญาณและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เหล่านั้นได้ โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาสามารถเข้าใจได้ว่าวาฬกำลังพูดถึงอะไร▪️▪️
🐳🌊 วาฬตัวหนึ่งวนเวียนอยู่รอบเรือเป็นเวลา 20 นาทีและการสนทนาที่ดูเหมือนสนุกสนานเป็นเพียงก้าวสั้นๆ ในเส้นทางนั้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ การสร้างเครื่องมือการแปลจะต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งอาจยังผิดพลาดอยู่ น่าเสียดายที่วาฬไม่สามารถแก้ไขเราได้หากเราแปลคำของพวกมันว่า "ปลา" เป็น "แมวน้ำ"
นั่นอาจไม่ใช่กรณีของความฉลาดทางโลกอื่น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามนุษย์จะพยายามให้ข้อเสนอแนะในการสนทนากับสายพันธุ์ต่างดาวเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกเข้าใจผิด มันเหมือนกับว่าพวกเขาอยากจะแก้ไขเราด้วย แต่จนกว่าเราจะพบคู่สนทนา สิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกอาจต้องการ
คุยกับเรา เรายังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
การทำความเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเพลงวาฬกับดนตรีของมนุษย์ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งมากขึ้น โดยเน้นย้ำถึงความสามารถร่วมกันสำหรับการสื่อสารด้วยเสียงที่ซับซ้อนข้ามสายพันธุ์ และเป็นแรงบันดาลใจให้เราสำรวจความลึกลับของโลกใต้ทะเลและในเอกภพต่อไป 🐳🌊🌊〰️〰️〰️
402/2023
▪️▪️▪️
ตั้งใจจะตรวจจับสัญญาณนิวเคลียร์ ได้ฟังปลาวาฬร้องเพลงเป็นของแถม 🐳🎼🎶🎶🎵🎵
(สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก 🔹)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
