27 มี.ค. เวลา 08:32 • ท่องเที่ยว

รีวิว ศรีลังกา 4วัน 4คืน ฉบับขับรถเอง

อิสระหน้าฝน วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวทริป5วัน4คืนใน ประเทศที่มีคนนับถือ ศาสนาพุธ กว่า 70% ของประเทศ
มีภูเขา ที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1889 เมตร หรือประมาน โตเกียวสกายทรี 3ตึกต่อกันเลยที่เดียว
ผมขอเสนอ ประเทศ ศรีลังกา (SRI LANKA ) ครับ ประเทศ ที่ได้ขึ้นชื่อว่า น่าเที่ยวที่สุด ของปี 2018 เลยทีเดียว
แต่ ปัจจุบันก็ 2024 แล้วแห้ะ
ก่อนอื่น ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผม อิสระ เป็น บล้อกเกอฝึกหัด นี่เป็นโพสเเรกของผม ของให้ ทุกๆท่านที่ ชื่นชอบการท่องเที่ยว ชอบการอ่าน มาผจนภัยไปกับผมนะครับ
เสน่ ของ ศรีลังกา นอกจากเป็น ประเทศ ที่กำลังพัฒนา และ ตั้งอยู่ในเขต ร้อนชื้น ทำให้ เต็มไปด้วย ธรรมชาติที่อุดมสมบูร ทั้งผลไม้ และ ชา ที่มี เยอะม้ากกก ไม่ว่า King coconut(มะพร้าวสีทอง) ที่ได้ลองชิม แล้วจะต้องตกหลุมรัก ใน รสชาติหวานฉ่ำ
หรือว่า จะเป็น ชาซีลอน ที่โด่งดังของศรีลังกา แต่เอทำไมต้องชาซีลอน?
ผมจะบอกแบบรวบรัดแบบนี้นะครับ ในอดีต ศรีลังกา ได้นำ ชาที่มี ต้นกำเนิดมาจาก ประเทศจีน เหมาะเจาะกับ ภูมิประเทศ ไม่ว่า จะ เป็น ที่ราบต่างๆ ยอดเขาที่สู๊งสูง หรือความชื้นในอากาศ และ อุณภูมิที่ไม่สูงมาก ที่ ส่งเสริมต่อการปลูกชา ทำให้ ชาซีลอน เป็น อันดับ1 ในการส่งออกหลักของศรีลังกา เป็นประเทศที่มีกำลังส่งออกชาเป็น 2 ของโลก(2022)
ทริปนี้ เราจะไปกัน 5วัน4คืน ช่วงต้นเดือน 9 เดินทางด้วย สายการบินแห่งชาติของศรีลังกา นั่นคือ Sri lanka airline หรือ UL นั่นเองครับ
วันนี้ เราบิน ไฟล์ UL403 จาก BKK(กรุงเทพ)-CBM(โคลอมโบ) ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3ชม 30นาที โดย เครื่อง A320 full service ที่นั่งค่อนข้างสบายเลยครับ leg room สำหรับคนสูง 178 นี่คือเหลือเฟือเลย ขึ้นเครื่องมา คนศรีลังกาข้างๆก็ชวนคุยไม่หยุดเลยครับ 555
แพลนคร่าวๆ ของเราในรอบนี้ จะเที่ยว ครึ่งล่างของศรีลังกา คือ เราจะ เดินทาง เป็นวงกลม เริม่ต้นที่
Colombo - Kandy -Nuwara Eliya – Ella – Galle – Colombo
การเดินทางหลักในทริปนี้เราเลือกที่จะเช่ารถ ขับ จาก Sr rentcar โดย Trip.com ผมจองล่วงหน้า ประมาน 1เดือนก่อนเดินทาง
ผมเช่ารถ เป็น เวลาทั้งสิ้น 4วัน ค่าใช้จ่าย ประมาณ 7พัน ไม่รวมค่าเติมน้ำมันอีก ประมาณ1500บาท
*ในส่วน การขอใบอนุญาตใบขับขี่ที่ศรีลังกา จะค่อนข้าง จะเรียกว่ายุ่งยาก ก็ไม่ถูก จะแปลก ผมก็ว่าแปลก จะงงๆ ใน งงๆ อีกที
เรื่องคืองี้ครับ ในใบขับขี้สากลเนี่ย ถ้าผมเข้าใจถูก จะแบ่งออกเป็นสอง สัญญา ซึ่งก็คือ เวียนนา 1968 และ เจนีวา 1949 ซึ่งของศรีลังกาเนี่ย จะอยู่ในฉบับของ เจนีวา ซึ่งถ้าคนทั่วไป จะเข้าใจว่า พอเราได้ใบขับขี่สากล จาก ขนส่งทางบก ที่ ไทยแล้ว จะสามารถ ขับได้ทุก ประเทศที่ อยู่ใน สัญญา >........แต่ผิดครับ
ใช่ครับ ศรีลังกาคือข้อยกเว้น การที่จะขับขี่ รถ ใน ศรีลังกา นั้น ผู้มาเยือนนั้นจะต้อง ทำการขอ temporary driving permit ของศรีลังกาอีกที ซึ่ง การขอ สามารถ ขอได้
2 แบบ ด้วยกัน
1.ถือตัวcopy ของpassport + driving lisense+ รูปถ่าย ยื่นที่ department of motor traffic อันนี้จะเสียเวลา นานนิดนึงนะครับแต่ค่าใช้จ่ายจะไม่สูง
1.2 เหมือนข้อ 1 เลยครับ แต่ สถานที่ นั้นคือ Automobile association of ceylon(aa Ceylon) ซึ่งอันนี้จะเร็วกว่า แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างที่จะสูงมากครับ
ส่วนวิธีที่ 2 คือใช้ บริการบริษัทเช่ารถ เนื่องจากไม่อยากเสียเวลาเที่ยว
คือ ให้ทาง บริษัทที่เราจองรถด้วยจัดการให้ครับ ค่าใช้จ่าย ประมาณ 50euro
แต่แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเสร็จง่ายๆ นะครับ การติดต่อทางอีเมล เนี่ยค่อนข้างยาก คือ ทางเค้า ตอบกลับช้ามาก จนเราร้อนใจว่า เอจะได้ใบขับขี่ไหมเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
ถ้าพี่ๆท่านไหนไม่อยากเสียเวลาเที่ยว ผมก็ขอเเนะนำวิธีที่2ได้เลยครับ
และะนี่คือรถ ที่เราจะใช้ตลอดทั้งทริปนี้ครับ
Flight บินวันนี้ ผมเลือกบิน ไฟล์เช้า ถึง โคลอมโบ ประมาน 11โมง ขั้นตอนการเข้าประเทศ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ กรอก arrival card + Passport + Visa(ทำออนไลน์) ตามลิ้งพี่ๆ ในพันทิพ ลิ้งนี้เลยครับ
พอออกมาด้านนอก ก็จะ มี เอเจ้นจาก บริษัทเช่ารถมารอรับเรา ขึ้นรถต่อ ไปอีก ประมาน 10นาทีเพื่อรับรถ
การขับรถที่นี้ พวงมาลัยอยู่ฝั่งขวาเหมือนบ้านเราเลยครับ ไม่ไต้องเป็นห่วง ถ้าถามผมว่า ขับยากไหม ผมว่าไม่ครับ แต่อาจจะต้องระวังในเรื่องของ วัฒนะธรรมการขับรถ ของคนที่นี่ซึ่ง ก็คือ การขับแซง และปาดแทรกทุกนาทีที่อยู่บนถนนเลยครับ
และแตรสัญญาน เป็นเรื่องปกติ มากๆ ครับ แต่ถ้า บัดเจ๊ท เหลือ ก็ เช่ารถพร้อมคนขับโลดดด
ส่วนเรื่องค่าเงินที่ ศรีลังกา นั้น ใช้หน่วยเรียกเหมือนของอินเดียเลยครับ แต่ทางที่นี่จะเรียกว่า Srilanka Rupee ค่าเงินที่นี่ 100 รูปี เท่ากับประมาน 12บาทไทย
จาก colombo ถึง Kandy ใช้เวลา บนถนน ประมาณ 3.30ชม เส้นทางที่ขับ ไม่ซับซ้อนเลยครับเน้นตรง ตามทางหลัก จาก Google Map ไปเรื่อยๆ ก็ถึงครับ kandy เป็น เมืองบนเขา อากาศ เย็นสบาย
เย็นสบายในที่นี้ คือ เสื้อยืด ขาสั้น ก็เพียงพอเลยครับ แต่ถ้ากลัวหนาว ผมก็แนะนำผ้าคลุมใหล่ไปเผื่อครับ
Highlight ของ เมืองนี้ นอกจากอากาศ กับ บรรยากาศ ที่แสนจะสบายแล้ว ก็ยังมี วัดพระเขี้ยวแก้ว ที่เป็น tourist attraction อีกด้วย วัดพระเขี้ยวแก้ว ตั้งอยู่ในตัวเมือง วัดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO
ซึ่งวัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นสถานที่ที่ เก็บ พระเขี้ยวแก้ว*
“พระเขี้ยวแก้ว” คือ พระทันตธาตุส่วนเขี้ยวของพระพุทธเจ้า
เค้าว่ากันว่า ในวันที่ทราบว่า มี พระเขี้ยวแก้ว อยุ่ที่เมือง ทางเมืองเเคนดี้มีการ เดินพาเหรด รอบเมือง ด้วยช้าง กว่า100เชือก นักดนตรีและนักเต้นกว่าอีก 5000คน!!!
วัด อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำในเมือง มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง อากาศถ่ายเทดี
การแต่งกายในการเข้าวัด ขอแนะนำให้แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย นะครับ กางเกง สำหรับ ผญ และ ผช ให้ ใส่ เลยเข่าลงมาครับ ไม่อย่างนั้น เราอาจจะต้องไปเช่า ผ้า คล้ายๆ ผ้าขาวม้าบ้านเรามานุ่ง(ไม่รู้ผมโดนเค้าตุ๋นไหม) ก่อนที่จะเข้าเขตวัดได้ หมวก ใส่ได้แต่ต้องถอดตอนเข้าสู่เขตด้านใน
การเดินเข้าไปในเขตวัด ผมจะแบ่งเป็น 2ส่วน ส่วนแรก จะเป็น ทางเข้าด้านนอกที่เราสามารถ ใส่รองเท้าเดินเข้าไปได้ แต่พอถึงส่อนที่สอง เราจะต้องฝากรองเท้า แล้วเดิน เท้าเปล่ากลางแดดจ้า เพื่อที่จะเข้าไปใน ตัววัด ผมขอแนะนำว่า เน้นเดินเร็ว นะครับ
เพราะ ร้อนเท้า!!!! มากๆๆ
วันที่ผมมา คือ วันเสาร์ ซึ่งคนข้อนข้างหนาแน่น แต่ก็ไม่ใช่ ปห เลย เพราะเมื่อเข้าไปในเขตวิหาร ความสวยงามของงานศิลปะ ภายใน ทำให้ผม อึ้ง ทึ้ง เพราะมันสวยได้ตรึงใจ สุดๆ ในวิหาร จะมี สองชั้น ซึ่งชั้นที่สองที่ ทุกคนไปกราบไหว้คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่ตั้งอยู่ในห้องกระจก ครับ อาจจะไม่มีรูปที่ชัดมาก เพราะว่าด้านในค่อนข้างเบียด
สิ่งที่ควรระวังในเมืองนี้คือ ตุ้กๆ ครับ การฟันราคาที่มหาโหด เช่น จาก โรงแรม ผมกดเรียก รถผ่าน uber ตุ้กๆ ราคาประมาน ห้าสิบบาทไทย แต่ถ้าเรียกแบบกวักมือ หรือ เดินไปที่ตุ้กๆจอดตามถนน เค้าจะคิดเรา ประมาณ 250-400บาท ได้เลยครับ
อีกอย่างที่ผมแนะนำ คือ เวลากดเรียกรถผ่าน อูเบอร์ คนขับจะถามว่าจ่ายแบบไหน ถ้าบอก ตัดผ่านบัตรเครดิต เค้าจะ ขอยกเลิกงาน เพราะผมขอโดนยกเลิก ประมาน 3รอบได้ แต่ถ้าเราบอกเค้าว่า pay by cash เค้าจะรับงานโดยที่ไม่ยกเลิกเลยครับ
เสร็จจากวัดพระเขี้ยวแก้วที่เป็น highlight ของ kandy แล้ว ก็จะมี วัด Sri Maha Bodhi Temple ที่จะเป็นพระพุธรูป สีขาวสง่า ตั่งอยู่กลางแจ้ง สำหรับคนที่นับถือศาสนาพุธ ผมเห็นว่าเป็นเมืองที่ คู่ควรแก่การมาเยือนมากเลย จริงๆครับ อิ่มกาย อิ่มใจ
จากนี้เราจะขับรถต่อ ไปอีก 4ชั่วโมง เพื่อไป ella เมืองบนเขาที่มี ทางรถไฟ Nine arch bridge หรือ ที่เรียกันอีกชื่อคือ Bridge in the Sky. ระหว่างทาง เราจะแวะ เมือง Nuwara-eliya ที่ใครๆต่างก็เรียกว่าเมือง "Little England" แห่ง ศรีลังกา.
ติดตามต่อ ep2 ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ
ยังไงผมขอฝากติดตาม เป็นกำลังให้ นักท่องเที่ยว คนนี้ด้วยนะครับ
ด้วยรัก อิสระหน้าฝน
โฆษณา