22 ธ.ค. 2023 เวลา 02:01

#พระโคแดกชายแท้ เมื่อปี 2566 กลายเป็น “ปีแห่งการล้ม” ของคนดังจากทุกวงการ

เป็นอีกปีที่หนักหน่วงและเต็มไปด้วยเรื่องราวเลวร้ายอย่างคาดไม่ถึง สำหรับปี 2566 ที่กำลังจะโบกมือลาเราทุกคนในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ เรียกได้ว่าปีนี้ถือเป็น “ปีกระต่ายดุ” ได้อย่างแท้จริง นับตั้งแต่การเมืองที่ดุเดือดทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองกับการละครที่ประชาชนถึงกับส่ายหัว ไปจนถึงเหตุการณ์ “กราดยิงพารากอน” ที่กลายเป็นกระแสสังคมและนำไปสู่การถอดบทเรียนของคนทั้งประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น ปีนี้ยังเปรียบเสมือน “ปีแห่งการล้ม” ของคนดังจากหลายวงการ จนชาวเอ็กซ์ถึงกับมีแฮชแท็ก #พระโคแดกชายแท้ มาติดสอยห้อยตามดราม่าใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคนดัง (ชายแทร่) ที่ถูก “แฉ” วีรกรรม “ฉาว” กันถ้วนหน้า จนต้องออกมายกมือไหว้ขอโทษสังคมกันแทบทุกเดือน
ปีกระต่ายดุ 2566 จะมีคนดังคนไหนกลายเป็นดราม่าร้อนจนต้องติด #พระโคแดกชายแท้ กันบ้าง The Modernisnt รวบรวมดราม่าคนดัง “บางส่วน” มาฝาก ถือเป็นของขวัญปีใหม่ (ที่เราหวังว่าปีหน้าจะไม่ต้องมานั่งให้ของขวัญลักษณะนี้กันอีก) ให้กับทุกคน!
“โอม ภวัต” กับดราม่าบูลลี่เพื่อนออทิสติก
เริ่มต้นปีด้วยข่าวร้อนของนักแสดงซีรีส์วาย “โอม – ภวัต จิตต์สว่างดี” หลังชาวเน็ตออกมา “แฉ” พฤติกรรมของนักแสดงคนดัง ทั้งพฤติกรรมบูลลี่เพื่อนที่เป็นออทิสติก รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียที่เข้าข่ายเหยียดเพศ จนเกิดเป็นกระแสเรียกร้องและกดดันให้โอมออกมาพูดด้วยตัวเองว่าเรื่องนี้เป็นความจริงจริงหรือไม่ สุดท้าย โอม ภวัต ก็ได้ออกมาชี้แจงดราม่าร้อนดังกล่าว ระบุเป็นเพราะความคึกคะนองในวัยเด็ก โดยใช้คำว่า “เล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชาย” พร้อมกล่าวขอโทษและสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยได้ทำลงไปแล้ว
ประเด็นหนึ่งที่กลายเป็นข้อถกเถียงของคนในสังคมจากดราม่านี้ คือ “การให้พื้นที่” นักบูลลี่ที่เติบโตขึ้นมาเป็นคนดัง เมื่อแฟนคลับพร้อมให้อภัยและคอยซัพพอร์ตอยู่เสมอ แล้ว “เหยื่อ” จากการกระทำรุนแรงของคนดังเหล่านั้นจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร
ประเด็นนี้ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาพูดคุยและถกเถียงกันอย่างคับคั่ง ในขณะที่บางส่วนหยิบยกตัวอย่างของประเทศเกาหลีใต้ ที่เอาจริงเอาจังกับ “การแบน” คนดังที่เคยมีพฤติกรรมบูลลี่ในวัยเรียน ชาวเน็ตบางส่วนก็พูดถึง “การให้โอกาส” คนที่เคยทำผิดและสำนึกผิด ได้กลับมามีที่ยืนในสังคมอีกครั้ง เรียกว่ากลายเป็นดีเบตใหญ่ที่ชาวเน็ตไทยเข้ามาแลกเปลี่ยนกัน ตกผลึกและเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่มากกว่าเดิม
“บิว จักรพันธ์” ทำร้ายร่างกายแฟนเก่า
ตามมาติดๆ กับดราม่าของนักแสดงซีรีส์วายเรื่องดังอย่าง “บิว จักรพันธ์ พุทธา” ที่อดีตแฟนสาวนักเขียนนิยาย ออกมาโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย คบซ้อน ยืมเงินและขอให้ซื้อของแบรนด์เนมให้ ไปจนถึงประเด็นทิ้งของขวัญจากแฟนคลับ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนในโซเชียล ที่มีแฟนคลับเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย และเลยไปถึงขั้นฟ้องร้องกันระหว่างนักแสดงหนุ่มกับอดีตแฟนสาว ขณะที่บิวก็ออกมารับผิดชอบด้วยการลาออกจากบริษัท และมีการขอโทษซึ่งกันและกันเป็นที่เรียบร้อย
แต่ดูเหมือนเรื่องดราม่าจะไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ชื่อของ “บิว จักรพันธ์” ก็กลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อมีมือดีปล่อยภาพแชตของบิวกับบุคคลหนึ่ง ซึ่งแสดงบทสนทนาในลักษณะ “เหยียด” ศิลปินเกาหลีชื่อดัง และรวมไปถึงนักแสดงซีรีส์วายคนอื่นๆ จนมีแฮชแท็กดราม่าของเจ้าตัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม “มัมหมี” ของบิว หรือแฟนคลับที่เหนียวแน่นของนักแสดงคนดัง ก็ออกโรงปกป้องศิลปินที่ตัวเองรักอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านดราม่าแรงแค่ไหน ก็มีมัมหมีคอยให้กำลังใจและสนับสนุนตลอด
สส.พรรคก้าวไกลและ “การล่วงละเมิดทางเพศ”
พรรคก้าวไกลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลัง 2 สส.ของพรรคถูกร้องเรียนว่า “คุกคามทางเพศ” ทั้งการพูดคุยเชิงลามกอนาจาร เล่นมุกตลกใต้สะดือ ไปจนถึงชวนไปมีเพศสัมพันธ์ ก่อนจะมีประเด็นเรื่องการลงมติขับออกจากพรรค ที่สังคมตั้งคำถามถึงความไม่ยุติธรรมในการลงมติ
ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นดราม่าใหญ่ที่ดูจะเป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคก้าวไกลต้องแก้ไข เมื่อพรรคตั้งใจจะเป็นพรรคการเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เคารพสิทธิความเป็นมนุษย์และสิทธิทางเพศอย่างเท่าเทียมเริ่มต้นดราม่าด้วยกรณีของ “วุฒิพงศ์ ทองเหลา” สส.ปราจีนบุรี ที่ผู้เสียหายนำหลักฐานเป็นข้อความแชตระหว่างตนเองกับวุฒิพงศ์ออกมาแฉ
ซึ่งในข้อความที่คุยกันมีเนื้อหาการพูดคุยในเชิงลามกอนาจาร มีการแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหาย และชวนมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวออกมา วุฒิพงศ์ก็ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นนานแล้ว และเชื่อว่ามีความพยายามขุดเรื่องนี้มาดิสเครดิตตัวเอง
ไม่นานหลังจากนั้น ก็ตามมาด้วยกรณีของ “ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” สส.กรุงเทพฯ เขตจอมทอง – บางขุนเทียน – ท่าข้าม ที่มีผู้เสียหายถึง 3 คน ซึ่งเป็นทีมงานพรรคก้าวไกล เข้าร้องเรียนต่อพรรคว่าถูกไชยามพวานคุกคามทางเพศ โดยการชวนดื่มแอลกอฮอล์ ชวนคุยเรื่องความสัมพันธ์ ชวนไปไหนมาไหนด้วยกัน และสุดท้ายก็ชวนไปมีเพศสัมพันธ์
หลังเกิดเรื่องจนกลายเป็นกระแสร้อนในโซเชียล พรรคก้าวไกลก็ออกมาเทคแอคชั่น โดยพรรคได้จัดประชุมร่วมเพื่อหาทางออกให้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งในที่ประชุมก็มีมติขับวุฒิพงศ์ให้พ้นจากการเป็น สส. แต่ไชยามพวาน ได้คะแนนเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของจำนวนที่ประชุม จึงไม่ถูกขับออกจากพรรค ทำให้กลายเป็นดราม่าต่อเนื่องกัน แต่สุดท้ายไชยามพวานก็ถูกขับออกจากพรรคตามวุฒิพงศ์ไปเช่นกัน หลังจากที่มีพฤติกรรมไม่สำนึกผิด
นักสื่อสารวิทยาศาสตร์กับพฤติกรรม Gaslighting
กลายเป็นประเด็นร้อนติดเทรนด์ฮิตในเอ็กซ์ทันที หลังหญิงสาวรายหนึ่งออกมาเล่าเรื่องราวการกระทำของบุคคลที่เรียกว่า “นักสื่อสารวิทยาศาสตร์” โดยระบุว่าถูกนักสื่อสารฯ คนนี้ทำร้ายจิตใจ ด่าทอและต่อว่า ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเธอเป็นเวลานาน และมีพฤติกรรม Gaslighting จนทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่
ซึ่งเธอไม่ใช่เหยื่อคนเดียวของเขา แต่ยังมีอีกหลายคนที่โดนกระทำในลักษณะเดียวกันหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตก็ทำหน้าที่ของตัวเองและพยายามหาคำตอบว่านักสื่อสารวิทยาศาสตร์คนดังกล่าวคือใคร ทำให้หลายคนต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเอง กระทั่ง THE STANDARD ผู้ผลิตรายการ “ใดๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์” ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยุติรายการดังและยุติการร่วมงานกับ “ป๋องแป๋ง อาจวรงค์ จันทมาศ” นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ในรายการ ขณะที่หนึ่งในพิธีกรรายการก็ประกาศยุติบทบาทในรายการดังกล่าวเช่นกัน
ด้านป๋องแป๋ง อาจวรงค์ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัว อธิบายในมุมของตัวเอง พร้อมขอโทษผู้เสียหายที่เขาเคยพูดจาทำร้ายจิตใจ และขอโทษเพื่อนร่วมงานที่พฤติกรรมของตัวเองทำให้พวกเขาเหล่านั้นเดือดร้อน
“ในวันนี้ผมทราบดีครับว่า แม้ผมจะรับรู้อย่างไรหรือรู้สึกผิดแค่ไหน มันก็อาจไม่ได้ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นมาเลย สิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้อาจไม่ใช่การขอโทษ แต่คือการปรับปรุงคำพูดและแนวความคิดของผมให้ดีขึ้น เพื่อไม่ทำให้ต้องมีใครถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดของผมอีก และสิ่งนี้จะเป็นเป้าหมายในชีวิตผมต่อไป ใดๆ ก็ตามที่ผมผิดไป ผมขอกราบขอโทษจากใจจริงมา ณ ที่นี้ครับ”
แฉนักวาด “น้องมะม่วง” คุกคามทางเพศ
ตามหลังกันมาติดๆ กับดราม่านักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ก็คือกรณีของ “ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร” นักวาดการ์ตูนชื่อดัง เจ้าของผลงาน “น้องมะม่วง” ที่โด่งดังไปทั่วโลก หลังหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก เล่าประสบการณ์ถูกคุกคามทางเพศโดยนักวาดชื่อดังคนหนึ่ง หลังมีโอกาสร่วมงานกับนักวาดคนดังกล่าว แต่เขากลับแสดงพฤติกรรมคุกคามทางเพศด้วยคำพูดและอุ้มเธอจากด้านหลัง เธอเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองเพราะกลัวทัวร์ลง ก่อนที่จะตัดสินใจออกมาเล่าเรื่องนี้ในที่สุด
แน่นอนว่าหลังโพสต์ถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตก็พยายามหาว่านักวาดคนดังกล่าวคือใคร ก่อนที่ตั้ม วิศุทธิ์ จะออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก Wisut Ponnimit ยอมรับผิดและขอโทษผู้เสียหายโดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ
“ข้าพเจ้ากราบขอขมาเรื่องพฤติกรรมล่วงเกิน และละเมิดผู้เสียหาย เสียใจที่ได้กระทำตามใจโดยขาดการยั้งคิดของตนเองและไม่คำนึงถึงความรู้สึกผู้อื่น ข้าพเจ้าได้เรียนรู้บทเรียน และสำนึกผิดถึงที่สุดแล้วแล้ว กราบขอขมาต่อผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ขอขมาทุกท่านที่ผมได้ทำผิดพลาดต่อสังคม และขอยอมรับความผิดมา ณ ที่นี้ โดยไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ครับ”
“กิต Three Man Down” โดนขุดแกล้งเพื่อน
ช่วงเดียวกันนั้น ก็มีดราม่าของนักร้องดังอย่าง “กิต Three Man Down” หรือ กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ เป็นกระแสร้อนที่ชาวเอ็กซ์วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง หลังมีคนขุดคลิปเก่าของเจ้าตัวมาแฉ โดยเป็นคลิปที่กิตไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับเมื่อปี 2021 ซึ่งในระหว่างที่กำลังไลฟ์ ก็มีคอมเมนต์ไม่ค่อยดีปรากฏขึ้น ทำให้กิตตอบกลับไป พร้อมเล่าวีรกรรม “เด็กหลังห้อง” ที่เคยแกล้งเพื่อนมาสารพัด ทั้งปายางลบใส่เพื่อน ขโมยรองเท้า เผาเสื้อเพื่อน ตัดผม เอาแบตตาเลียนโกนผมตอนเพื่อนนอนหลับ ไปจนถึงเอาน้ำยารอนสันราดหลังเพื่อและจุดไฟ
แน่นอนว่าเมื่อคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็กลายเป็นดราม่าร้อนทันที เรียกว่ารถทัวร์มาจอดอย่างเร็ว ขณะที่แฟนคลับก็แสดงความเสียใจกับพฤติกรรมของนักร้องดัง บางส่วนระบุว่าพฤติกรรมแกล้งเพื่อนคือ “การทำร้ายร่างกาย” ที่ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจหรือควรเอามาเล่าในที่สาธารณะ เพราะคนที่โดนกระทำอาจจะยังมีบาดแผลหรือเจ็บปวดกับการกระทำเหล่านั้นของนักร้องดัง
ไม่นานหลังจากนั้น กิตก็ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่เพื่อนที่โดนแกล้ง ก็ออกมาเคลื่อนไหว ระบุว่ากิตได้ทักไปขอโทษและสำนึกผิดกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นทุกคนยังเป็นเด็ก การกระทำจึงไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองก่อน พร้อมขอให้ทุกคนให้โอกาสและติดตามผลงานของกิตและวง Three Man Down ต่อไป
“สมรักษ์ คำสิงห์” พาเด็ก 17 เข้าโรงแรม
ดราม่าส่งท้ายปี (หรือเปล่า?) สำหรับประเด็นข่าวของ “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก หลังถูกเด็กสาววัย 17 ปี กล่าวหาว่าทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ หลังทั้งคู่เจอกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น กระทั่งสถานบันเทิงเลิก สมรักษ์อาสาไปส่งเธอกลับที่พัก แต่กลับพาเธอเข้าโรงแรมและก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ​หลังมีข่าว สมรักษ์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ชี้แจงว่าตนไม่ได้ข่มขืนเด็ก 17 ปี คนดังกล่าว พร้อมตั้งทนายสู้คดี
ขณะที่ชาวเน็ตก็เสียงแตกและพากันวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเมามัน บางส่วนวิพากษ์วิจารณ์สถานบันเทิงว่าอนุญาตให้เด็กวัย 17 เข้าร้านได้อย่างไร และมีประเด็นอื่นๆ อีกมากมายถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่คนในสังคมให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับสมรักษ์ใน 4 ข้อหา พร้อมกับบุคคลที่ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ไปส่งสมรักษ์และเด็กวัย 17 ปี ที่โรงแรม ทั้งนี้ เรื่องนี้ยังมีการถกเถียงของชาวเน็ตอย่างต่อเนื่อง เพราะอดีตนักมวยคนดังก็ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ข่มขืนเด็กสาวคนดังกล่าว ขณะที่หลายคนมองว่านี่อาจเป็นการแบล็กเมล์อดีตฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกก็เป็นได้
นี่เป็นเพียงคนดังบางส่วนที่ “ล้ม” ในปีนี้ และถูกแฉวีรกรรมที่ไม่เหมาะสมให้คนในสังคมได้รับรู้ ซึ่งในแง่หนึ่งก็สะท้อนให้เห็น “การตื่นตัว” ของคนในสังคมในเรื่องสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศ ผู้ถูกกระทำจะได้รับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากคนในสังคมมากขึ้น ขณะที่ผู้กระทำก็จะถูกลงโทษจากพฤติกรรมและการกระทำของตัวเองมากขึ้น
เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนการสร้างสังคมที่น่าอยู่สำหรับทุกคน โดยปราศจากการกลั่นแกล้ง ความรุนแรง และพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก็หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ สังคมไทยจะเต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ มากกว่าเรื่องดราม่าชายแทร่แบบนี้ เพราะยิ่งเห็นข่าวแบบนี้มากเท่าไร มันยิ่งตอกย้ำว่าสังคมไทยไม่เคยเรียนรู้และไม่เคยพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมเลย
โฆษณา