22 ธ.ค. 2023 เวลา 05:07 • ไลฟ์สไตล์

เมื่อมีคนถามว่า...

ศีลข้อใดที่เป็นบ่อเกิดความผิดทั้งปวง
เพราะเมื่อผิดข้อนี้แล้ว จะพาผิดไปทุกข้อได้
ถ้าเป็นคนรักษาศีลอยู่แล้วจะเข้าใจว่าข้อนี้รักษายากที่สุด
และคนทั่วไปให้ความสำคัญน้อยที่สุดเช่นกัน
เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
เลยอันเชิญคำสอนของท่านพุทธทาสตามภาพ
(Cr.อยู่ในภาพแล้ว)
นั่นหมายความว่าก่อนจะเกิดมิจฉาวาจา
ได้เกิดกระบวนทางอารมณ์ อคติ และความคิดก่อนหน้านั้นแล้ว
และศีลข้อนี้จริงๆแล้วละเอียดกว่าที่คิด
เพราะไม่ใช่แค่ "พูดโกหก"
แต่รวมไปถึงการพูดจา "หยาบคาย" "ว่าร้าย" "ส่อเสียด"
หรือใดๆก็แล้วแต่ที่สร้างความเบียดเบียนแกผู้รับฟังให้เจ็บช้ำน้ำใจ
ข้อนี้เลยเป็นข้อที่คนถือศีล 5 ระวังอย่างมาก
เพราะผิดง่ายซะเหลือเกิน
การออกแรงกระทำมิจฉาในทางกายต้องใช้พลังอย่างมาก
อย่างน้อยก็กำลังกายที่ต้องเคลื่อนย้ายเคลื่อนไหว
ก่อกรรมทำผิด
แต่กับ "การพูด" ที่เป็นเพียงลมที่พ่นออกจากปาก
จึงเป็นเรื่องง่ายแสนง่ายที่จะทำผิด
ทั้งที่เผลอใจ คะนองปาก หรือตั้งใจก็ตาม
ซึ่งก็รวมไปถึงข้อความที่พ่นใส่กันในโซเชียลมีเดียเช่นกัน
ส่วนตัวตั้งแต่ตัวเองถือศีล 5 มา
แรกๆ เข้าใจว่าข้อปาณาติบาตรักษายากพอสมควร
ที่จะห้ามมือไม่ให้เผลอตบยุงที่มากัด
โดยเฉพาะคนตัวอุ่น...
อันเป็นที่หมายปองของเหล่าแม่ยุงแบบเรา
แต่เมื่อสังเกตตัวเองไปเรื่อยๆ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ
กลับพบว่า ไม่ว่างานที่ทำ
การดำรงชีวิตด้วยสัมมาอาชีพแบบใด
ศีลข้อ 4 รักษายากที่สุดโดยเฉพาะคนที่ทำการตลาด
การวางใจที่ถูกที่ควรจึงต้องมีสติก่อนสื่อสารอย่างมาก
นี่ยังไม่รวมถึงความคิดความเห็นต่อประเด็นต่างๆในเชิงสังคม
แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน แล้วมีคนทำให้ขัดเคืองใจ
ต้องตั้งสติก่อนให้วาจาเสมอเท่าที่จะทันอารมณ์ในตอนนั้น
ยอมรับว่าตัวเองก็ยังไม่ได้รักษาศีลจนบริสุทธิ์ผุดผ่องขนาดนั้น
เพราะคิดว่าข้อ4 นี่แหละที่ยากที่สุด
แต่ก็จะพยายามต่อไป
เพราะ "ศีล" ดี ส่งเสริม "สัมมาสมาธิ"
"สัมมาสมาธิ" ส่งเสริม "ปัญญา"
ถ้าไม่มีศีลตั้งแต่แรก ไม่ต้องถามเรื่องขั้นต่อไป
เพราะสมาธิที่ได้ คือ "มิจฉาสมาธิ" ล้วนๆ แบบไม่ต้องสงสัย
คน "ปฏิบัติ" เท่านั้นถึงจะรู้ว่าต่างกันยังไง
คนที่ออกแบบการทดลองแบบวิทยาศาสตร์
ด้วยการใช้รูปธรรมนามธรรมของตัวเองทดลองเท่านั้น ถึงจะรู้ได้
ขอให้เจริญในธรรม แด่ทุกท่านที่เริ่มต้นตั้งแต่ "รักษาศีล"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา