Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Talk with P
•
ติดตาม
23 ธ.ค. 2023 เวลา 05:03 • หนังสือ
ถอดบทเรียนจาก “สู้ดิวะ” ตอนที่ 1
สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ข้อคิดต่างๆ ที่ผมได้รับจากหนังสือ ”สู้ดิวะ“ ที่เขียนโดย คุณหมอ กฤตไท ธนสมบัติกุล ซึ่งประสบกับโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ในตอนที่ชีวิต กำลังจะไปได้ดี โดยปัจจุบัน ณ ตอนที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา คุณหมอ ก็ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งทางผมก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณหมอ กฤตไท เป็นอย่างยิ่งครับ
ถึงคุณหมอ กฤตไท จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่คุณหมอ ก็ได้ทิ้งบทเรียนอันล้ำค่าบางอย่าง ให้กับพวกเราที่ดำรงชีวิตอยู่ เชื่อว่า บทเรียนเหล่านี้ ทุกคนน่าจะรู้จักมันเป็นอย่างดีครับ แต่ทุกคนก็อาจจะใช้ชีวิต ไปกับการเรียน การทำงาน หรือจะอะไรก็ตาม จนลืมความจริงบางอย่างของโลกนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง
ซึ่งใน Ep.แรกนี้ ผมจะมาพูดถึงบทเรียน 3 หัวข้อ ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้กันครับ
1.) ชีวิตไม่ใช่ของเรา
ตัวผมเอง ก็ต้องบอกว่า เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ผมพูดได้เลยว่า เรื่องความตายนี่แทบไม่อยู่ในหัวผมเลย แม้แต่น้อย โดยผมก็ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก ได้เรียนสิ่งที่ชอบ ได้อยู่ในสังคมที่ใช่ ได้แลกเปลี่ยนความรู้ทัศนคติต่างๆนานา กับเพื่อน ได้วางแผนการลงทุน ได้วางแผนอนาคต โดยในใจนี่ ยึดมั่นเลยนะครับว่า มันก็ต้องเป็นไปตามนี้แน่นอน
จนวันหนึ่ง ผมก็ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งมันทำให้ผมได้ตระหนักว่า ชีวิตเรามันไม่ได้เป็นของเรา เราไม่ได้มีสิทธิ์กับมันขนาดนั้น ถ้าวันหนึ่งเราป่วย หรือเป็นอะไรขึ้นมา แล้วแผนทุกอย่างที่วางไว้ พังพินาศจนหมด นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะนี่คือชีวิตไงครับ
ชีวิตที่แสนเปราะบาง ชีวิตที่ชอบเล่นตลกกับเราเสมอ มันคือเรื่องที่ธรรมดามากๆเรื่องหนึ่งของโลกใบนี้เลยครับ
2.) พยายามมีความสุขกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต
ชีวิตเรามีทั้งเรื่องดี และเรื่องร้ายครับ แต่ถ้าหากเราเป็นคุณหมอกฤตไท ซึ่งแทบจะคาดการณ์วันตายของตนเองได้ เราจะเลือกที่จะมีความสุขกับอะไรก็ตามที่เจอ ไม่ว่าจะดี ไม่ว่าจะร้าย หรือเลือกจะอมทุกข์ กับเรื่องร้าย กันดีล่ะ? แต่เราไม่ได้จะมีชีวิตอยู่ไปตลอดกาล ตอนที่โลกนี้ เปิดโอกาสให้เราได้มีความสุข เราควรจะหาทางที่จะมาเจอกับความสุขให้ได้ ในวันที่เจอเรื่องร้าย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้มีความสุข แบบนี้ เป็นความคิดที่ดีไหมครับ?
การที่คุณจะจิตตกกับเรื่องร้ายที่เข้ามา มันเป็นเรื่องปกติครับ แต่หลังจากนั้น คุณต้องลุกขึ้นมาตั้งตัว มองหา solution ในการที่จะแก้ปัญหาที่คุณเจอครับ ว่าจะไปยังไงต่อดี? ทางออกของปัญหานี้มีกี่ทาง? พยายามอย่าจิตตก อมทุกข์นานครับ เพราะนั่น ไม่ช่วยให้ปัญหาที่คุณเจอหายไป และสภาพจิตใจก็ยังจะย่ำแย่อีกด้วย ซึ่งจะพาสุขภาพกาย แย่ไปด้วย
ถึงผมจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยอมรับนะครับ ว่าเรื่องที่ผมพูดไป มันก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับผมเช่นกันครับ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะมีความสุข ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่ผมจะพยายามเสมอ ถึงจะไม่ได้มีความสุขอะไรขนาดนั้น แต่ก็แค่คงสภาพจิตใจ ไม่ให้ดำดิ่งลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยการคิดว่า ถึงผมจะจิตตกต่อไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น และเราก็ไม่ได้จะมีชีวิตยืนยาวขนาดให้มีเวลามานั่งจิตตกอยู่ทั้งวัน รีบ move on ไปหาความสุขดีกว่า ตั้งสติ และพยายามแก้ปัญหาที่มันเกิดขึ้นดีกว่า ถึงแม้มันจะโคตรยากก็ตาม
3.) เกมที่มีเวลาเล่นจำกัด
เรื่องตลกอีกอย่างหนึ่งของชีวิตก็คือ มันเหมือนกับเกมครับ และก็เป็นเกมที่มีเวลาจำกัด แต่เราไม่มีทางรู้เลย ว่าเราจะถูกเตะออกจากเกมนี้เมื่อไหร่ เกมนี้เราจะเรียนรู้วิชาในแขนงต่างๆ เพื่อเป้าหมายในการดำรงชีวิตในเกม โดยการประกอบอาชีพ เพื่อหาเงิน มาเลี้ยงตัวเอง ครอบครัว ไปเที่ยว ไปกินของที่ตัวเองชอบ คุณจะไขว่คว้าอะไรมามากเท่าไหร่ก็ย่อมได้ คุณจะรวย คุณจะจน คุณจะเป็นใคร มีอิทธิพลในเกมนี้มากขนาดไหน
แต่สักวันหนึ่ง วันที่คุณไม่รู้ว่าวันไหน คุณอาจจะต้องออกจากเกม อย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อให้จะรวยล้นฟ้าขนาดไหน เงินที่คุณมี ก็เอามาต่อรองกับการถูกเตะออกจากเกมนี้ไม่ได้ครับ…
สุดท้ายผมก็ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ ก็หวังว่า จะได้อะไรดีๆจากข้อคิดของหนังสือ “สู้ดิวะ” ในบางส่วน กลับไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันนะครับ ไม่มากก็น้อยครับ แล้วเราจะเจอกัน ใน Ep.ต่อๆไปครับ ขอบคุณที่รับชม และติดตามครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ
พัฒนาตัวเอง
หนังสือ
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย