23 ธ.ค. 2023 เวลา 06:19 • หนังสือ

ถอดบทเรียนจาก ”สู้ดิวะ“ ตอนที่ 2

สวัสดีครับทุกท่าน จาก Ep.แรก ผมได้พูดไปถึง 3 หัวข้อใหญ่ๆ ที่ผมถอดบทเรียนได้จากหนังสือ “สู้ดิวะ” เขียนโดยคุณหมอ กฤตไท ธนสมบัติกุล ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ณ ปัจจุบัน ขณะที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา คุณหมอ ก็ได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งทางผม ก็ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวของคุณหมอ กฤตไท
และขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณหมอ ได้ทิ้งบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่คนที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งนี้ โลกแห่งความไม่แน่นอน
โดยหัวข้อ 3 หัวข้อที่ผมได้พูดถึงไปแล้ว ก็คือ 1.) ชีวิตไม่ใช่ของเรา 2.) พยายามมีความสุขกับสิ่งที่เข้ามาในชีวิต และ 3.) เกมที่มีเวลาเล่นจำกัด
ต่อไป ผมจะมาพูดต่ออีก 2 หัวข้อครับ ซึ่งก็คือ หัวข้อที่ 4 และ 5
4.) หนังสือหลายเล่มที่วางในร้านหนังสือ ไม่ได้เตือนเรื่องความไม่แน่นอนในชีวิต
แน่นอนว่า หากคุณเดินเข้าไปในร้านหนังสือ คุณจะเจอหนังสือ How to เต็มไปหมด ว่าถ้าหากทำอย่างงี้จะได้อย่างงั้น ถ้าลงทุนอย่างนี้ อีก 10 หรือ 20 ปี ผลตอบแทนจะเป็นอย่างงั้น เนื้อหาเหล่านั้น มันจะเลือนลางหลักความจริงที่ว่า เราต้องตายนะ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เนื้อหาในหนังสือเหล่านั้น ทำให้เรารู้สึกว่า อีก 20 ปี 30 ปี ให้หลัง เราจะยังอยู่แน่นอน อยู่เพื่อรับการออกดอกออกผลของสิ่งที่เราทำ อยู่เพื่อรับเงินปันผล ของหุ้นที่เราลงทุนไว้ มันทำให้เราคิดอย่างงี้จริงๆ การวางแผนอนาคต การวางแผนการเงิน เป็นเรื่องที่ดีมาก
เพราะในกรณีที่คุณ ดันมีชีวิตอยู่อย่างยืนยาว โดยไม่ได้มีแผนอะไรเลยสักอย่างเลย อันนี้เรียกตายทั้งเป็นครับ เราควรเตรียมตัวให้พร้อมต่อการรับมือ สถานการณ์ทุกอย่างในชีวิต เมื่อวางแผนชีวิตไว้อย่างดี ก็อยากให้ได้รู้สึกตัวว่า ไม่มีอะไรแน่นอน แค่อยากให้ตระหนักถึงความจริงตรงนี้ บางครั้ง การหาหนังสือที่พัฒนาจิตใจ ให้สบตากับความตายได้ดีขึ้น และยอมรับว่ามันจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน
5.) ไม่ต้องนำความสำเร็จกลับไปฝากคนที่คุณรักหรอกครับ ถ้าจะไป ก็ไปตั้งแต่ตอนนี้เลย
หลายๆคน อาจกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ไม่ว่าจะยุ่งกับการเรียน การลงทุน หรือตั้งตัวในเรื่องการงานอยู่ อาจจะไม่มีเวลาให้ครอบครัว ให้คนที่คุณรักสักเท่าไหร่ แต่ในใจก็คงคิดว่า เจอกันอีกที ตอนที่ทำสิ่งที่หวังสำเร็จแล้ว ก็ดีเหมือนกัน อยากจะเอาความสำเร็จไปฝากพวกเขาเหล่านั้นจริงๆ
แต่ว่า ถ้าหากคุณคิดอย่างนั้น มันก็คงหมายความได้ว่า คุณลืมกฎอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ไปเสียแล้ว
ผมอาจจะพูดในเรื่องนี้บ่อยไปสักหน่อย แต่ไม่ได้อยากให้คุณหมกมุ่น และตระหนกกับความตายเลยครับ แค่อยากจะย้ำเตือนความจริงของโลกใบนี้เท่านั้นเองครับ ผมว่ามันจะช่วยให้เรา จำกัดความสำคัญในชีวิต ได้ดีมากขึ้น ว่าอะไร ที่ชีวิตสั้นๆ ที่มีอยู่นี้ อยากจะใช้เวลาไปกับมันจริงๆ คนที่คุณรัก? งานที่คุณรัก? กิจกรรมที่คุณชอบ? อะไรกันนะ?
เรื่องที่ผมพูดมาข้างต้น ถ้าหากคุณมีเวลา อยากให้กลับไปหาครอบครัว หาคนที่คุณรักเลยครับ ไม่ต้องรอนำความสำเร็จไปฝากหรอกครับ อย่าเสียเวลาที่จะได้สร้างเวลาที่ดีร่วมกันกับคนที่คุณรักเลยนะครับ เพราะชีวิตเรา มันไม่ได้ยืนยาวขนาดนั้นครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณทุกๆท่านนะครับ ที่ได้แวะเวียนกันเข้ามาอ่าน ผมหวังว่า คงจะได้ข้อดีๆ กันไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับข้อคิดที่ผมชอบมากๆ และถอดออกมาจากหนังสือ “สู้ดิวะ” ก็คงจะเป็นอันจบแต่เพียง Ep.นี้ ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ แล้วเจอกันในบทความครั้งต่อๆไปครับ
โฆษณา