การเล่นหุ้นตามวงจรเศรษฐกิจ
วงจรเศรษฐกิจเป็นแนวคิดที่อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่
ระยะถดถอย (Recession) เป็นระยะที่เศรษฐกิจกำลังหดตัวลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ลดลง ส่งผลให้รายได้ของครัวเรือนและธุรกิจลดลงตามไปด้วย
ระยะฟื้นตัว (Recovery) เป็นระยะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ระยะขยายตัว เฟื่องฟู (Expansion) เป็นระยะที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ขยายตัวสูงสุด
ระยะถดถอย (Peak) เป็นระยะที่เศรษฐกิจกำลังถึงจุดสูงสุด กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ขยายตัวเต็มที่และเริ่มชะลอตัวลง
นักลงทุนสามารถประยุกต์ใช้แนวคิดวงจรเศรษฐกิจเพื่อการลงทุนได้ โดยพิจารณาเลือกหุ้นที่เหมาะกับแต่ละระยะของวงจรเศรษฐกิจ
ตัวอย่างการเล่นหุ้นตามวงจรเศรษฐกิจ
ระยะถดถอย เป็นระยะที่ตลาดหุ้นมักจะมีการปรับฐานลง นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในช่วงนี้ โดยอาจพิจารณาลงทุนในหุ้น Defensive Stocks ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อย เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค หุ้นกลุ่มสาธารณสุข เป็นต้น
ระยะฟื้นตัว เป็นระยะที่ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้น นักลงทุนควรพิจารณาลงทุนในหุ้น Cyclical Stocks ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัว เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นกลุ่มการเงิน หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
ระยะขยายตัว เป็นระยะที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นสูง นักลงทุนควรพิจารณาลงทุนในหุ้น Growth Stocks ซึ่งเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มสุขภาพ เป็นต้น
ระยะถดถอย เป็นระยะที่ตลาดหุ้นมักจะมีการปรับฐานลงอีกครั้ง นักลงทุนควรพิจารณาถือครองหุ้น Defensive Stocks และพิจารณาขายหุ้น Cyclical Stocks และ Growth Stocks บางส่วน
ตัวแปรสำคัญ 2 ตัวคือ GDP(บอก Productivity)และ Inflation (บอกผลของ GDP)
ตลาดหุ้นเป็น Leading Indicator ของวงจรเศรษฐกิจ
ดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือสู้กับเงินเฟ้อ(ที่ทำให้เศรษฐกิจมีวงจร)
อย่างไรก็ตาม การเล่นหุ้นตามวงจรเศรษฐกิจก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม
เครดิตภาพ : กวี ชูกิจเกษม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
