25 ธ.ค. 2023 เวลา 09:08 • กีฬา

ความท้าทายของเซอร์จิมในการพาผีฟื้นคืนชีพ!!

ก็เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วนะสำหรับมหากาพย์การซื้อขายสโมสรฟุตบอลที่ยาวนานถึง 1 ปี 1 เดือน เมื่อวานช่วงดึกๆก็มีประกาศอย่างเป็นทางการจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ว่ากลุ่ม "อีนิออส" ของ 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 25% บวกเป็นหุ้นคลาส เอ และคลาส บี รวมกัน ถึงนั่นจะทำให้ 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' จะสามารถมีเสียงในบอร์ดบริหารผู้ถือหุ้นได้
และการซื้อ 25% ของหุ้นผีแดงในครั้งนี้ กลุ่ม "อีนิออส" จ่ายเงินในการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,250 ล้านปอนด์ แล้วพวกเขาพร้อมให้เงินก้อนแรกในการไปใช้เร่งด่วนกับสโมสรในทุกด้านที่ 230 กว่าล้านปอนด์
และสิ่งที่พวกเขาได้มาคือการดูแลด้านบริหารงานกีฬาทั้งหมด ทั้งทีมชุดใหญ่ชุดเล็กและทีมหญิง แต่ทั้งหมดนี้ต้องรอการพิจารณาด้านเอกสารจากทางพรีเมียร์ลีกที่จะแล้วเสร็จไม่เกิน 4-8 สัปดาห์
แต่ถึงตรงนี้ก็คงไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วแหละว่า 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' คือผู้ที่จะก้าวเข้ามามีอำนาจเต็มในด้านงานบริหารด้านฟุตบอล
ซึ่งเขาได้วางโครงสร้างเอาไว้ตอนนี้คือจะดึงคนของตัวเองมาบริหารงานด้านฟุตบอลเต็มที่ ด้วยจะให้ 'เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด' ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานสโมสรนีซในฝรั่งเศสและเป็นมือขวาของกลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต"
มารับหน้าที่เป็นผู้วางโครงสร้างให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตำแหน่ง ซีอีโอคนใหม่ก็จะเป็น 'ฌอง โคล้ด บล็องก์' อดีตประธานยูเวนตุสและปารีสฯ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผอกีฬาของกลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต"
จะเข้ามาบริหารสโมสรยูไนเต็ดคนใหม่ด้านฟุตบอล ซึ่ง 'ฌอง โคล้ด บล็องก์' ประวัติและผลงานพี่แกก็ไม่ธรรมดานะถือว่าโอเคไม่เบาผ่านงานด้านกีฬามาหลายรูปแบบก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร
อีก 1 ตำแหน่งที่ดูเหมือนว่า 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' จะไม่ค่อยถูกใจคนปัจจุบันอย่างตำแหน่งผอ.กีฬาของสโมสรที่ตอนนี้คือ 'จอห์น เมอร์เท่อห์' ที่ดูจากไม่ค่อยดูรู้เรื่องด้านฟุตบอลสักเท่าไหร่
จึงเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ถูกคาดหมายว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีชื่อแคนดิเดตหลายคน ตอนนี้ยังไม่สรุปว่าจะเป็นใครแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
เอาล่ะเรามาพูดถึงการที่ 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' ซื้อหุ้นในอัตรา 25% แล้วจะมีอำนาจเต็มและมีอำนาจมากพอที่จะนำพาสโมสรแห่งนี้ไปอยู่ในทิศทางที่ดีได้หรือไม่
มันก็ตอบยากนะ ถึงแม้พวกเขาจะได้สิทธิ์ขาดในการบริหารด้านงานฟุตบอล แต่ก็อย่าลืมว่าพวกตระกูลเกลเซอร์มันยังมีสิทธิ์ขาดในด้านบริหารการเงินและอนุมัติเงินเหมือนเดิมหรือคุมเงินนั่นแหละ
จุดนี้แหละมันดูจะเป็นเรื่องที่น่าห่วง โอเคแหละ กลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต" ชัดเจนจัดและมีฝีมือในงานบริหารด้านกีฬาที่ชัดเจน แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าทิศทางที่เขาจะจัดตั้งและแผนงานระยะยาวที่พูดเอาไว้นั้นจะเป็นยังไง
มันไม่รู้นะนี่ในฐานะความคิดเห็นส่วนตัว ยังคงตั้งคำถามกับ กลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต" ว่าเขาจะเข้ามาแล้วยกระดับให้ทีมเราไปอยู่ในจุดที่ดีได้ยังไง
ด้วยความที่ซื้อหุ้นแก่แค่ 25% มันไม่ได้มากนะถึงแม้จะมีปากมีเสียงในบอร์ดบริหารผู้ถือหุ้น แต่ทั้งหมดมันก็ต้องการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจากตระกูลเกลเซอร์อยู่ดี
นี่แหละมันจะเป็นความท้าทายที่ว่า 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' มหาเศรษฐีอันดับต้นๆแห่งราชอาณาจักรผู้ที่เป็นคนท้องถิ่นในเมืองแมนเชสเตอร์ และเป็นแฟนผีตัวยงอีก 1 คน
จะนำพาและแปรเปลี่ยนปัญหาทุกรูปแบบที่เจอตอนนี้ให้กลับไปอยู่ในจุดที่ดีได้รูปแบบใด มันจะเป็นความท้าทายไม่น้อยเลยนะถึงแม้เข้าใจล่ะในส่วนตัวเราอยากได้กลุ่มทุนกาตาร์ที่สุด
แต่เมื่อมันออกมาเป็นลักษณะนี้ก็คงจะทำได้เพียงแค่รอดูและให้โอกาส 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' ในการบริหารด้านงานฟุตบอลกับทีมดูจะแย่หรือจะดีเราก็ยังไม่รู้ก็ต้องรอดูต่อไป
ก็ได้แต่หวังว่าในฐานะที่เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแฟนบอลผีแดงเหมือนกับเราๆท่านๆเขาคงไม่ทำให้ทีมเราแย่ไปกว่านี้ไหมถึงแม้ อาจจะดูเหมือนคนที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์อีกคนหนึ่งก็ตาม
แต่ก็นั่นแหละเรายังไม่รู้ว่าแผนงานระยะยาวที่เขาว่ามานั้นมันจะเป็นยังไงเพราะเราต้องรอทางพรีเมียร์ลีกตรวจสอบเอกสารให้แล้วเสร็จแล้วถึงจะรู้ว่าหลังจากนี้รูปแบบงานที่เขาว่ามานั้นจะเป็นแบบใด ก็ตอนนั้นเราถึงจะรู้ว่ามันจะดีหรือแย่
อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนบอลต่างตั้งคำถามนั่นก็คืออนาคตของน้าเทน กับกลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต" มันจะเป็นยังไง ตอนนี้ถ้าตามวิเคราะห์มันจะอยู่ในช่วงสุญญากาศมันก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพราะการเข้ามาของ "อีนิออส สปอร์ต" มันก็ต้องรอการตรวจสอบเอกสารให้แล้วเสร็จซึ่งอาจจะเร็วสุดก็ไม่เกินสิ้นเดือนมกราคมหรือช้าสุดก็กลางเดือนกุมภาพันธ์
แต่ ณ เวลานี้คนที่มีอำนาจเต็มก็ยังเป็นของตระกูลเกลเซอร์เหมือนเดิม ถึงแม้เวลานี้ผลงานอะไรต่างๆนานามันจะถึงขั้นสามารถปลดได้แล้วก็ตาม
แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่มันยังคงไม่ชัดเจนมันคงอาจจะยังไม่เกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ แต่ถ้าแพ้ติดๆกันอีกสัก 2-3 เกมมันก็ไม่แน่นะ
แต่ทุกอย่างมันก็อยู่ที่ตัวของน้าเทนเองนั่นแหละว่าจะพลิกสถานการณ์ให้กลับมาอยู่ในจุดที่ดีได้หรือเปล่า เพราะอย่าลืมว่ากลุ่ม "อีนิออส สปอร์ต" ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ
พวกเขาจะขอพิจารณาองค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างอีกครั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า 1 ในจุดสำคัญที่พวกเขาตั้งคืออย่างดูทัศนคติของผู้จัดการทีมและผู้เล่นและแผนงานก่อนจะตัดสินใจอะไรหลายๆอย่าง
เพราะเอาเข้าจริงๆตอนนี้ "อีนิออส สปอร์ต" ก็ยังไม่ได้เข้าไปชมในสนามฝึกซ้อมและไม่ได้ไปพูดคุยตัวต่อตัวกับผู้จัดการทีมเลย พวกเขาก็ยังไม่สามารถที่จะไปตัดสินอะไรได้
แต่หนึ่งสิ่งที่พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมก็คือ "อีนิออส สปอร์ต" จะเป็นคนดูแลด้านการซื้อขายนักเตะเข้ามาสู่ทีมเท่านั้นผู้จัดการทีมก็จะไม่มีอำนาจในจุดนี้แล้ว
และผู้จัดการทีมในอุดมคติของพวกเขาคือต้องทำงานภายใต้แผนงานของพวกเขา นั่นแหละสิ่งที่มันจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อความชัดเจนเราต้องรอให้เอกสารแล้วเสร็จ
นี่มันจึงเป็นการท้าทายครั้งยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้นะสำหรับ 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' เพราะนี่มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆเพราะการที่จะเอาทีมทีมนี้กลับมาให้อยู่ในจุดที่ควรจะเป็นได้มันถือว่าเป็นความท้าทายระดับโคตรท้าทาย
มันไม่ได้ท้าทายเพียงแค่ยุคสมัยเท่านั้น ยังท้าทายองค์ประกอบอะไรมากมาย การต่อสู้ภายในกับกลุ่มเกลเซอร์ที่ถึงแม้จะยกอำนาจการบริหารด้านกีฬาให้แต่การบริหารด้านการเงินพวกเขายังคงดูแลเบ็ดเสร็จเหมือนเดิม
แค่ไหนจะด้านการกีฬาที่ตอนนี้เต็มไปด้วยขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมที่รอวันชะล้างอยู่มากมาย มันเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้นะ ข้างในและนอกสนามที่มีปัญหาเต็มไปหมด
เราต้องมารอดูว่า 'เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์' มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของเกาะอังกฤษผู้ที่ขนานนามตัวเองว่าเป็นแฟนบอลเข้าขั้นของปีศาจแดง จะสามารถยกระดับทำให้ผีที่หลับไหลตัวนี้ตื่นขึ้นมาอาละวาดอีกครั้งได้หรือเปล่า
นั่นแหละคือความท้าทายที่ไม่ว่าแฟนบอลทั่วทุกหัวระแหงต่างเฝ้ามองดูว่าเขาจะเป็นคนพลิกชะตาปีศาจแดงตัวนี้ให้กลับมาโลดแล่นและเกรียงไกรได้อีกครั้งหรือเปล่าหรือว่ามันจะแย่กว่าเดิมก็ต้องติดตามชมต่อไป...
โฆษณา