27 ธ.ค. 2023 เวลา 03:05 • ประวัติศาสตร์

“ชนเผ่าเซนทิเนล (Sentinelese)” ชนเผ่าที่ดุร้ายและตัดขาดจากโลกภายนอก

ในบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย มีกลุ่มหมู่เกาะเล็กๆ ภายในบริเวณอ่าวเบงกอล ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอินเดีย เกาะจำนวนกว่า 572 เกาะที่สวยงามนั้น ส่วนใหญ่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม และมนุษย์ก็ได้เข้ามาสำรวจเป็นเวลานานนับร้อยปีแล้ว
1
แต่มีอยู่เกาะหนึ่ง นั่นคือ “เกาะเซนทิเนลเหนือ (North Sentinel Island)” เป็นเกาะที่เรียกได้ว่าถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
และมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ นั่นคือ “ชนเผ่าเซนทิเนล (Sentinelese)” ก็ดุร้ายและไม่สนโลกภายนอก
เกาะเซนทิเนลเหนือ (North Sentinel Island)
เราลองมาดูเรื่องราวของชนเผ่าและเกาะนี้กันครับ
เป็นที่รู้กันในหมู่ชาวเกาะแถบอันดามันว่าน่านน้ำบริเวณเกาะเซนทิเนลเหนือนั้นเป็นบริเวณที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากความดุร้ายของชนเผ่าเซนทิเนลซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะ
1
การรุกล้ำเข้ามาในบริเวณนี้เป็นเหมือนการท้าทายและลองดี ซึ่งแน่นอนว่าชนเผ่าเซนทิเนลนั้นไม่สามารถเจรจาด้วยคำพูดดีๆ ได้ และการสื่อสารก็ไม่สามารถจะเข้าใจได้
3
ได้เคยมีชาวประมงอินเดียสองคนได้ยินเรื่องราวของชนเผ่าเซนทิเนล แต่ก็ได้ยินมาอีกว่าน่านน้ำในบริเวณเกาะเซนทิเนลเหนือนั้นชุกชุมด้วยปูเขียว หากจับปูเขียวกลับมาน่าจะทำเงินได้เยอะ
1
ถึงแม้ว่ากฎหมายอินเดียจะห้ามไม่ให้ขึ้นเกาะเซนทิเนลเหนือ แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจจะฝ่าฝืน ได้แอบลักลอบเข้าไปในบริเวณน่านน้ำใกล้ๆ เกาะเซนทิเนลเหนือ
1
เรือประมงของทั้งคู่นั้นอยู่ห่างจากเกาะในระยะปลอดภัย หากแต่ในยามค่ำคืน ขณะที่ทั้งคู่กำลังหลับ ปรากฎว่ากระแสน้ำก็ได้พัดทั้งคู่เข้ามายังชายฝั่ง
และโดยไม่ต้องรอ ชนเผ่าเซนทิเนลจู่โจมชาวประมงทั้งคู่ทันที สังหารคนทั้งคู่ และถึงแม้ยามชายฝั่งพยายามจะเข้าไปเก็บศพชาวประมงทั้งคู่ออกมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากชนเผ่าเซนทิเนลระดมยิงธนูใส่เฮลิคอปเตอร์
สุดท้ายแล้ว การจะกู้ศพชาวประมงทั้งสองก็ถูกยกเลิกไป และก็เป็นเวลานานนับสิบปีที่ไม่มีการรบกวนจากโลกภายนอกเลย
สำหรับชนเผ่าเซนทิเนลนั้น เป็นชนเผ่าที่ตัดขาดจากโลกภายนอกมากว่า 60,000 ปี ข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่านี้ก็มีไม่มาก แม้แต่จำนวนประชากรของชนเผ่าก็ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ผู้เชี่ยวชาญเพียงคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 50-500 คน
3
เกาะเซนทิเนลนั้นก็ถูกล้อมรอบด้วยแนวปะการัง ภูมิประเทศบนเกาะก็เป็นป่าหนาทึบ ทำให้การเดินทางขึ้นบนเกาะนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังตอบไม่ได้แน่ชัดว่าชนเผ่าเซนทิเนลเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) ได้อย่างไร
1
ที่อยู่อาศัยของชนเผ่าก็คือกระท่อมที่ทำจากใบไม้แบบง่ายๆ อยู่กันเป็นครอบครัว และถึงแม้ชนเผ่าเซนทิเนลจะไม่มีทรัพย์สินเป็นของตนเอง แต่นักวิจัยก็ได้ศึกษาและพบว่าชนเผ่ามักจะเก็บของต่างๆ ที่เกยตื้นขึ้นมาบนหาด เอาไปทำเป็นเครื่องใช้
2
เรียกได้ว่าปริศนาและการตัดขาดจากโลกภายนอกของชนเผ่าเซนทิเนลนั้นสร้างความสนใจให้ผู้คนมาเป็นเวลานาน
1
หนึ่งในบันทึกเกี่ยวกับความพยายามติดต่อกับชนเผ่าบนเกาะเซนทิเนลเหนือครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นในปีค.ศ.1880 (พ.ศ.2423) โดยนายทหารชาวอังกฤษวัย 20 ปีที่ชื่อ “มัวริซ พอร์ตแมน (Maurice Portman)” ได้ทำการลักพาตัวสามีภรรยาสูงวัยและเด็กอีกสี่คนซึ่งเป็นชาวเกาะเซนทิเนลเหนือ ออกมาจากเกาะ
2
พอร์ตแมนตั้งใจจะนำชาวเกาะเหล่านี้กลับมาอังกฤษ และจะดูแลให้ดี ศึกษาถึงธรรมเนียมและพฤติกรรมของพวกเขา ก่อนจะมอบของตอบแทนให้และนำกลับไปส่งยังเกาะตามเดิม
มัวริซ พอร์ตแมน (Maurice Portman)
แต่เมื่อมาถึงเมืองพอร์ตแบลร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเกาะอันดามัน คู่สามีภรรยาชาวเกาะก็ล้มป่วย เหตุผลก็เพราะระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขานั้นอ่อนแอ ไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคจากแผ่นดินใหญ่ได้
1
เมื่อเห็นอย่างนี้ พอร์ตแมนก็เกรงว่าเด็กๆ จะตายไปด้วย พอร์ตแมนและทหารคนอื่นๆ จึงนำชาวเกาะทั้งหมดกลับไปส่งที่เดิม
1
จากนั้นมาก็เป็นเวลาอีกเกือบ 100 ปีที่ไม่มีการสำรวจหรือยุ่งเกี่ยวกับเกาะเซนทิเนล จนกระทั่งในปีค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) รัฐบาลอินเดียก็ได้พยายามที่จะติดต่อกับชาวเกาะเซนทิเนลอีกครั้ง
1
หากแต่ความพยายามก็ล้มเหลว ทุกๆ ครั้งที่นักสำรวจอินเดียได้พยายามจะเข้าไปพูดคุย ชาวเกาะก็จะหนีเข้าไปในป่า ทำให้สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่ทิ้งสิ่งของ ข้าวของเครื่องใช้ไว้ให้ที่ชายฝั่ง ก่อนที่นักสำรวจจะยอมกลับออกไป
จากนั้นก็มีความพยายามอีกหลายครั้งตลอดยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) จนถึงยุค 2000 (พ.ศ.2543-2552) หากแต่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด สิ่งที่นักสำรวจได้รับคือห่าธนูที่ระดมยิงใส่หากว่าพยายามจะเข้ามายังเกาะเซนทิเนลเหนือ
9
และหลังจากปีค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) ก็มีความพยายามที่จะติดต่อกับคนบนเกาะอีกหนึ่งครั้ง
1
“จอห์น แอนเลน เชา (John Allen Chau)” ชาวอเมริกันวัย 26 ปี เป็นผู้ที่รักการผจญภัย เคยไปตะลุยมายังหลายที่ แต่เขายังไม่เคยไปยังที่ที่อันตรายเท่ากับเกาะเซนทิเนลเหนือมาก่อน
เชารู้ดีว่าชนเผ่าเซนทิเนลนั้นเป็นชนเผ่าที่อันตราย ไม่เปิดรับโลกภายนอก แต่เชาก็รู้สึกอยากจะติดต่อกับชนเผ่านี้ และนำศาสนาคริสต์เข้าไปเผยแพร่ให้ชนเผ่าได้รู้จัก
4
ค.ศ.2018 (พ.ศ.2561) เชาได้เดินทางไปยังเกาะอันดามัน และได้ขอร้องให้ชาวประมงสองคนช่วยเขาลักลอบเข้ามายังน่านน้ำแถบนี้อย่างผิดกฎหมาย หาทางเลี่ยงเรือลาดตระเวน
1
จอห์น แอนเลน เชา (John Allen Chau)
ชาวประมงทั้งคู่ก็ยอมช่วย แต่ก็มาส่งแค่ไม่ถึงเกาะ ที่เหลือเชาต้องว่ายน้ำขึ้นไปบนเกาะเซนทิเนลเหนือด้วยตัวเอง
เมื่อขึ้นมาบนเกาะ เชาก็พบกับชนเผ่าเซนทิเนล ซึ่งเหล่าสตรีก็ดูจะตกใจและประหลาดใจ หากแต่บุรุษที่มีอาวุธครบมือนั้นมีทีท่าดุร้าย ทำให้เชาต้องรีบว่ายน้ำกลับไปยังเรือชาวประมงที่รออยู่ด้านนอกชายฝั่ง
1
ในวันต่อมา เชากลับไปยังเกาะเซนทิเนลเหนืออีกครั้งพร้อมด้วยของขวัญกำนัลแก่ชาวเกาะ ซึ่งก็มีทั้งปลาและลูกฟุตบอล
ครั้งนี้ ชาวเกาะได้ยิงธนูใส่เชา ซึ่งลูกธนูก็ได้ปักไปโดนคัมภีร์ไบเบิ้ลที่เชาถือมา ทำให้เชาต้องถอยกลับไปอีกครั้ง
1
ในวันต่อมา ชาวประมงได้เดินทางกลับมาเพื่อจะรับตัวเชากลับ แต่ก็ต้องพบว่าชนเผ่าเซนทิเนลกำลังนำร่างไร้วิญญาณของเชาไปฝัง
1
ศพของเชาไม่เคยได้กู้กลับมาอีกเลย ส่วนเพื่อนและชาวประมงที่ช่วยเชาลักลอบเข้าไปยังเกาะก็ถูกจับกุมและดำเนินคดี
เรื่องราวของเชาได้ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างประเทศเรื่องความเสี่ยงของการเผยแพร่ศาสนา รวมถึงสถานะของเกาะเซนทิเนลเหนือ โดยมีคนตั้งประเด็นว่าถึงแม้ว่าเชาจะมีเจตนาที่ดีต่อชนเผ่า แต่การที่เชาเข้าไปใกล้ชิดชนเผ่าก็เป็นการนำเชื้อโรคเข้าไปเผยแพร่ยังชนเผ่าที่ไม่คุ้นเคยกับคนจากโลกภายนอก
1
บางส่วนก็มองว่าการกระทำของเชานั้นน่ารำคาญ เป็นการละเมิดสิทธิของชนเผ่าที่จะอยู่อย่างสงบ
3
และปัจจุบัน เรื่องราวของชนเผ่าเซนทิเนลก็ยังเป็นที่ถกเถียง และยังคงดึงดูดความสนใจของทั้งนักประวัติศาสตร์และนักสำรวจ
1
โฆษณา