แต่เมื่อมาดูการจัดหมวดหมู่แล้วจะพบว่า Washington Post ให้เรื่องนี้อยู่ในหมวด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ส่วน BBC จัดอยู่ในหมวด วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
เนื้อหาในบทความทั้งสองสอดคล้องกับเอกสารทางวิชาการที่ตีพิมพ์แบบออนไลน์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่มีชื่อว่า Climate-induced decline in the quality and quantity of European hops calls for immediate adaptation measures [3]
แต่สำหรับพื้นที่ศึกษามันหมายความว่าเมื่อถึงปี 2050 ผลผลิต hop จะลดลง 4-18 % และปริมาณกรดกลุ่ม Alpha ในดอก hop จะลดลง 20-31 % ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมเบียร์เลยทีเดียว
เนิ้อหาในบทความของ Washington Post เน้นไปที่ความกังวลของผู้ผลิต hop ซึ่งระบุว่าพวกเขาตระหนักว่าคุณภาพ hop ลดลงในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา
ในยุโรปคาร์ลสเบอร์กหันกลับมาให้ความสำคัญกับการปรับปรุงพันธ์ hop ให้สามารถรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ไม่ได้ลงทุนใน sector นี้มาจั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองไม่นาน โดยคาดหวังว่าจะได้ hop สายพันธ์ใหม่ที่ทนต่อความร้อนและความแห้งแล้งได้ดีกว่าเดิม มีการกล่าวเป็นนัยๆ ว่าการปรับปรุงพันธ์รอบนี้อาจใช้เทคโนโลยีการตัดต่อสารพันธุกรรมเข้าช่วยเพื่อย่นเวลา
ในบทความของ Washington Post ยังระบุด้วยว่า การเจริญเติบโตของธุรกิจ craft beer ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้ความต้องการ hop คุณภาพดีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในซึกยุโรปบทความของ BBC ก็ระบุอย่างเดียวกัน
BBC ยังระบุถึงการปรับตัวของเกษตรกรในทวีปยุโรปที่ขยับพื้นที่ปลูก hop จากในหุบเขาขึ้นไปสู่บนลาดเขาที่มีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น (และอากาศน่าจะเย็นกว่าด้วย) หรือลงทุนกับระบบให้น้ำเพื่อชดเชยปริมาณฝนที่ลดลง
อย่างไรก็ตามผลการศึกษาในเอกสารวิชาการที่อ้างถึงระบุว่า มาตรการทั้งสองยังตามไม่ทันการลดลงของผลผลิตและความต้องการ hop คุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้น ในอนาคตอาจจำเป็นต้องขยายพื้นที่ปลูกขึ้นอีก 20 % เพื่อสนองความต้องการของตลาด
ผลจากการขาดแคลน hop คุณภาพสูงและผลกระทบจากสงครามในยูเครนที่ทำให้ราคาเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นทำให้ราคาเบียร์ในอังกฤษเพิ่มขึ้นแล้ว 13 % จากเมื่อก่อนการระบาดของโควิด
3 Mozny, M., Trnka, M., Vlach, V. et al. Climate-induced decline in the quality and quantity of European hops calls for immediate adaptation measures. Nat Commun 14, 6028 (2023). https://doi.org/10.1038/s41467-023-41474-5