Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Indy Engineer
•
ติดตาม
27 ธ.ค. 2023 เวลา 09:14 • สิ่งแวดล้อม
นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
2ปีที่ผ่านมาเก็บขยะไป 5 ครั้ง
1.
วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่ป่าชายเลนชายทะเลสีล้ง ตำบลคลองด่าน ได้ประมาณ 100 กิโลกรัม
2.
วันที่ 25 มิถุนายน 2566 ที่ป่าชายเลน ชายทะเลสีล้ง ตำบลคลองด่าน ได้ประมาณ 200 กิโลกรัม
3.
บ่ายวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ริมทางรถไฟ จุดจอดรถอโศก ขาออกจากกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 20 กิโลกรัม (ระหว่างรอรถไฟกลับฉะเชิงเทรา)
4.
วันที่ 24 กันยายน 2566 ที่ป่าชายเลน ชายทะเลสีล้ง ตำบลคลองด่าน ได้ประมาณ 80 กิโลกรัม
5.
วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ที่ริมทางรถไฟสถานีรถไฟหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง ได้ประมาณ 50 กิโลกรัม
โดยผมจะเล่าย้อน ตั้งแต่ครั้งล่าสุด คือครั้งที่ 5 เป็นการเปรียบเทียบความแตกต่างให้ทราบกันนะครับ ว่าขยะในป่าชายเลนกับขยะที่อยู่ริมทางรถไฟ แตกต่างกันอย่างไร
ขยะแห้งโดนแสงแดดประจำ
ขยะต่างๆเช่นแก้วพลาสติก ขวดแก้วเครื่องดื่ม ถุงพลาสติก กล่องใส่ขนมพลาสติกใส กล่องโฟมใส่อาหารต่างๆ เปลือกลูกอม กระดาษชำระ เป็นต้น
ซึ่งถูกลมพัดมาติดค้างรวมอยู่ ที่คันขอบทางเท้า ขนานกับทางรถไฟ ที่สถานีหัวตะเข้นั้น
จะถูกแสงแดดเป็นประจำ จึงเกิดการเสื่อมและย่อยสลายเร็วกว่าขยะที่อยู่ในป่าชายเลน ซึ่งถูกแสงแดดค่อนข้างน้อย และอยู่กับความเปียกชื้นของโคลนและน้ำทะเล
ขยะหลายๆชิ้นที่ถูกแสงแดดบริเวณริมทางรถไฟเวลาไปหยิบจะกรอบและยุ่ยเปื่อย
แตกต่างจากขยะในป่าชายเลนซึ่งยังคงสภาพแทบไม่ย่อยสลายเลย
โดนแสงแดดน้อย และเปียกชื้น
สภาพแวดล้อมของการเก็บขยะในป่าชายเลนจะไม่ร้อน จะร่มรื่น เพราะมีร่มเงาของต้นโกงกางและต้นแสม รวมถึงไม่ต้องระมัดระวังขบวนรถไฟ
ต่างจากการเก็บขยะที่ริมทางรถไฟต้องระมัดระวังขบวนรถไฟ รวมถึงต้องอยู่ห่างจากรางรถไฟไว้ตลอดเวลาเพื่อมิให้ทางเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟเกิดความกังวลใจ
เกี่ยวกับสวัสดิภาพและความปลอดภัย
แต่ก็จะมีแสงแดดเป็นอุปสรรคอันหนึ่งที่สำคัญ
ขบวนรถจักรไอน้ำ pacific
การเก็บขยะในพื้นที่สาธารณะครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
เริ่มจากผมไปรอถ่ายรูป และถ่ายคลิปวีดีโอของขบวนรถจักรไอน้ำ ขบวนพิเศษที่วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566
ผมได้เดินขึ้นไปบนสะพานลอยข้ามทางรถไฟที่สถานีรถไฟหัวตะเข้ ซึ่งมีชาวมาเลเซียท่านหนึ่ง มารอถ่ายรูปขบวนรถไฟขบวนนี้เช่นกัน
จึงเห็นว่ามีขยะต่างๆถูกทิ้งไว้บนทางเดินขึ้นสะพานลอย และมีขยะถูกลมพัดไปสะสมอยู่ที่บริเวณข้างทางรถไฟจำนวนหนึ่ง
ขยะที่เห็นในรูปนี้ผมเก็บอยู่ครึ่งวันนะครับ
ความตั้งใจเดิมในวันที่ 17 ธันวาคม 2566
ผมจะไปเก็บขยะติดค้างในป่าชายเลน ที่ชายทะเลสีล้ง ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพราะยังมีขยะติดค้างสะสมในป่าชายเลนแห่งนี้อีกเป็นจำนวนมากมหาศาล และไม่มีใครไปพาขยะเหล่านั้นออกมาเลย
ที่ต้องเปลี่ยนแผนมาเก็บขยะที่ริมทางรถไฟที่สถานีหัวตะเข้ เนื่องจากวันนั้นไม่สะดวกในการเดินทางไปที่ป่าชายเลน แต่สะดวกไปที่สถานีรถไฟหัวตะเข้มากกว่า และคล่องตัวกว่า จึงเป็นการเริ่มเก็บขยะที่ริมทางรถไฟเป็นครั้งแรกที่ตั้งใจ..แต่ก็เป็นการเก็บขยะในที่สาธารณะเป็นครั้งที่ 5
ชานชลาที่ 3 และ 4 ของสถานีรถไฟหัวตะเข้
ขอให้ความเห็น และมุมมองส่วนตัวเพิ่มเติม
จากภาพจะเห็นว่ามีขยะอยู่ในบริเวณริมรางรถไฟ จำนวนหลากหลายชิ้น
เหตุหนึ่งก็เพราะว่า บนขบวนรถไฟชานเมืองมีภาชนะรองรับขยะน้อยมาก บางขบวนผมเดินหาภาชนะรองรับขยะไม่เจอเลย
นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้เก็บขยะไว้กับตัวและนำลงมาทิ้งที่ถังขยะที่สถานี วางขยะทิ้งไว้บนขบวนรถไฟ และลมก็พัดปลิวลงมาตกที่พื้น หรือบางคนอาจจะเผลอทิ้งลงไปโดยตรงก็เป็นได้
ปัจจุบันจากการที่ผมออกเดินเท้าหลายครั้งๆละหลายกิโลเมตร 3-4 ชั่วโมงต่อครั้ง..จะพบเห็นถังขยะสาธารณะค่อนข้างน้อย
สถานีรถไฟพลูตาหลวง
ข้อเท็จจริงของปริมาณขยะ ที่กลาดเกลื่อนอยู่ตามที่สาธารณะต่างๆ เพราะยิ่งมีจำนวนผู้คนมากเท่าไหร่ในบริเวณนั้น หรือในพื้นที่นั้นๆ ก็จะมีขยะมากขึ้นตาม
ยกตัวอย่างที่สถานีรถไฟพลูตาหลวง ซึ่งมีผู้คนเดินทางขึ้น ลงที่สถานีรถไฟนี้หรือผ่านถึงเส้นทางนี้ จำนวนไม่มาก ขยะสะสมที่สถานีรถไฟพลูตาหลวงจึงแทบไม่มี หรือเบาบางมาก แทบมองไม่เห็นเลย
แตกต่างโดยสิ้นเชิง กับจุดจอดรถไฟอโศกขาออกจากกรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นจุดจอดรถไฟเที่ยวกลับจากกรุงเทพฯที่ได้รับความนิยมในช่วงบ่ายหรือเย็น
ซึ่งหลายๆคนจะกลับจากการเรียน และกลับจากการทำงาน
ช่วงเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมของปี 2566 นี้ผมได้ใช้บริการรถไฟชานเมืองฉะเชิงเทรากรุงเทพฯ ไปและกลับเกือบทุกวัน
มีอยู่วันหนึ่งผมไปยืนรอรถไฟ ที่จุดจอดรถอโศก...แต่ผมไปยืนรอผิดจุดจึงไม่ได้ขึ้นรถไฟขบวนที่ตั้งใจรอ...และต้องรอขบวนถัดไปซึ่งจะมาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากนั้น
ระหว่างนั่งรอผมเห็นมีขยะต่างๆอยู่ริมทางรถไฟจำนวนมากและดูตารางรถไฟแล้วว่ายังไม่มีรถไปวิ่งผ่านมาแน่ในช่วงเวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงนี้..ผมจึงใช้เวลาระหว่างรอเก็บขยะบริเวณนั้นได้ระยะทางประมาณ 80 เมตร
หลังจากเก็บขยะไปได้ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงพื้นที่บริเวณนั้นก็ดูโล่งตา และสะอาดขึ้น สบายตาขึ้นมากเลย
ป่าชายเลนมีคุณค่า ช่วยกันอนุรักษ์ไว้
สำหรับขยะที่ติดค้างในป่าชายเลนและที่แนวเขื่อนหินกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยแถวบริเวณอำเภอบางปะกงและอำเภอบางบ่อ เป็นใครอ่ะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาติดค้างอยู่เหมือนเป็นกับดักที่ติดแล้วติดเลยไปไหนไม่ได้หากไม่มีใครไปเก็บออกมา
และขยะบางส่วนก็จะลอยล่องมาตามลำคลองก่อนออกทะเลแต่ก็มีบางส่วนที่พัดพาเข้ามาติดค้างอยู่ในป่าชายเลนเช่นกัน
ท้ายนี้ขอฝาก ถึงทุกท่านโปรดระมัดระวังลด ละการทิ้งขยะต่างๆ ลงสู่พื้นที่สาธารณะ ถนน ไหล่ทาง คู คลอง แม่น้ำ ทะเล ข้างทางรถไฟ น้ำตก อุทยานแห่งชาติ อื่นๆเพื่อเป็นการลดจำนวนขยะ และเป็นการร่วมจัดการขยะ เพื่อร่วมสร้างความยั่งยืนเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อนุรักษ์โลกไว้ให้กับลูกหลานของเราต่อไป
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อลูกหลานของรา
การลงทุน
พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจ
1 บันทึก
1
3
1
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย