ความแตกต่างจากการหยิบปาฏิหารย์แห่งแอนดีส ในฉบับของบาโยน่านั้น ก็คือวัตถุดิบหลัก โดย “Society of the Snow” นั้น ตัดสินใจดัดแปลงจากหนังสือบันทึกเหตุการณ์ ‘The Snow Society: The Definitive Account of the World’s Greatest Survival Story’ โดย พาโบล เวียร์ซี ซึ่งได้สัมภาษณ์กับเหล่าผู้รอดชีวิต เพื่อถ่ายทอดมุมมองจากเหตุการณ์นั้นอย่างเจาะลึกขึ้น นั่นทำให้ใน “Society of the Snow” นั้น จะมาพร้อมเนื้อหาที่ลุ่มลึกขึ้น อีกทั้งยังใหญ่โตมากขึ้น
“จนกระทั่ง หนังสือ ‘La Sociedad de la Nieve’ (The Society of the Snow) ของ พาโพล เวียร์ซี ตีพิมพ์ในประเทศสเปน 12 ปีก่อน และผมก็คลั่งใคล้หนังสือเล่มนี้มาก ซึ่งอย่างที่ผมบอก มันเป็นเรื่องราวที่ดังมาก มีหนังสือราว 20 เล่มที่พูดถึงโศกนาฏกรรมนี้ รวมถึงหนัง 2 เรื่อง และสารคดีอีกมากมาย แต่ผมก็ไม่อาจเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด จนผมได้อ่านหนังสือของพาโบล เวียร์ซี และทำให้รู้ถึงความมโหฬารและยิ่งใหญ่ของเรื่องราวนี้ ทั้งในเชิงจิตวิญญาณ จิตวิทยา และในระดับปรัชญาด้วยซ้ำ” บาโยน่า กล่าว
“Society of the Snow” บอกเล่าเหตุการณ์ปาฏิหารย์แห่งแอนดีส หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติการบินแอนดีสของกองทัพอากาศอุรุกวัยในปี 1972 ที่ผู้โดยสารทั้ง 45 คน ซึ่งเป็นนักกีฬารักบี้และครอบครัว ประสบเหตุเครื่องบินตกบนเทือกเขาแอนดีส และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ และรอคอยความช่วยเหลือกับการกู้ภัยเป็นเวลาหลายอาทิตย์
โดย “Society of the Snow” ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนภาพยนตร์อย่างเป็นทางการของประเทศสเปน ในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ครั้งที่ 96 ในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และติดรายชื่อภาพยนตร์ 20 เรื่องสุดท้ายที่มีสิทธิเข้าชิงในสาขาดังกล่าว
“Society of the Snow” กำกับโดย เจ.เอ. บาโยน่า (“The Impossible”) จากบทที่เขียนร่วมกับ เบอร์นาต์ วิลาพลาน่า, ไฮเม มาร์คิส และ นิโคลัส คาซาริโก้ ดัดแปลงจากหนังสือบันทึกเหตุการณ์ The Snow Society: The Definitive Account of the World’s Greatest Survival Story โดย พาโบล เวียร์ซี
“Society of the Snow” มีกำหนดการสตรีมมิ่งทาง Netflix ในวันที่ 4 มกราคม 2024