29 ธ.ค. 2023 เวลา 06:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ผู้กำกับฯ เจ.เอ. บาโยน่า สร้าง Society of the Snow เพื่อถ่ายทอดห้วงปาฏิหารย์แอนดีสให้ยิ่งใหญ่ขึ้น

เหตุการณ์สะเทือนขวัญซึ่งเกิดขึ้นจริง มักถูกนำมาบอกเล่าบ่อยครั้ง แต่ในทุกครั้งที่ถูกหยิบมาทำใหม่ ก็ต้องมาพร้อมกับแง่มุมเรื่องราวที่ไม่ซ้ำกับฉบับก่อนหน้า โดยกับ เหตุการณ์ปาฏิหารย์แอนดีส ที่ผู้ประสบภัยทีมรักบี้ชาวอุรุกวัย 16 คนรอดชีวิตหลังเหตุเครื่องบินตกในอาร์เจนติน่าปี 1972 และเคยถูกนำมาสร้างเป็น ‘Alive’ หนังฉบับอเมริกันในปี 1993 นำแสดงโดย อีธาน ฮอว์ค
แต่การหยิบเรื่องราวนี้มาทำใหม่อีกครั้ง โดยผู้กำกับฯ อย่าง เจ.เอ. บาโยน่า จาก “The Impossible” ซึ่งเป็นชาวสเปน โดยกำเนิด ก็ล้วนเติบโตมาพร้อมกับเหตุการณ์แห่งเทือกเขาแอนดีสอันลือลั่น ตัดสินใจจะถ่ายทอดซึ่งห้วงเวลาอันแสนทรหด ผ่านเล่ามุมมองของผู้รอดชีวิตที่ต้องเอาชีวิตรอดท่ามกลางความเหน็บหนาว โดย บาโยน่า ตั้งเป้าจะพาผู้ชมไปร่วมประสบการณ์ดังกล่าวพร้อมกับตัวละคร พร้อมเล่าเรื่องราวให้ยิ่งใหญ่หนักแน่น อีกทั้งยังสมจริงมากขึ้น
“มันมีประโยคคำถาม ณ ตอนท้ายตัวอย่างที่ว่า ‘เราคือใครในหุบเขาแห่งนี้?’ และสำหรับผม กระบวนการทั้งหมดในการสร้างหนังเรื่องนี้ คือการพยายามทำความเข้าใจ ว่าสุดท้าย พวกเขาเป็นใครในหุบเขาแห่งนั้น”
“เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องราวที่โด่งดังมากในประเทศที่พูดภาษาสเปน มันเป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ ทั้งในแถบละตินอเมริกาและสเปน หนังสืออย่าง ‘Alive’ ซึ่งขายดีมาก ตีพิมพ์ 1 ปี หลังเหตุการณ์หายนะดังกล่าว และผมคิดว่า พวกเรามีหนังสือเล่มนี้ทุกคนที่บ้าน ตอนเราเป็นเด็ก” บาโยน่า กล่าว
ความแตกต่างจากการหยิบปาฏิหารย์แห่งแอนดีส ในฉบับของบาโยน่านั้น ก็คือวัตถุดิบหลัก โดย “Society of the Snow” นั้น ตัดสินใจดัดแปลงจากหนังสือบันทึกเหตุการณ์ ‘The Snow Society: The Definitive Account of the World’s Greatest Survival Story’ โดย พาโบล เวียร์ซี ซึ่งได้สัมภาษณ์กับเหล่าผู้รอดชีวิต เพื่อถ่ายทอดมุมมองจากเหตุการณ์นั้นอย่างเจาะลึกขึ้น นั่นทำให้ใน “Society of the Snow” นั้น จะมาพร้อมเนื้อหาที่ลุ่มลึกขึ้น อีกทั้งยังใหญ่โตมากขึ้น
“จนกระทั่ง หนังสือ ‘La Sociedad de la Nieve’ (The Society of the Snow) ของ พาโพล เวียร์ซี ตีพิมพ์ในประเทศสเปน 12 ปีก่อน และผมก็คลั่งใคล้หนังสือเล่มนี้มาก ซึ่งอย่างที่ผมบอก มันเป็นเรื่องราวที่ดังมาก มีหนังสือราว 20 เล่มที่พูดถึงโศกนาฏกรรมนี้ รวมถึงหนัง 2 เรื่อง และสารคดีอีกมากมาย แต่ผมก็ไม่อาจเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด จนผมได้อ่านหนังสือของพาโบล เวียร์ซี และทำให้รู้ถึงความมโหฬารและยิ่งใหญ่ของเรื่องราวนี้ ทั้งในเชิงจิตวิญญาณ จิตวิทยา และในระดับปรัชญาด้วยซ้ำ” บาโยน่า กล่าว
กระนั้นเอง แม้เหตุการณ์จะมาพร้อมความน่าสะเทือนใจจากอุบัติภัยทางอากาศยาน แต่ บาโยน่า ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การถ่ายทอดห้วงเวลานั้นเพียงอย่างเดียว แต่จะขับเน้นซึ่งความเข้มข้นของเรื่องราว เพื่อทำความเข้าใจถึง “ความเป็นมนุษย์” ภายใต้ช่วงเวลาวิกฤตดังกล่าว ดังเช่นประโยคเอกในท้ายของตัวอย่างครับ
“ผมหมกมุ่นในความเข้มข้นของเรื่องราว และพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนเหล่านี้ ด้วยความสมจริงและความเคารพขั้นสูงสุด เพื่อให้ผู้ชมทุกคนผ่านประสบการณ์เสมือนได้อยู่ในเครื่องบินร่วมกันกับพวกเขา พร้อมด้วยความรู้สึกเห็นใจต่อพวกเขา และทำความเข้าใจ ถึงสิ่งที่พวกเขากระทำและสิ่งพวกเขาต้องฝ่าฟันไป” บาโยน่า กล่าวทิ้งท้าย
“Society of the Snow” บอกเล่าเหตุการณ์ปาฏิหารย์แห่งแอนดีส หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติการบินแอนดีสของกองทัพอากาศอุรุกวัยในปี 1972 ที่ผู้โดยสารทั้ง 45 คน ซึ่งเป็นนักกีฬารักบี้และครอบครัว ประสบเหตุเครื่องบินตกบนเทือกเขาแอนดีส และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ และรอคอยความช่วยเหลือกับการกู้ภัยเป็นเวลาหลายอาทิตย์
โดย “Society of the Snow” ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนภาพยนตร์อย่างเป็นทางการของประเทศสเปน ในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้าร์ครั้งที่ 96 ในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และติดรายชื่อภาพยนตร์ 20 เรื่องสุดท้ายที่มีสิทธิเข้าชิงในสาขาดังกล่าว
“Society of the Snow” กำกับโดย เจ.เอ. บาโยน่า (“The Impossible”) จากบทที่เขียนร่วมกับ เบอร์นาต์ วิลาพลาน่า, ไฮเม มาร์คิส และ นิโคลัส คาซาริโก้ ดัดแปลงจากหนังสือบันทึกเหตุการณ์ The Snow Society: The Definitive Account of the World’s Greatest Survival Story โดย พาโบล เวียร์ซี
“Society of the Snow” มีกำหนดการสตรีมมิ่งทาง Netflix ในวันที่ 4 มกราคม 2024
ที่มา : Deadline
โฆษณา