วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

วัดพระพุทธบาท เป็นอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ ณ ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2167 สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และมีการกล่าวถึงการค้นพบไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาอย่างน่าสนใจ
นั่งไฟกันอีกแล้ว
แรกเริ่มเดิมทีนั้น เรานัดกับพาร์ทเนอร์ที่จะไปด้วยกันว่าจะพบกันในเวลาหกโมงเช้า เพื่อเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่เนื่องจากมีเหตุให้ต้องเลื่อนเวลา จึงต้องเปลี่ยนสถานที่นัดพบเป็นสถานีกรุงเทพ หรือสถานีหัวลำโพงแทน ข้อดีคือการมาขึ้นรถที่สถานีนี้มีขบวนรถที่ผ่านปลายทางที่ต้องลงมากกว่าที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งมีเพียงหนึ่งขบวนต่อวันเท่านั้น
ในวันที่เดินทาง อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส
สำหรับวิธีการเดินทางที่เราเลือกนั้น เป็นการเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ขบวนที่ 211 ไปลงที่สถานีหนองโดน จ.สระบุรี เดินออกจากตัวสถานีมาต่อรถาสองแถวใกล้ ๆ สถานีได้เลย แต่รถจะออกตามรอบเวลา ซึ่งของเรารถออกบ่ายสี่โมง ระหว่างรอรถออกเกิดหิวก็สบายใจเพราะมีทั้งร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นอยู่ข้าง ๆ มีตลาดนัด และร้านอาหารมากมาย (เราไปในวันธรรมดาและไปถึงช่วงบ่ายสามร้านอาจไม่เยอะมาก) การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างมีอุปสรรคในเรื่องของเวลาเนื่องจากสถานที่ที่เราจะไปนั้นปิดเวลาห้าโมงเย็น
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างมณฑปวัด
พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาบันทึกไว้ว่าขณะนั้น มีพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยคณะหนึ่งเดินทางไปยังลังกาทวีปเนื่องจากประสงค์ที่จะมนัสการรอยพระพุทธบาท เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระสงฆ์ชาวลังกาทวีปกำลังสอบประวัติและที่ตั้งแห่งรอยพระพุทธบาททั้งปวงตามที่ปรากฏอยู่ในตำนานว่ามีทั้งสิ้น 5 แห่ง ภายหลังสืบได้ความว่ามีอยู่ในขอบขัณฑสีมากรุงศรีอยุธยาด้วย จึงนำมาสู่การค้นหาและค้นพบในที่สุด
รอยพระพุทธบาทที่มีเรื่องเล่าระหว่างการค้นหา
มีเรื่องเล่าว่าเจ้าเมืองสระบุรี สืบได้ความจากนายพรานชื่อบุญว่า ครั้งหนึ่งออกไปล่าเนื้อในป่าใกล้เชิงเขา ยิงถูกเนื้อตัวหนึ่งเจ็บลำบากหนีขึ้นไปบนไหล่เขา หลังถูกยิงเนื้อตัวนั้นได้เตลิดหนีไป และพบอีกครั้งในภาพที่ไม่มีบาดแผลใด ๆ พรานบุญเกิดความสงสัยจึงเดินขึ้นไปบนไหล่เขานั้นและได้พบกับรอยเหมือนรูปเท้าคน ขนาดยาวประมาณสักศอกเศษ และในรอยนั้นมีน้ำขัง นายพรานบุญเข้าใจว่าบาดแผลของเนื้อตัวที่ถูกตนยิงคงหายเพราะดื่มน้ำในรอยนั้น จึงวักน้ำลองเอามาทาตัว โรคผิวหนังที่เป็นอยู่ก็หายไป
กว่าจะมาถึงก็มีเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงในการเข้านมัสการ
ขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงดีที่สุด หากต้องการนั่งรถไฟ
การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างมีเวลาจำกัด เราจึงไม่ได้อยู่เพื่อชมสถานที่ต่าง ๆ ภายในวัดมากนัก โดยมีเวลาเข้าชมเพียงครึ่งชั่วโมงโดยประมาณเนื่องจากเราพบปัญหาการเดินทางในช่วงเช้า จึงต้องเดินทางในช่วงบ่าย แนะนำหากเพื่อน ๆ ต้องการเดินทางมาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท ถ้าเดินทางด้วยรถไฟแนะนำให้มาขึ้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เนื่องจากมีขบวนรถมากกว่า และแนะนำให้เดินทางช่วงเช้าจะดีที่สุด หรือเดินทางด้วยรถมินิบัส ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ได้เช่นเดียวกัน
ก่อนกลับกรุงเทพ
ต้องบอกว่าการเดินทางในครั้งนี้ของเรานั้น ไม่ได้มีแผนการเดินทางใด ๆ เลย ทำให้ค่อนข้างลำบากในขากลับอยู่พอสมควร เริ่มจากการที่ตอนแรกเราตั้งใจจะกลับด้วยรถไฟ จึงได้เดินออกมาในถนนหลักเพื่อรอรถสองแถวไปสถานีรถไฟ แต่ติดปัญหาคือสุ่มเสี่ยงที่จะไม่ทันขบวนรถเที่ยวสุดท้าย จึงปรึกษากันได้ความว่าจะเดินทางกลับด้วยรถมินิบัสแทน ซึ่งจะต้องไปรอรถที่ตลาดโต้รุ่ง ฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอพระพุทธบาทเพื่อเข้ากรุงเทพฯแทน เราใช้วิธีเดินจากหอนาฬิกาตลาดในไปที่นั่น และเราคิดถูกมากเนื่องจากรถมินิบัสนั้นค่อนข้างกว้างและสบาย
อย่างที่บอกไป เพื่อนๆหากจะเดินทางมาด้วยตนเองแบบไม่มียานพาหนะ ควรวางแผนการเดินทางให้ดี ไม่อย่างนั้นได้หาที่พักนอนค้างคืนแน่นอน อิอิ
เครดิตภาพ : เที่ยวไปเรื่อย
ข้อมูลอ้างอิง : วิกิพีเดีย , https://sri.onab.go.th/th/content/category/detail/id/110/iid/646
#เที่ยว #วัดพระพุทธบาท #สระบุรี #เที่ยวไม่มีรถ
โฆษณา