29 ธ.ค. 2023 เวลา 08:58 • กีฬา

นักเตะอาชีพอายุเยอะที่สุดตลอดกาล "คิงคาซู" 56 ยังไหว

นักฟุตบอลที่เป็นปรากฏการณ์ของโลกใบนี้ คือ "คาซูโยชิ มิอูระ" หรือที่เราเรียกกันว่า "คิงคาซู" เพราะเขาคือนักบอลอาชีพ ที่อายุมากที่สุดตลอดกาล ด้วยวัย 56 ปี!
คาซู เล่นฟุตบอลอาชีพ ตั้งแต่ปี 1986 จากนั้นก็เล่นฟุตบอลมาเรื่อยๆ กับหลายสโมสร จนถึงปัจจุบัน เขาเล่นบอลมาแล้ว มากถึง 37 ฤดูกาล อะไรจะขนาดนั้น
คาซู คือนักฟุตบอลคนเดียวบนโลก ที่เล่นฟุตบอลอาชีพ ยาวนานถึง 5 ทศวรรษ ตั้งแต่ยุค 1980s (มาราโดน่า-พลาตินี่), 1990s (ซีดาน-ริวัลโด้), 2000s (เจอร์ราร์ด-กาก้า), 2010s (เมสซี่-โรนัลโด้) และ 2020s (ฮาแลนด์-เอ็มบัปเป้)
เล่นบอลตั้งแต่อาร์เจนติน่าได้แชมป์โลกครั้งที่ 2 ยุคมาราโดน่า มาจนอาร์เจนติน่าได้แชมป์โลกครั้งที่ 3 ในยุคเมสซี่ คือไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครทำแบบนี้ได้
คือปกตินักเตะอายุ 35 ขึ้นไป เล่นได้ไม่นานก็เหนื่อยง่ายแล้ว พลังหมด คือเล่นบอลสนุกๆ นัดการกุศลได้ แต่เล่นอาชีพไม่ไหวแน่ แต่เคสของคาซูนั้น เขาเล่นมาจนถึงอายุ 56 ปี และยังไม่เลิก ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะไปเลิกเล่นเอาเมื่อไหร่
ที่ญี่ปุ่น คาซู คือไอดอลเบอร์หนึ่งตลอดกาลของวงการฟุตบอล ลองคิดดูว่าในช่วงต้นอาชีพ เขากล้าท้าทายตัวเอง ไปเล่นฟุตบอลที่สโมสรซานโตสในบราซิล จากนั้นก็เป็นคนเอเชียตะวันออกคนแรก ที่ได้เล่นในเซเรียอา กับสโมสรเจนัว และสามารถยิงประตูได้ด้วยในศึกดาร์บี้แมตช์กับซามพ์โดเรีย
ความสุดยอดของคาซู ทำให้นักกีฬาญี่ปุ่นรุ่นหลัง บูชาเขาทั้งสิ้น ถ้าไม่มีเขาที่กล้าเริ่มไปบุกเบิกยังต่างแดน วงการฟุตบอลญี่ปุ่น อาจไม่ได้มาไกลขนาดนี้
กลุ่มนักเตะทีมชาติชาวญี่ปุ่นที่ไปค้าแข้งในยุโรป จะมีธรรมเนียมพิเศษชื่อ "คาซูไค" ที่จัดขึ้นปีละครั้ง โดยจะรวมตัวกันนัดกินข้าว โดยคาซูจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อนั้นเอง นี่เป็นอีเวนต์ประจำปี ที่ใครๆ ก็อยากไปทั้งนั้น
สำหรับเรื่องในสนาม คาซูสมัยหนุ่มๆ ถือว่าสุดยอดมาก เขาเป็นขาประจำทีมชาติ จะมีการ์ตูนญี่ปุ่น ชื่อ "ยิงประตูสู่ฝัน" ตัวเอกคนหนึ่งของเรื่อง ชื่อ อิบุ เค็นสุเกะ นั่นก็คือตัวละครที่ถอดแบบมาจากคาซูนั่นเอง
แต่สิ่งที่ผู้คนทึ่งกว่าสมัยหนุ่ม ก็คือตอนปัจจุบันนี่แหละ เขาอายุ 56 ปี ยังเล่นบอลอาชีพได้ มันไม่ธรรมดาแล้ว
ครั้งหนึ่ง มีนักข่าวเคยไปถามว่า ทำไมคาซู ถึงเล่นฟุตบอลได้ยืนยาวขนาดนี้ อะไรคือเคล็ดลับของคุณกันแน่
คาซูอธิบายว่า "วิทยาศาสตร์การกีฬา" เป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะถ้านักกีฬารู้จักร่างกายของตัวเองดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งยืดระยะในการลงสนามให้ได้นานขึ้นเท่านั้น
อย่างแรกที่ต้องให้ความสำคัญ คือเรื่องการใช้ชีวิต คาซู ดื่มเหล้าแบบพอประมาณ และซีเรียสกับการกินมากๆ เขาไม่กินเนื้อติดมัน ไม่ใส่ซอสหวานๆ รวมถึงเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม
อย่างที่สองคือเรื่องวินัยในการซ้อม คาซู ไปซ้อมเช้าที่สุดกว่าใครเสมอ แม้จะอายุมากที่สุดก็ตาม ไม่มีข้ออ้างใดๆ ให้กับตัวเอง
อย่างที่สามคือการควบคุมน้ำหนัก ในวัย 50 อัพ น้ำหนักจะขึ้นง่ายกว่าเดิมมาก ถ้าน้ำหนักเยอะขึ้น การเคลื่อนที่ก็ช้าลง ดังนั้นคาซู ต้องรักษาบอดี้ไว้ให้ได้ เขาสูง 176.5 ซม. แต่คงน้ำหนักไว้ที่ 71.5 กิโลกรัมเท่านั้นไม่เคยเปลี่ยน ร่างกายมี Body Fat อยู่ที่ 9.2% ถ้าเทียบกับชายญี่ปุ่นทั่วไปในวัย 50 จะมี Body Fat อยู่ที่ 20%
คาซูเล่าว่า "ความยากของการยืนระยะ คือ คุณต้องทำกิจวัตรเดิมๆ ซ้ำๆ ตลอดเวลา เพื่อที่จะทำให้คงรักษาร่างกายไว้ได้ ยิ่งคุณอายุมาก คุณต้องทำงานหนัก มากกว่าเด็กหนุ่มด้วยซ้ำ อย่างผมตื่นตั้งแต่ตี 5 มาเริ่มซ้อม แต่ละวัน ซ้อม 3 เซสชั่น ผมทั้งวิ่ง ทั้งเข้าฟิตเนส ทำทุกอย่าง จุดประสงค์เพื่อต่อต้านกฎธรรมชาติว่าเรายังเล่นไหว"
3
อีกสิ่งหนึ่งที่คาซู เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาใช้จริงๆ คือกรดอะมิโน
คาซู ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Sanspo ของญี่ปุ่นว่า กล้ามเนื้อของมนุษย์จะสมบูรณ์แข็งแรงในวัย 20 แต่จะค่อยๆ ลดมาเรื่อยๆ และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะลดดิ่งอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเข้าสู่วัย 50
ในข้อเท็จจริง เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ก็จะเริ่มสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ดังนั้นสิ่งที่คาซูทำคือ การออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการกินกรดอะมิโน เพราะกรดอะมิโนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้
1
คาซูให้สัมภาษณ์ว่า "ผมกินกรดอะมิโนประมาณ 4-5 ซองต่อวัน ตลอดปี หลังจากกินได้ 3 เดือน ร่างกายผมเริ่มเบาขึ้น และรู้สึกดีมาก ผมสามารถวิ่งได้นานขึ้นกว่าปกติในสนาม เพราะร่างกายแข็งแรงขึ้น จิตใจผมก็สงบขึ้นด้วย"
สรุปคือเคล็ดลับในความแข็งแกร่งของคาซูที่สามารถทำให้เขายืนระยะได้ นั่นคือพักผ่อนเพียงพอ ควบคุมอาหาร เลือกสิ่งที่กินเสริมให้ถูกต้อง ดูแลตัวเอง ออกกำลังกายอย่างจริงจังต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ พูดเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วทำไม่ง่ายเลย
ปัจจุบันคาซู อายุ 56 ปี และเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็จะอายุ 57 ปี เขายังเล่นฟุตบอลอาชีพ อยู่กับสโมสรโอลิเวียเรนเซ่ ทีมในลีกา 2 โปรตุเกส ก็อยากรู้เหมือนกันว่าคาซูจะไปได้ไกลจนถึงอายุ 60 เลยหรือไม่ ถ้าทำได้ ก็ต้องบอกว่า สุดๆ ไปเลยจริงๆ
โฆษณา