ซูเปอร์ลีก ไอเดียที่ไม่มีทางเกิดได้จริง (ในตอนนี้)
"ซูเปอร์ลีก" ถูกพูดถึงมาอย่างน้อย 3 ทศวรรษ แต่ไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้เสียที
ทำไมไอเดียซูเปอร์ลีกถูกต่อต้าน จากผู้คนเป็นหมื่นเป็นแสน เราจะไปอธิบายกันอย่างเข้าใจง่ายนะครับ
ณ ปัจจุบัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คือรายการฟุตบอลที่นิยมมาก และทำรายได้มหาศาลให้กับผู้จัดการแข่งขัน ซึ่งได้แก่ ยูฟ่า (สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป)
ที่แชมเปี้ยนส์ลีกนิยม เพราะมันเป็นการปะทะกันของสุดยอดทีมในทวีปยุโรป คือคัดคุณภาพมาให้แล้ว
ทีมที่ได้เล่นในชปล. ไม่มีทีมกระจอก พวกเขามีศักดิ์ศรี เป็นสโมสรอันดับต้นๆ ของลีกตัวเอง
เมื่อทีมเก่งเจอกัน จึงไม่มีหมูให้เชือดในรายการนี้ ไม่แปลกที่เรตติ้ง และรายได้ของแชมเปี้ยนส์ลีกพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลในทุกๆ ปี
หลังจากได้เงินสปอนเซอร์มหาศาลเข้ามาแล้ว พอจบซีซั่น ยูฟ่าก็จะแจกจ่ายส่วนแบ่งให้แต่ละทีมที่เข้าแข่งขัน ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่น
แต่ในเรื่องนี้บรรดาทีมใหญ่ทั้งหลาย แสดงความไม่พอใจมาตลอดว่าส่วนแบ่งของยูฟ่าที่มอบให้ทีมใหญ่ๆ น้อยเกินไป
ทีมใหญ่มองว่า ยูฟ่าใช้คุณภาพของ "บิ๊กเนม" มาดึงดูดผู้ชม แต่เวลาจ่ายเงิน กลับจ่ายน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ส่วนแบ่งมันควรจะมากกว่านี้หรือเปล่า?
ยูฟ่าเคยอธิบายว่า เงินสปอนเซอร์ที่ได้จากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่สามารถเอาไปจ่ายให้สโมสรที่เข้าแข่งทั้งหมดได้ เพราะจำเป็นต้องกระจายเอาไปพัฒนาฟุตบอลยุโรปทั้งระบบ
เช่น ต้องเอาไปจ่ายเงินรางวัลให้ถ้วยอื่นๆ พวกยูโรป้าลีก และ คอนเฟอเรนซ์ลีก รวมถึงจ่ายเพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ฟุตซอล จัดยูธลีก จัดฟุตบอลหญิง ซึ่งอีเวนต์เหล่านี้ ไม่ได้กำไร แต่ก็จำเป็นต้องมีเงินหล่อเลี้ยงเพื่อให้ฟุตบอลมันเดินหน้าต่อไปได้
ไอเดียของยูฟ่า คือควรเอาเงินจากรายการใหญ่ ไปจุนเจือรายการเล็ก อุตสาหกรรมมันจะได้เดินหน้าต่อไปได้
เหตุผลของยูฟ่าก็ฟังขึ้น แต่สโมสรใหญ่ๆ นั้นรู้สึกว่า มันไม่แฟร์ เพราะพวกเขาเป็นเหมือน "คนหาเงิน" ถ้าหากไม่มี เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, ยูเวนตุส ถามหน่อยว่ายูฟ่า จะสร้างความนิยม และทำเงินได้มากขนาดนั้นไหม
ดังนั้นทีมใหญ่จึงเรียกร้องขอเงินที่เยอะมากกว่านี้ ยูฟ่าจะทำตัวเป็นเสือนอนกินไม่ได้
ยูฟ่า กับ บรรดาทีมใหญ่ คลางแคลงใจกันมาตลอด จึงเป็นที่มาของไอเดียซูเปอร์ลีก คือทีมใหญ่ทั้งหมดมารวมตัวกันจัดลีกพิเศษของตัวเองไปเลย ไม่ต้องง้อยูฟ่าอีกต่อไป
ถ้าซูเปอร์ลีกกำเนิดขึ้น ทีมใหญ่ๆ รวมตัวกันติด โดยไม่เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกอีก ไม่นานแชมเปี้ยนส์ลีกก็จะเสื่อมความนิยม เพราะจะเหลือแต่ทีมอย่าง ชาคเตอร์ โดเน็ตส์, อันเดอร์เลตช์ หรือ เรดสตาร์ เบลเกรด
เมื่อแชมเปี้ยนส์ลีกเสื่อมความนิยม สปอนเซอร์ทั้งหมดก็จะหลั่งไหลมาสู่ซูเปอร์ลีก เมื่อนั้น ทีมใหญ่ๆ ก็จะแบ่งเค้กกันเอง แบ่งเงินกันเอง โดยไม่ต้องแชร์ให้ใครอีกต่อไป
ในปี 2021 หลายสโมสรรวมตัวกัน และเกือบแยกตัวออกมาตั้งซูเปอร์ลีกได้จริงๆ แต่สุดท้าย ยูฟ่าเบรกไว้ ไม่ให้ทำ
ยูฟ่าประกาศว่า ทีมไหนที่ไปเล่นในซูเปอร์ลีก จะโดนแบนจากการแข่งขันทุกระดับ ลีกในประเทศก็เตะไม่ได้ และฟีฟ่าเองก็เห็นชอบด้วย ซึ่งเมื่อขู่ออกมาอย่างนั้น ทำให้โปรเจ็กต์ซูเปอร์ลีก จึงหยุดอยู่ตรงนั้น
ฝั่งตัวตั้งตัวตี เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า จึงไปยื่นฟ้องศาลยุติธรรมยุโรป (ECJ) ว่า ยูฟ่า กับฟีฟ่า มีอำนาจอะไรมาแบนสโมสรไม่ให้เล่นลีกในประเทศ และเมื่อวานนี้ ศาลตัดสินแล้วว่า การจัดซูเปอร์ลีกสามารถทำได้ ยูฟ่า และ ฟีฟ่าไม่สามารถไปแบนเขาได้อีก
ว่ากันง่ายๆ คือตอนนี้ ถ้าจะทำซูเปอร์ลีกจริง ก็สามารถทำได้ทันที
แต่ประเด็นตอนนี้ ความยากที่สุดคือ การเจรจาให้สโมสรใหญ่ต่างๆ ถอนตัวจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แล้วย้ายมาเล่นในซูเปอร์ลีกแทน
เพราะทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไม่เอาด้วยแล้ว เช่นเดียวกับบุนเดสลีกาที่ไม่เอาแต่แรกอยู่แล้ว ขณะที่ลีกเอิง เปแอสเช ก็แสดงจุดยืนว่าไม่เอาเหมือนกัน ดังนั้นฝ่ายที่อยากย้ายไปซูเปอร์ลีกตอนนี้ จึงเหลือแค่เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่าเท่านั้น พวกเขาไม่เหลือทีมใหญ่ ทีมอื่น ที่อยากจะร่วมด้วยอีกเลย
ส่วนตัวผมเชื่อว่า ไอเดียซูเปอร์ลีกจบแล้ว อย่างน้อยก็จะไม่เกิดขึ้นใน 10 ปีนี้ เพราะได้รับแรงต่อต้านเยอะมากจากแฟนบอล
คือใจจริงเจ้าของสโมสรหลายทีม โดยเฉพาะกลุ่มทุนอเมริกัน อาจจะอยากทำ แต่เมื่อโดนแรงกดดันหนักขนาดนี้จากสังคม ยังไงก็ไม่กล้าสวนกระแสแน่ๆ
-----------------------
ทำไมแฟนบอล และสื่อมวลชนจำนวนมาก ต่อต้านซูเปอร์ลีก นี่คือ เหตุผล 7 ข้อครับ
1) รับไม่ได้กับความเห็นแก่เงินของทีมใหญ่ คือปัจจุบัน ยูฟ่ากระจายเงินได้โอเคแล้ว จริงอยู่ว่า ตัวเงินอาจเทียบไม่ได้กับพรีเมียร์ลีก ที่จ่ายให้สโมสรปีละ 100 ล้านปอนด์ แต่ที่ยูฟ่า มอบให้ทีมที่ร่วมแชมเปี้ยนส์ลีก ก็นับว่าเยอะแล้ว เช่น ถ้าคุณตกรอบแบ่งกลุ่ม ก็ยังได้เงินตั้ง 20 ล้านปอนด์ มันก็ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยๆ ถ้าคุณแยกลีกไปเอง กะไปโกยเงินกันในกลุ่มเล็กๆ แบบนี้ตั้งใจจะไม่ให้ทีมอื่นๆ ลืมตาอ้าปากกันหรืออย่างไร
2) สร้าง "ชนชั้น" ให้เกิดขึ้นในเกมฟุตบอล กล่าวคือ ในปัจจุบันไม่สำคัญว่าคุณจะรวยหรือจน จะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็ก ถ้าคุณจบท็อปโฟร์ คุณก็ไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ แต่ถ้ามีซูเปอร์ลีกเกิดขึ้น สำหรับบางทีมต่อให้คุณเก่งแทบตาย แต่เมื่อโดนตราหน้าว่าเป็น "ทีมเล็ก" ก็ไม่สามารถเข้าร่วมในซูเปอร์ลีกได้อยู่ดี มันเป็นการแบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นระบบชนชั้นวรรณะ ซึ่งในสังคมฟุตบอลที่ยึดถือเรื่องความเท่าเทียมกัน นี่เป็นเรื่องที่พิลึกมาก
3) ประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาจะหายหมด ลองคิดดูว่าลิเวอร์พูลมีเพลงชื่อ We won it 6 times เล่าถึงชัยชนะในถ้วยใหญ่ยุโรปทั้ง 6 ครั้ง แต่สุดท้ายเรื่องเหล่านี้จะเป็นแค่เรื่องเล่าขาน เพราะถ้าลิเวอร์พูลย้ายไปซูเปอร์ลีก ความสัมพันธ์กับถ้วยยุโรปเดิม ก็จะสิ้นสุดลง ต้องไปสร้างเรื่องราวของตัวเองใหม่กับถ้วยใบใหม่ Heritage มรดกที่เคยทำมาในอดีตจะถูกทิ้งหมดเลยนะ มันคุ้มหรอ?
4) นักเตะหมดสภาพกันแน่ๆ คือในแชมเปี้ยนส์ลีกปัจจุบัน คุณยังพอโรเทชั่นได้บ้าง อย่างอาร์เซน่อล นัดเจอ ล็องส์ ในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ยังพอพักตัวหลักได้บางคน แต่ถ้าเป็นซูเปอร์ลีกปั๊บ มีแต่ทีมยักษ์ทุกนัด มันแทบจะโรเทชั่นกันไม่ได้เลย ไม่งั้นแพ้แน่ มันเป็นการปิดโอกาสของดาวรุ่ง และผู้เล่นตัวหลักก็จะกรอบจนบาดเจ็บยับแน่
5) ความตั้งใจแข่งฟุตบอลลีกในประเทศ อาจจะลดลง เพราะสมมุติทีมใหญ่ย้ายไปเล่นซูเปอร์ลีก แปลว่าจะไม่จำเป็นต้องมาลุ้นท็อปโฟร์อะไรกันอีกแล้ว ถ้าไม่ได้แชมป์ จะจบอันดับเท่าไหร่ก็ได้ ก็มีผลไม่ต่างกัน ซึ่งถ้าความตั้งใจลดลง ผู้จัดการทีมอาจปล่อยเบลอในเกมลีก ชนะก็ได้แพ้ก็ได้ เก็บตัวไว้ใส่เต็มสูบในถ้วยซูเปอร์ลีกที่คนดูเยอะๆ ยังจะดีซะกว่า
6) คุณค่าของเกมใหญ่จะลดลง ในอดีตเราจะลุ้นกันเสมอเวลาจับสลากแชมเปี้ยนส์ลีก ทุกคนรอคอยว่า ทีมใหญ่จะได้ชนกันหรือไม่ แต่ถ้ามีซูเปอร์ลีก ที่ทีมใหญ่ยังไงก็ต้องเจอกันทุกวีกอยู่แล้ว มันจะมีคุณค่าอะไรให้แฟนบอลรอคอยกันเล่า
เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า "ทำไมเราต้องสร้างระบบที่ลิเวอร์พูลต้องปะทะกับเรอัล มาดริด 10 ปีติดต่อกันด้วยล่ะ? ถ้าหากมันเป็นแบบนั้น ใครจะยังอยากดูอีก"
7) ฟุตบอลรากหญ้าจะล่มสลาย ใครจะรู้ ถ้าหากซูเปอร์ลีกได้รับการตอบรับที่ดี ในอนาคตบรรดาทีมใหญ่ๆ อาจไม่สนใจลีกในประเทศอีกต่อไป คือแข่งกันเองระหว่างทีมใหญ่ด้วยกัน โดยใช้โมเดลเดียวกับ NFL หรือ NBA ไม่มีตกชั้น ไม่มีเลื่อนชั้น และถ้าเป็นแบบนั้น บรรดาดาวรุ่งเก่งๆ ก็จะอยากสังกัดแค่กับทีมในซูเปอร์ลีกเท่านั้น เพราะเห็นๆกันอยู่ว่าโด่งดังได้ง่ายกว่า ซึ่งนั่นจะทำให้ทีมขนาดกลางๆ และเล็กๆ เมื่อขาดผู้เล่นฝีเท้าดี ก็จะค่อยๆเสื่อมความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
-----------------------
ตอนนี้มันจึงเป็นเหมือนสงครามของคนฟุตบอล ที่ต้องการให้ฟุตบอลยุโรปเป็นเหมือนเดิม กับ อีกฝ่ายคือนายทุน ที่มองว่าฟุตบอลมีทีมไม่ต้องเยอะหรอก เอาทีมหัวกะทิมารวมกันไม่กี่ทีมก็พอ แล้วโกยเงินกันให้เละกันเองแค่ไม่กี่ทีมนั้น
ถ้าเกิดไปสัมภาษณ์คนในวงการฟุตบอล ก็แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะไม่เห็นด้วยกับโปรเจ็กต์ ซูเปอร์ลีก
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยแสดงจุดยืนไว้อย่างน่าสนใจว่า "ผมมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับฟุตบอลยุโรป ทั้งสมัยเป็นนักเตะกับทีมดันเฟิร์มลิน และสมัยเป็นผู้จัดการทีม ที่ช่วยอเบอร์ดีนคว้าแชมป์คัพวินเนอร์สคัพได้สำเร็จ สำหรับทีมเล็กๆในสกอตแลนด์ การไปถึงจุดนั้นได้ มันเหมือนคุณไต่เขาเอเวอเรสต์ได้แล้ว ส่วนในช่วงที่คุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมพาทีมลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ 4 ครั้งในแชมเปี้ยนส์ลีก และเกมเหล่านั้น คือค่ำคืนที่พิเศษสุดของผมเสมอมา"
คำกล่าวของเฟอร์กูสันแปลว่า เขายังศรัทธาในระบบดั้งเดิมที่มียูฟ่าเป็นคนควบคุม การที่แยกถ้วยออกไป เป็นการลบล้างประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เขาเคยสร้างเอาไว้ด้วย ลองคิดเล่นๆว่า ถ้าซูเปอร์ลีกได้รับความนิยม แล้วแมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้เข้าร่วมแชมเปี้ยนส์ลีกอีกแล้ว สมมุติผ่านไปอีกสัก 30 ปี เด็กในยุคนั้น จะยังคงให้คุณค่ากับแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่เฟอร์กี้เคยทำได้ ในปี 1999 หรือ 2008 หรือไม่ เราก็ไม่อาจจะทราบได้
สุดท้ายถ้าถามว่า โอกาสที่ซูเปอร์ลีกจะเกิดขึ้นได้ไหม คำตอบคือ "แทบเป็นศูนย์"
ตัวตั้งตัวตีสำคัญ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ อายุ 76 ปีแล้ว และถ้าเขาลงจากตำแหน่ง ประธานคนใหม่ จะกล้าหรือ ที่จะละทิ้งประวัติศาสตร์แชมป์ 14 สมัยของเรอัล มาดริด ในรายการยุโรป
นอกจากนั้นยูฟ่าเอง ก็ไม่ได้อยู่เฉย พวกเขามีการปรับฟอร์แมตการแข่งขันขึ้นมา เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับสโมสรใหญ่ๆ อย่างในฤดูกาลหน้า แชมเปี้ยนส์ลีก จะมี 36 ทีม โดยแต่ละทีมจะได้แข่งมากขึ้นกว่าเดิม นำมาซึ่งรายได้ที่เยอะขึ้นอีก
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ฝั่งซูเปอร์ลีกไม่สามารถซื้อใจแฟนบอลทั่วไปได้ เพราะพวกเขา ให้ความสำคัญแต่กับทีมใหญ่อย่างเดียว
ฟุตบอล ต่างจากอเมริกันเกมส์ ที่เล่นกัน 30 หรือ 32 ทีม ไม่มีตกชั้น ไม่มีเลื่อนชั้น บางรัฐ ไม่จำเป็นต้องมีทีมอาชีพก็ได้ ประชาชนก็ไปเชียร์ทีมในเมืองอื่นๆ เอา
แต่โลกฟุตบอลไม่ใช่อย่างนั้น ทุกเมืองมีทีมอาชีพหมด แล้วแฟนบอลไม่ได้สนุกแค่การเชียร์ทีมใหญ่ๆ แต่เป็นการเชียร์ทีมรักในท้องถิ่นของตัวเอง ให้ทำผลงานได้ดี ต่อให้อยู่ดิวิชั่นต่ำๆ ก็เชียร์
ในฟุตบอลทีมใหญ่ และทีมเล็ก มีความสำคัญเชื่อมโยงกันหมด ดังนั้นเมื่อซูเปอร์ลีกคิดจะเชิดชูแต่ทีมใหญ่ โดยไม่ใส่ใจทีมเล็ก ก็ยากที่จะมีคนสนับสนุน
จากเหตุผลทุกอย่างรวมกัน ทำให้ซูเปอร์ลีกจะไม่เกิดขึ้น แม้ศาลยุติธรรมยุโรปจะยืนยันว่า จัดแข่งได้ แต่ยากที่จะมีสโมสรมาร่วมกับโปรเจ็กต์นี้
บทสรุปของเรื่องนี้คือ ไอเดียซูเปอร์ลีกจะเป็นแค่จินตนาการต่อไป แนวคิดนี้ยังไม่แข็งแรงพอ ที่จะโค่นฐานอำนาจเก่าได้
การมีไอเดียใหม่ ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงทั้งระบบขนาดนี้ คุณต้องมีเหตุผลมากพอ ที่จะเอาชนะไอเดียเดิมที่ใช้การได้ดีอยู่แล้วมาหลายสิบปีครับผม
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
