3 ม.ค. เวลา 01:36 • ประวัติศาสตร์

โบราณวัตถุที่ (อาจจะ) กินได้

เมื่อสัปดาห์ก่อนผมให้บังเอิญเจอการ์ตูนแนวเสียดสีล้อเลียนภาพหนึ่งบนอินเตอร์เน็ท
ในภาพแสดงการขุดค้นทางโบราณคดี คนตรงกลางภาพหยิบวัตถุชิ้นหนึ่งขึ้นมาพลางบอกกับเพื่อนร่วมงานแปลเป็นไทยได้ความว่า “อันนี้น่าจะยังกินได้”
ดูแล้วก็งงว่าฝรั่งเล่นมุกอะไรกัน
ให้บังเอิญเมื่อวานไปเจอบทความบนเฟสบุ้คของ Smithsonian Magazine เข้าบทหนึ่ง [1] ที่ดูเหมือนจะเข้ากับมุกนี้พอดีทั้งที่ความจริงอาจไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เลยได้แรงบันดาลใจให้เขียนเรื่องนี้
ชื่อบทความนั้นคือ Untouch, Century-old fruitcake found in Antarctica แปลไทยแบบให้ตื่นเต้นตามได้ว่า ค้นพบฟรุ้ตเค้กอายุร้อยกว่าปีในสภาพดีที่ทวีปแอนตาร์กติก
แอนตาร์กติกก็คือแผ่นดินตรงขั่วโลกใต้ มีพื้นที่ประมาณ 13 ล้านตารางกิโลเมตรเศษๆ ด้วยความที่อยู่ตรงขั้วโลกอันเป็นบริเวณที่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์น้อยกว่าทวีปอื่นๆ บนโลกใบนี้ แอนตาร์กติกจึงมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรกับการดำรงชีวิตอย่างสุดโต่ง
98 % ของผิวทวีปมีแผ่นน้ำแข็งปกคลุม ความหนาของแผ่นน้ำแข็งนั้นสะสมน้ำจืดไว้ถึง 78% ของปริมาณน้ำจืดทั้งโลก ทะเลที่ล้อมรอบนั้นเล่าก็มีแผ่นน้ำแข็งคลุมยื่นออกมาจากแนวชายฝั่งอีกไม่น้อย
อุณหภูมิไม่ต้องพูดถึง หนาวเย็นตลอดทั้งปี พืชพรรณและสัตว์ตามธรรมชาติก็มีแบบนับชนิดได้
กระนั้นมนุษย์ก็ยังอุตส่าห์ไปแสดงความเป็นเจ้าของกัน แม้ว่าในตอนหลังนี่จะมีเรื่องการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นำหน้าก็ตาม
จ้าฟรุ้ตเค้กชิ้นที่เป็นข่าวนั้นถูกพบในอาคารหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นในแอนตาร์กติก และมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่คณะสำรวจภายใต้การนำของกัปตันโรเบิร์ต ฟอลคอน สก๊อตต์ ชาวอังกฤษทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ช่วงปี 1910-1913
ในยุคนั้นเป็นช่วงที่กระแสชาตินิยมกำลังพลุ่งพล่านไปทั่วโลก ชาติที่มีแสนยานุภาพทางทะเลต่างหมายมั่นปั้นมือจะช่วงชิงเกียรติภูมิว่าเป็นชาติแรกที่ปักธงลงบนดินแดนรกร้างตรงที่เป็นขั้วโลกใต้ได้ ในจำนวนนี้นอกจากอังกฤษแล้วยังมี นอร์เวย์ เยอรมันนี สวีเดน ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม
ทางฟากเอเชียเองก็มีญี่ปุ่นที่เพิ่งผงาดขึ้นมา เป็นตัวแทนหมู่บ้านในการแข่งขันเพื่อเอาหน้าครั้งนี้ด้วย
เรือสำรวจของสก๊อตต์ไปถึงแอนตาร์กติกไล่เลี่ยกับทีมสำรวจของนอร์เวย์ที่นำโดยโรอาล์ อมุนด์เซ่นด์ และผลการแข่งขันกันเดินทางฝ่าทุ่งน้ำแข็งจากเรือมุ่งหน้าไปปักธงที่ขั้วโลกคือ ฝ่ายนอร์เวย์ไปถึงก่อน 34 วัน
แต่โลกกลับจดจำสก๊อตต์ได้มากกว่า เพราะทีมสำรวจของเขารวม 5 คนที่แยกตัวจากเรือซึ่งเป็นฐานหลัก เดินทางมุ่งไปปักธงอังกฤษที่ขั้วโลกใต้เสียชีวิตทั้งหมดในการเดินทางขากลับ
สก๊อตต์ทิ้งบันทึกการเดินทางอันน่าเศร้าไว้เป็นอนุสรณ์[2]
ตัวฟรุ้ตเค้กถูกพบร่วมกับโบราณวัตถุอื่นๆ อีกร่วม 1500 ชิ้นในอาคารหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นในทวีปอันรกร้างนั่นเมื่อปี ค.ศ. 1899 มันอยู่ในกล่องดีบุกซึ่งยังมีเครื่องหมายการค้าของร้านอบขนมชื่อ Huntley & Palmers
ตัวกล่องนั่นโดนสนิมกินไปตามกาลเวลาแล้ว แต่ก้อนเค้กยังอยู่ในกระดาษเคลือบไขที่ห่อมันไว้ นักโบราณคดีที่คลี่กระดาษออกดูบอกว่า มีกลิ่นเนยบูดนิดหน่อย แต่สภาพทั่วไปดูเหมือนจะยังกินได้
เชื่อกันว่าคณะสำรวจของสก๊อตต์ที่มุ่งหน้าไปขั้วโลกใต้จงใจทิ้งเจ้าเค้กก้อนนี้ไว้ร่วมกับสัมภาระที่จำเป็นอื่นๆ เพื่อที่จะมาใช้ยังชีพในขากลับจากขั้วโลกใต้
เพียงแต่เขากลับมาไม่ถึงเท่านั้น
อ้างอิง
1https://www.smithsonianmag.com/smart-news/immaculate-century-old-fruitcake-found-antarctica-180964504/?utm_medium=social&utm_source=facebook&utm_campaign=editorial&utm_term=12232023&utm_content=archival&fbclid=IwAR2i3pOreFfB5HwjVA4xspuNa0e46AoKAExOSvlQz5vh1oSw6onehwR-yrc
2 Rare photographs of Robert Scott's ill-fated expedition to the South Pole, 1910-1913 - Rare Historical Photos
โฆษณา