5 ม.ค. เวลา 04:12 • ธุรกิจ
คุณชายถนัดซ้าย

ขายกะเพราเพราะถ้าขายไม่ได้อย่างน้อยก็ได้กิน

1 ปีที่ผ่านกับรายได้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ จากอาชีพค้าขายอาหาร
จากเมี่ยงเพิ่มขนมหวานเพิ่มปิ้งย่างหม่าล่าเพิ่มปลาหมึกย่าง
และอีกหลายเมนูจนแล้วจนรอดรายได้ก็ไม่เพิ่มขึ้น
เงินเริ่มหมดบ้านเริ่มต้องหยิบยืมคนรอบตัวรวมถึง
ต้องกู้ !! คิดไว้ว่า 6 เดือนสุดท้ายก่อนหมดสัญญา
นี่คือเมนูสุดท้ายละถ้าไม่เกิดแสดงว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา
เ้วยความชอบกินกะเพราและคิดว่าอย่างน้อยขายไม่ได้
ก็เก็บไว้กินก็ขายกะเพราโดยเริ่มที่ กะเพราหมู กะเพราไก่
กะเพราปลาหมึก กะเพราเป็ด กะเพราปูด้วย !!! ฮ่า ๆ
4เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อยอดขายไม่ถึง 20 จานต่อวัน
หนักเลยคราวนี้ เงินก็หมด หนี้ก็เพิ่ม
เอาไงดีกับชีวิต ได้กินกะเพราทุกวันสมใจเลยฮ่า ๆ
ก็เห็นกะเพรา 20-30บาทในช่องออนไลน์ต่อง ๆ
เอ !! เราทำแบบนั้นบ้างจะขายดีไหมวะ
ก็ไปตระเวณชิมร้านที่ใกล้ ๆ บ้าน
ก็พบว่าทุกช่องก็ถ่ายในจังหวะที่คนมันเยอะ
ช่วงเงียบมันก็มีนี่หว่า ตาย ๆ ๆ ๆ ๆๆ เราหลง
ติดกับดักอยู่ในความบันเทิงนี่เอง
แล้วความจริงคืออะไรล่ะ กลับมานั่งวิเคราะห์
ในขณะนั้นก็มีรุ่นพี่แนะนำว่า ค้าขายต้องมีครู
ผู้มากบารมีเรื่องค้าขาย ไปหาเซียนแปะสิ !!
ก็ไปนะไปด้วยความสิ้นหวังเพราะมันไม่มีทุนจะทำอะไรแล้ว
ถ้าต้องขายก็กะเพรานี่แหละ ไปถึงเงินไม่ค่อยจะมี
กินก๋วยเตี๋ยวให้อิ่มท้องแล้วค่อยไปหาท่าน
บอกความในใจทุกสิ่ง
" ผมตั้งใจขนาดนี้ท่านให้โอกาสผมหน่อย "
" และผมจะเป็นตู้กับข้าวให้กับผู้คน "
" ผมจะทำให้ร้านทานได้ตั้งแต่มีเงิน 30 บาท "
ระหว่างขับรถกลับมา คิดแค่เอาวะ
รับปากอากงแล้วว่า( ผมเรียกเซียนแปะโรงสีว่าอากง "
จะขายเริ่มต้นที่ 30 บาทและต้องดี
ผมเปลี่ยนทุกสิ่งใหม่หมด ผสมซอสด้วยวัตถุดิบที่ดี
ข้าวใช้หอมมะลิ สูตรไหนที่ว่าหุงแล้วดีลองหมด
จัดระบบร้านใหม่ต้องออกได้ไม่เกินจานละ 3 นาที
เอาเมนูเดียวก่อนถ้ารอด !!! ค่อยว่ากัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา