จิ่วฉงจื่อ (8 เล่มจบ)
จือจือ เขียน
ยูมิน แปล / สำนักพิมพ์ Princess
คนที่เคยอ่านงานของ ‘จือจือ’ คงชัดแจ้งแก่ใจว่านิยายของนักเขียนมีบุคลิกโดดเด่นสองอย่าง อย่างแรก ตัวละครเยอะมากกกกก เยอะจนจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร อย่างที่สอง เนื้อหาเหมือนเรากำลังเผือกชีวิตเพื่อนบ้าน เผือกไม่หยุด และไม่ยอมหยุดเผือก!
‘จิ่วฉงจื่อ’ เป็นนิยายจีนเล่าเรื่องในยุคโบราณ มีทั้งหมด 8 เล่ม หนาบางไม่เท่ากัน เพราะแบ่งออกตามจำนวนตอน คือมี 8 ตอน เพื่อไม่ให้ทั้งคนรีวิวและคนอ่านงง ขอเล่าเป็นตอน ๆ นะคะ
เล่ม 1 ตอน การเกิดใหม่ของสตรีสกุลโต้ว
เล่าเรื่องนางเอก-โต้วเจา คุณหนูสี่แห่งสกุลโต้วในวัยสามสิบ นางแต่งให้ เว่ยถิงอวี๋ คู่หมั้นที่หมั้นหมายกันแต่เด็ก ชีวิตแต่งงานมีแต่ภาระของนายหญิงแห่งจวน ทำให้ละเลยบุตรธิดาตัวเอง สามีไม่เคยเอาใจใส่ พี่สามีชอบเข้ามาวุ่นวายในเรือน แม่สามีหูเบา กระทั่งนางป่วยหนักเพราะตรอมใจ
โต้วเจาจำเป็นต้องแต่งงานเพื่อหนีชีวิตในบ้านซึ่งถูกแม่เลี้ยงข่มเหง น้องต่างมารดาเยาะหยัน บิดาเข้าข้างมารดาเลี้ยง ส่วนแม่ของโต้วเจาจากไปตั้งแต่นางยังเล็กเพราะเสียใจที่สามีไม่อินังขังขอบ รับอนุมาอยู่ด้วยแถมตั้งครรภ์
โต้วเจาตายไปและกลับมาเกิดใหม่ในร่างเดิมวัยสองขวบแต่จิตวิญญาณเป็นสตรีวัยสามสิบ นางได้พบหน้าท่านแม่ ได้เจอคนเก่าแก่ที่เคยจากไปและตั้งข้อสงสัยว่าทำไมทำอย่างนั้น นางคิดว่าเมื่อตัวเองได้ย้อนกลับมา น่าจะแก้ไขเหตุการณ์เหล่านั้นได้
พระเอกของโต้วเจาปรากฏชื่อตั้งแต่บทที่หนึ่ง เริ่มด้วยข่าวลือชื่อเสียงเสียหาย ‘เขาเล่าว่า’ มาเรื่อย ๆ อันนี้ก็เป็นสไตล์ของนักเขียน ถ้าอ่านมาหลายเรื่องจะเดาทางออกว่าพระเอกคือใคร
ตอนแรกก็มีญาติโกโหติกาออกมาให้เราเริ่มสับสนแล้ว นางเอกมีญาติฝั่งแม่ ฝั่งพ่อ ฝั่งมารดาเลี้ยง เรียกขานกันด้วยชื่อจริง ชื่อรอง ชื่อเล่น แถมมีลูกหลานที่เรียกกันว่า ‘ลูก...’ นำหน้าเข้าไปอีก แนะนำว่าอย่าตั้งใจจำมาก เพราะตอนต่อไปจะเริ่มงงหนักเข้าไปอีก 555555
เล่ม 2 ตอน คลื่นลมโหมซัดสาด
แม้หลายเหตุการณ์ในอดีตยังคงเกิดซ้ำกับโต้วเจาในชาตินี้ แต่สิ่งที่ได้มาเพิ่มคือสติปัญญา ความสุขุม ความละเอียดลออ การวิเคราะห์น้ำหนักของแต่ละเรื่องอย่างรอบคอบ รวมทั้งการจากไปของท่านแม่ ทำให้แม่นางน้อยโต้วเจาได้รับทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของสกุลโต้วตะวันตก (อย่าเพิ่งงงนะคะ สกุลนางเอกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง โต้วตะวันออก กับ โต้วตะวันตก ตอนแรกจะเท้าความถึงบรรพบุรุษตระกูลโต้ว การแยกสาย การรวมร่าง ฯลฯ)
ด้วยเหตุที่มีรูปโฉมงดงามแต่เยาว์ เป็นทายาทตระกูลมั่งคั่ง (ตระกูลโต้วทำมาค้าขายแต่รุ่นเทียด รุ่นทายาทก็รับราชการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น) แถมมีอัธยาศัยเป็นผู้ใหญ่ ไม่ง้องแง้งเหมือนแม่นางวัยเดียวกัน จึงดึงดูดบุรุษให้พุ่งเข้ามาเหมือนภมรตอมเกสรผึ้ง บางรายใจกล้าถึงขนาดลักพาตัวนางไป ทำให้โต้วเจาเริ่มสะสมกำลังคนของตัวเองและผู้คุ้มกันข้างกาย
เล่มนี้เริ่มมีแก๊งนางเอกทั้งชายหญิง ที่ปรึกษา แม่นางเก่งวรยุทธ์ข้างกาย สนิทสนมกับท่านย่า มารดาของพ่อโต้วเจาซึ่งเป็นอนุ และพำนักอยู่หมู่บ้านชาวนา (นางเอกมีท่านยาหลายคน อ่านไปจะจำได้เองค่ะ 555)
นอกจากนี้เริ่มมีรายชื่อบุรุษมากมายเรียงรายมาให้คนอ่านสับสน คนไหนหว่าพระเอก รวมทั้งอดีตสามีที่ยังมีสัญญาหมั้นหมายเดิม เล่มนี้โต้วเจาเริ่มคิดว่าตัวเองมีทรัพย์สินขนาดนี้ ตระกูลฝั่งพ่อฝั่งแม่ก็มีบุตรหลานยั้วเยี้ย อย่ากระนั้นเลย ชีวิตมีทางเลือกแล้ว ไม่ต้องแต่งงานกับใครเพื่อหนีชีวิตแบบชาติก่อนอีกแล้ว! (นางเอกของจือจือมักเป็นสาวมั่นเช่นนี้แล)
เล่ม 3 ตอน วัยปักปิ่นย่างใกล้ คนไกลมาก่อน
แล้วพระเอกก็มาชัด ๆ 555 เพราะตอนเจอกันนางเอกของเราถึงกับเห็นแสงสว่างวาบตรงหน้า (เปิดตัวได้สว่างไสวมาก) มาพร้อมความทรงจำในชาติก่อนที่ไม่น่าจดจำนัก เพราะลือกันว่า ซ่งโม่ ถูกบิดาขับออกจากสกุลหลังจากมารดาป่วยตาย ท้ายที่สุดจบลงด้วยการสังหารบิดาและน้องชายตายอย่างน่าเวทนา
ชาตินี้พระนางเจอกันแบบไม่ตั้งใจ พระเอกซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของจวนอิงกั๋วกงตระกูลบรรดาศักดิ์ขั้นหนึ่ง มีบรรพบุรุษเป็นโอรสบุญธรรมของโอรสสวรรค์ ย่อมมาพร้อมจิตวิญญาณเติบโตเกินวัย เจอกันตอนพระเอกอายุ 13 อ่อนกว่านางเอก 1 ปี คุณน้องก็คิดจะสังหารภรรยาในอนาคตปิดปากเสียแล้ว
อาจเป็นเพราะมีวัยเด็กมืดหม่นเหมือนกัน ชาตินี้โต้วเจาไม่อาจทนเห็นจุดจบเช่นเดิมของเขาได้อีก จึงส่งคนไปเตือน ทั้งยังมอบฟางเส้นสุดท้ายให้เขาในท้ายที่สุด มอบความทึ่ง อึ้ง ประทับใจให้ซ่งโม่ บุรุษที่ได้รับการยอมรับว่าโฉมงามอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ภายใต้ความหล่อเหลาเกินมนุษย์ แฝงความเหี้ยมโหด เจ้าแผนการ เย็นชา ฆ่าคนไม่กะพริบตา
แน่นอนว่าเราจะได้รู้จักบรรดาที่ปรึกษา แก๊งพระเอก มือซ้ายมือขวา รวมถึงญาติโกโหติกาของพระเอกที่ค่อย ๆ โผล่ออกมาให้เรางงเข้าไปอีกในเล่มนี้
เล่ม 4 ตอน ยามจันทร์เต็มดวงบุปผาแบ่งบาน
โต้วเจาใช้กลอุบายพยายามเปลี่ยนแปลงการหมั้นหมายของนางกับอดีตสามี เว่ยถิงอวี๋ โดยมีพระเอกซ่งโม่คอยสังเกตในที่ลับ แม้ยังจับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ว่าคิดอย่างไรกับแม่นางผู้นี้ แต่ทุกกลวิธีของนางก็ดึงดูดใจเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ชาติก่อนหาบุรุษมาแต่งงานสักคนยังยาก แต่ชาตินี้โต้วเจามีผู้ชายดาหน้ามาสู่ขอและให้ความสนใจมากมาย แต่ละคนมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ถ้าถามคนรีวิวคงเพราะแม่นางน้อยวัยเดียวกันแสนจะตะมุตะมิ แต่โต้วเจาเป็นสตรีวัยสามสิบในร่างเด็กสาววัยปักปิ่น ย่อมเพิ่มความสุขุมนุ่มนวลแฝงความเย้ายวนลึก ๆ พาให้หนุ่มน้อยทั้งหลายรู้สึกตื่นตาตื่นใจน่ะสิ
เล่ม 5 ตอน คลื่นโหม พายุกระหน่ำ
แต่ว่าการเป็นสาวโสดสุดรวยในตระกูลที่แบ่งออกเป็นสองฟาก ญาติชอบเสนอหน้า วางกลอุบายผลักให้นางตกสู่กับดัก รอมีส่วนในทรัพย์สินมหาศาล แถมมีลูกหลานยั้วเยี้ย อาจไม่ใช่หนทางออกที่ดีที่สุด ท่ามกลางเทียบสู่ขอและการหมายตามากมาย ซ่งโม่ ก็ใช้โอกาสนี้ขอนางแต่งงานพร้อมเสนอการอยู่ร่วมกันที่มีเป้าหมายเดียวกันให้นางเป็นทางเลือก
แน่นอนว่านางเอกของเราย่อมหวั่นไหว แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่นางรู้อนาคต เขาต้องเข้าไปพัวพันกับขั้วอำนาจและเลือดย้อมแผ่นดินเพียงใด ทำให้นางยืนกรานปฏิเสธ แต่พระเอกของเราไม่ใช่ขี้ไก่ 5555 ฉลาดแกมโกง เจ้าแผนการขนาดนั้น ไม่โอเคเหรอ งั้นก็หน้าหนาหันกลับมาใช้ลูกตื๊อก็แล้วกัน!
นั่นแหละค่ะ เขาทั้งสองก็แต่งงานกันด้วยเหตุผลสมประโยชน์สองฝ่ายที่นางเอกจำต้องยอมรับและหักล้างไม่ได้ เข้าสู่การแต่งงานในนามพร้อมบริวารพระนางที่แสนจะฮาเฮ คอยลุ้น คอยเอาใจช่วย
แต่คนอ่านอย่างเราไม่ต้องลุ้นนาน บอกแล้วว่าพระเอกไม่ใช่ธรรมดา แต่งงานไม่กี่วันก็จัดการร่วมหอได้แล้ว อุอิ ฉากนี้หวิวหวามทีเดียวเชียว และมีซีนให้เราใจเต้นเป็นระยะ
เล่ม 6 ลมวสันต์พัดผ่านม่านมุ้ง
นอกจากตระกูลนางเอกฝั่งพ่อฝั่งแม่แท้แม่เลี้ยงจะมีปมซับซ้อน ตระกูลพระเอกฝั่งพ่อฝั่งแม่ยิ่งหนักกว่า มีปริศนาซุ่มซ่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตายของท่านลุงใหญ่ พ่อแท้ ๆ ของซ่งโม่คิดแต่จะสังหารบุตรชายหรือโยนออกจากผังตระกูล การจากไปของมารดา ความไม่เอาอ่าวของน้องชาย ระหว่างค่อย ๆ สะสางคลี่คลายแต่ละปม ความสัมพันธ์แสนเกื้อกูลกันของพระนางก็ทวีความลึกซึ้ง ต่างใช้บริวารของกันและกันเหมือนเป็นคนของอีกฝ่ายได้อย่างคล่องมือคล่องปาก
ระหว่างนี้เริ่มเล่าเรื่องศึกสายเลือดในราชวงศ์ การช่วงชิงบัลลังก์ในที่ลับ พระเอกของเราเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ที่ฮ่องเต้ให้ความเมตตาสูงมาก จึงมีสายสนกลในลอบจับตาในทุกหน่วยงาน ขณะเดียวกัน เขาก็เอาอกเอาใจพ่อตา (พ่อของโต้วเจา) จนอีกฝ่ายรู้สึกสนิทใจราวลูกชายแท้ ๆ
แม้เส้นเรื่องจะค่อนข้างเคร่งเครียด แต่นักเขียนมีช่วงให้เราพักใจเป็นระยะ ด้วยบทสนทนา ลูกอ้อน ของพ่อตาลูกเขย ความน่ารักรวมใจของสามีภรรยาที่ตั้งใจใช้ชีวิตใหม่นี้ไปด้วยกันอย่างดี
เล่ม 7 นางแอ่นหยกโผสู่ครรภ์
ถ้าเล่มที่ผ่านมายังตื่นเต้นไม่พอ ขอบอกว่าเล่ม 7 ได้เฉลยความลับที่คนอ่านต้องมึนและตะลึง! ไม่เล่านะคะ ต้องไปอ่านเองไม่อย่างนั้นจะไม่ตะลึง 555555 เอาเป็นว่านางเอกของเราตามล่าตามสืบความลับว่าทำไมพ่อพระเอกถึงรังเกียจลูกชายแท้ ๆ ขนาดนั้น มีอะไรในอดีตที่ทำให้ซ่งโม่ต้องสังหารบิดากับน้องชายแท้ ๆ ในชาติก่อน
เพราะความรักหมดใจ โต้วเจาจึงเพียรปกป้องซ่งโม่ด้วยความรู้ในอดีต ความเข้าใจในอนาคต ความรักของทั้งสองผนึกแน่นไร้ช่องว่าง เพราะมีลูกชายเป็นโซ่ทองคล้องใจแล้ว
เล่ม 8 (จบ) ความฝันครั้งเก่าผันผ่าน
เล่มสุดท้ายยังคงเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ ซ่งโม่ได้อำนาจขุนนางฝ่ายบู๊เหนือผู้ใด ศึกเหนือเสือใต้ในราชวงศ์ค่อย ๆ คลี่คลาย แต่ในจวนตัวเองกลับยุ่งเหยิงวุ่นวายกว่าเดิม ตระกูลนางเอกก็ไม่น้อยหน้า แม้เหตุการณ์ในชาตินี้จะพลิกผันไปจากชาติก่อนอยู่บ้าง แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าครอบครัวของพระนาง (รวมทั้งทีมบริวารของทั้งคู่) ร่วมมือร่วมใจกันจนฟันผ่ามาได้ในท้ายที่สุด
ท่ามกลางการชิงไหวชิงพริบของแต่ละฝักฝ่าย จือจือยังสอดใส่อารมณ์ขันของคู่แค้นตลอดกาลอย่างพระเอกกับ ‘จี้หย่ง’ ญาติผู้พี่ ผู้เมินคนทั้งโลก ใส่ใจโต้วเจาคนเดียว ‘อูซ่าน’ หมายปองนางในฝัน แม้ต่างฝ่ายแต่งงานไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่ฤดูกาลเวียนมาครบรอบที่เขาได้เจอนาง ต้องไปยืนใต้ต้นการบูรหน้าจวนเพื่อระลึกถึง 55555
ไหนจะความบ้าบอของ ‘กู้อวี้’ น้องรักของพระเอก อ่านเล่มแรก ๆ ตามติดซ่งโม่ รังเกียจโต้วเจา เหมือนหนุ่มตัดแขนเสื้ออย่างไรอย่างนั้น เล่มหลัง ๆ เผยความน่าเอ็นดูจนคนอ่านยอมเลิกหมั่นไส้ มีชีวิตคู่ไม่กี่บรรทัด แต่ลึกซึ้งอ่อนหวานมาก
เล่ามายืดยาวนี้เป็นเพียงเสี้ยวส่วนของ ‘จิ่วถงจื่อ’ เท่านั้น ยังมีตัวละครอีกนับร้อยที่โลดแล่นอย่างโดดเด่น มีชีวิตชีวา ให้เราประทับจิตประทับใจ ระหว่างอ่านไปแล้วนึกไปว่าคนนี้คือใครนะ สุดท้ายแล้วเราจะบอกตัวเองว่าช่างเถอะ เดี๋ยวก็จำได้เอง 555555
มีข้อความหนึ่งบรรยายถึงความเป็นพระเอกเรื่องนี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง เราชอบมาก
ซ่งโม่ : ไม่ว่าเรื่องราวจะสาหัสสากรรจ์เพียงใด เขาก็มักก้าวไปเผชิญหน้าเสมอ ไม่เคยเคียดแค้นหรือโอดครวญ ทั้งยังมีปณิธานแข็งแกร่งยิ่งนัก ทำให้นางที่เกิดมาเป็นมนุษย์มาสองชาติและล่วงรู้อนาคตมาแล้วอดนับถือเขาไม่ได้ (เล่ม 8)
แม้จะใช้เวลาอ่านนานมากเพราะรายละเอียดเยอะเหลือเกิน แม้จะอ่านไปบ่นไปว่าเล่าอะไรนักหนา (เพราะจือจือเล่าเหมือนบันทึกประจำวัน เล่าละเอียด วันนี้ใครกินอะไร ทำอะไร เดินทางอย่างไร ไปไหน ใครนินทาใคร) บทสนทนาก็ยุบยับ แม้จะอยากเลิกอ่านในเล่มแรก ๆ แต่เราจะเลิกอ่านไม่ได้ วางไม่ลง ยังคงตามติดชีวิตชาวบ้านมากมายในเรื่องต่อไป 5555
ถ้าเป็นนักอ่านที่ชอบในรายละเอียด ชอบตัวเอกสตรีมีความเป็นผู้นำ อ่อนนอกแข็งใน รู้จักปรับตัวตามสถานการณ์ พลิกแพลงได้ ซื้อใจคนเป็น ชอบตัวเอกบุรุษแบบซ่งโม่ มีปมอดีตมืดมน พร้อมเผชิญหน้าทุกขวากหนามด้วยความแยบยล หาเหตุผล ตั้งคำถาม หาคำตอบไม่หยุดยั้งจนเจอ ชอบความญาติเยอะ ปากมาก 5555 ตัวละครมีพัฒนาการสูงและต่ำตามการกระทำ (แทรกคติทำกรรมดี ย่อมได้ดี ทำกรรมชั่ว วันหนึ่งคืนสนอง) คุณจะชอบเรื่องนี้ค่ะ
แถมท้าย คนรีวิวชอบปกทั้ง 8 เล่มมาก เป็นลายเส้นละมุนละไม ไม่เกร่อ สำนวนแปลสละสลวย ใช้ภาษาเข้าใจง่าย แม้จะเป็นหลักสอนที่ต้องอ่านอย่างละเมียด ก็ยังยินดีอ่านทุกบรรทัด มีตัวสะกดผิดบ้าง แต่ไม่ถึงกับสะดุดค่ะ
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
