5 ม.ค. เวลา 10:56 • หุ้น & เศรษฐกิจ

5 ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียต้องจับตามองในปี 2567 จาก Bloomberg

1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
แนวโน้มของเศรษฐกิจจีนยังคงมีความท้าทาย แต่ทางการจีนยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้างตามที่ตลาดคาดหวังออกมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงคาดหวังว่าธนาคารกลางจีนจะประกาศใช้นโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น แม้ว่านโยบายต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะยังไม่ค่อยส่งผลต่อตลาดมากนัก
ร่างกฎระเบียบเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมที่ออกมากะทันหันในเดือนธันวาคมได้จุดประกายความกังวลต่อตลาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดระบุว่าผู้ที่ออกร่างกฎระเบียบดังกล่าวได้ถูกไล่ออกแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจุดยืนของทางการต่อบริษัทเทคโนโลยีจีน
ภาคเซมิคอนดักเตอร์และพลังงานสะอาดอาจได้รับผลกระทบไปด้วยหากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กับฝั่งตะวันตกกลับมาอีกครั้ง
2. การกลับทิศของนโยบายการเงิน
นโยบายการเงินของ Fed ที่ผ่อนคลายมากขึ้นและเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยในเอเชีย และจะขับเคลื่อน demand ของหุ้นเอเชีย แม้ว่ารายงานการประชุม Fed ล่าสุดบ่งชี้ว่า คณะกรรมการ Fed มีมุมมอง ที่ดีต่อแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่มีสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองถึงสัญญาณจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบ นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า BOJ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเร็วที่สุดในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นอาจทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าและส่งผลกระทบต่อหุ้นส่งออกซึ่งเป็นกลุ่มหลักในดัชนีหุ้นญี่ปุ่นที่หนุนให้หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
3. ปีแห่งการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งของไต้หวันในต้นเดือนมกราคมนี้คาดว่าจะกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่อินเดียและอินโดนีเซีย นักลงทุนคาดว่านโยบายส่งเสริมการเติบโตของนายกรัฐมนตรี นเรนทระ โมที และประธานาธิบดี โจโค วิโดโด จะดำเนินต่อไป
การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติในเดือนเมษายนของเกาหลีใต้กำลังส่งผลกระทบต่อการห้ามขายชอร์ตเพื่อปกป้องนักลงทุนรายย่อย ขณะที่ ประธานาธิบดี ยูน ซุกยอล ให้คำมั่นที่จะยกเลิกภาษีกำไรจากการขายหุ้น และสัญญาว่าจะปฏิรูปรวมถึงเปลี่ยนแปลงระบบบำนาญ และป้องกันการผูกขาดตลาด
4. โมเมนตัมของอินเดีย
อินเดียยังคงเป็นประเทศที่ตลาดให้ความสนใจ แม้ว่าราคาหุ้นจะทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน
นักลงทุนทั่วโลกมีความมั่นใจต่ออินเดียจากสัญญาตั้งฐานการผลิตจำนวนมาก รวมถึงมีการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐบาล และมองว่าเป็นทางเลือกแทนจีน
พรรครัฐบาลปัจจุบันของอินเดียได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคเมื่อปลายปี 2566 และคาดว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ Jefferies LLC นักลงทุนอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับฐานครั้งใหญ่ถึง -25% หรือมากกว่านั้น หากผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามคาด
1
5. ความกังวลเรื่องชิป
ความสำเร็จของ ChatGPT กระตุ้นให้หุ้นชิปเติบโตอย่างไม่คาดคิดในปี 2566 โดย TSMC และ Samsung ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปตามสัญญาชั้นนำของโลก 2 ราย ได้รับประโยชน์อย่างมาก
ทั้งนี้ ความต้องการที่สูงขึ้นจากสหรัฐฯ และจีนจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาโมเมนตัมของ TSMC และ Samsung หลังการผลิตชิปและการจัดส่งชิปของเกาหลีเติบโตสูงสุดในรอบ หลายปีในเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์
ที่มา: Bloomberg อัปเดต ณ 4 ม.ค. 2567
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757
โฆษณา