พุทธภาษิตสะกิดใจ 38
สามัคคีหกไม่ ประเทศไทยเจริญ
สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ ให้เกิดสุข
สามัคคี ได้แก่ ความพร้อมเพรียงกัน ในการทำงาน ในการพูด ในการออกความคิดเห็น ของบุคคลทั้งหลายในกลุ่มนั้นๆ หรือหลายกลุ่มรวมกัน ซึ่งมีแนวโน้มไปในทางที่ดี ในทางสร้างสรรค์ โดยความพร้อมเพรียงกันเป็นเอกฉันท์ หรือโดยส่วนมากเป็นประมาณ
เบื้องหลังของความเป็นสามัคคีนั้น จะต้องอาศัยความที่บุคคลเหล่านั้นมีระเบียบวินัยหรือข้อบังคับเสมอเหมือนกัน และมีความเห็นเป็นอันเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น ความพร้อมเพรียงของบุคคลในหมู่คณะนั้น ก็จะบังเกิดผลเป็นความสุขความสำเร็จ
ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้จะต้องอาศัย "สามัคคีหกไม่" กล่าวคือ..
1. ไม่เห็นแก่ประโยขน์ส่วนตัวมากจนเกินไป
2. ไม่ทำตนเป็นคนเอาเปรียบต่อสังคม
3. ไม่ทำตนให้ละเมิดต่อระเบียบวินัย
4. ไม่มีทิฐิมานะ ถือว่าตนเองเท่านั้นเป็นฝ่ายถูก
5. ไม่ทำตนให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสังคม
6. ไม่ยอมแก้ไขตนเองไปในทางที่ถูกต้อง
ประชาธิปไตย จะต้องเกิดมาจากความสามัคคีของบุคคลในสังคมของแต่ละคน และในแต่ละคนนั้นจะต้องมี "หกไม่" ถ้าไม่มี หกไม่ ถึงจะมีความสามัคคี ก็เหมือนผักชีโรยหน้า เป็นความสามัคคีที่ถูกบังคับ กล่าวคือ ถ้าไม่มีกฏข้อบังคับก็จะไม่สามัคคี เช่น ถึงคราวประชุมก็จะต้องเกณฑ์กันมา เป็นต้น
ปกติของบุคคลในสังคม หรืออาจจะเรียกว่า ธรรมชาติของสังคมก็ได้ จะต้องมองดูบุคลคลส่วนใหญ่ หรือคนที่เป็นหัวหน้า ถ้าบุคคลเหล่านี้เอียงไปในทางไหนก็จะต้องเอียงไปด้วย ถ้าขืนไม่เอียงไปด้วยก็จะอยู่ในสังคมไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องย้ายไปอยู่กลุ่มใหม่หรือพรรคใหม่
เพราะฉะนั้น การสร้างความสามัคคีชนนั้น จะต้องไปสร้างที่หมู่คณะก่อน ถ้าหัวหน้าหมู่คณะชักนำไปในทางที่ดี โดยมีหกไม่ แต่ละคนก็จะดี และมีความสามัคคีต่อกัน
ในยุคปัจจุบันมีสามัคคีอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า "สามัคคีอามิส" คือ ถ้าใครมีอามิสถึงก็จะเรียกสามัคคีชนได้มาก ดังนี้....
**ข้อคิด**
1. สามัคคีสังคม สั่งสมสบาย ถ้าสามัคคีทางชั่ว จะหมกมั่ววุ่นวาย
2. สามัคคีมีสบาย แตกสามัคคีจะวุ่นวาย ถ้าปล่อยให้ระบาด ประเทศชาติจะเสียหาย
โอวาทธรรม พระเทพรัตนกวี
วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง เพชรบูรณ์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
