7 ม.ค. เวลา 15:03 • ไลฟ์สไตล์

การมีชีวิตอยู่ จำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งกับอะไรบางอย่างหรือเปล่า?

เราคิดมาตลอดว่า การมีชีวิตคือการได้เรียนรู้
ในแต่ละช่วงชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าโอกาสและสิ่งแวดล้อมจะพัดพาเราไปไหน
ในวัย 24 กำลังจะก้าวเขัาเบญจเพศนี้ โลกได้มอบโอกาสที่เราเลือกเอง พัดพาไปหลายสถานที่
ให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต นอกเหนือจากที่ที่เรียกว่า “บ้าน” แต่กำเนิด
เราคิดมาเสมอว่า การที่เราได้พาตัวเองไปในสถานที่ใหม่ๆ
ทำให้เราได้พบประสบการณ์ใหม่แบบกัาวกระโดดที่สุด
และในระหว่างทางเราก็มองหา “บ้าน” แห่งใหม่อยู่เสมอ
บ้านที่เหมาะสมกับความเป็นเราที่สุด
ความเป็นเราเองก็เปลี่ยนแปลงได้ในทุกช่วงชีวิต
ดังนั้นเราเองก้คิดว่าสามารถย้าย “บ้าน” ไปเรื่ิิอยๆได้เหมือนกัน
แต่ปัญหาที่เราขบคิดมาตลอดตั้งแต่ระลึกได้ว่า
ความหมายของบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิด
คือจริงๆแล้วเราไม่เคยพบบ้านที่ไหนเลย
ไม่เคยรู้สึกว่าสถานที่ สิ่งของ หรือผู้คนไหน สามารถเป็นบ้านให้เราได้เลย
ผ่านอะไรมามากมาย ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของอะไรมาก่อน
เหมือนวัตถุที่ล่องลอยไปเรื่อย ๆ ได้แต่สังเกตการณ์อยู่นอกวง
พอคิดได้อย่างนี้จึงพบว่า ชีวิตเราโดดเดี่ยวกว่าที่คิดแฮะ
ว่าแต่ ชีวิตมันจำเป้นต้องหาทีทยึดติดขนาดนั้นเลยหรอ?
เราเคยชินกับการพยายามเอาตัวเองไปผูกตืดกับอะไรบางอย่าง
แต่มันไม่เคยสำเร็จสักครั้ง แต่เราก๋พยายามต่อไป
จนเป็นทุกข์เอง ทรมานตัวเองมาตลอด
อยากมีสักครั้งในชีวิตที่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องเอาตัวเองไปยึดติดกับอะไรเลย
หรือคิดได้ว่าเราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของอะไรเลย
ไม่รู้ว่าทั้งหมดมันต้องเริ่มจากการรักตัวเองให้เป็น ให่ได้ก่อนหรือเปล่า
ชีวิตที่ไม่เคยรู้ว่าการรักตัวเองต้องทำอย่างไร ต้องเริ่มจากตรงไหน
ที่เขาบอกว่าถ้าเราอยากรักคนอื่นเป็น ต้องเริ่มรักตัวเองให้ได้ก่อน
แบบนี้แสดงว่าที่ผ่านมาเรารักคนรอบข้างผิดวิธีมาตลอดหรือเปล่า
หรือนี่เป็นเหตุผลที่คนที่เรามอบความรักให้ ไม่เคยรับรู้หรือเห็นค่ามันอย่างแท้จริงเลย
เรายึดติดกับการคิดว่าคุณค่าของตัวเองจะมีผลก็ต่อเมื่อคนอื่นยอมรับก่อน
เราจะทำไงให้ตัวเองยอมรับและศรัทธาในตัวเองได้ก่อนกันนะ
ชีวิตในอุดมคติแบบนั้น เราจะสร้างมันขึ้นมาได้ไหม
โฆษณา