รู้จัก AbbVie (ABBV) บริษัทยาใหญ่อันดับ 4 ของโลก ที่มีอายุเพียง 11 ปี
💊 AbbVie เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทมากเป็นอันดับ 4 ของโลก มูลค่า 9.4 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2566 บริษัทนี้เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2555 ปัจจุบันมีอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น
📊โดยสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ ประกอบไปด้วย
ยารักษาอาการระบบภูมิคุ้มกัน 48 %
ยารักษาอาการทางระบบประสาท 14 %
ยารักษามะเร็ง 11 %
ยาที่เกี่ยวข้องกับความงาม 10 %
ยารักษาดวงตา 5 %
อื่น ๆ 12 %
🎖️Top 3 ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ในช่วง 9 เดือนแรก ของปี 2566
1.ยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ Humira (Adalimumab) สัดส่วน 28 % ของรายได้ทั้งหมด
2.ยารักษาโรคสะเก็ดเงิน Skyrizi (Rizankizumab) สัดส่วน 13 % ของรายได้
3.สารเสริมความงามและรักษาอาการระบบประสาท Botulinum Toxin สัดส่วน 10 % ของรายได้
ที่มา : investors.abbvie.com, ข้อมูล ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2566
🧬 บริษัท Abbvie เพิ่งก่อตั้งในปี 2555 โดยแยกออกมาจากบริษัท Abbott ผู้นำเครื่องมือแพทย์สัญชาติอเมริกัน โดยคำว่า Abb มาจากชื่อบริษัทแม่คือ Abbott ส่วน Vie มาจากภาษาละติน ที่แปลว่าชีวิต
เพื่อสื่อว่าบริษัทนี้มุ่งเน้นในการพัฒนายาจากสิ่งมีชีวิต หรือไบโอเทคโนโลยี AbbVie จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กในปี 2556 และเติบโตอย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทอันดับ 4 ของโลก
📈 การเติบโตในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (2561 - 2565)
รายได้ เติบโตเฉลี่ยปีละ 16.5 %
กำไร เติบโตเฉลี่ยปีละ 51.1 %
มูลค่าบริษัท เติบโตเฉลี่ยปีละ 15 %
💸 อัตราการเติบโตของเงินปันผล เฉลี่ยปีละ 15.8 %
✳️หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างการเติบโตของ AbbVie คือ การซื้อกิจการบริษัทยาไบโอเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อมาเสริมในการต่อยอดวิจัยและพัฒนายาชีวภาพ โดยตัวอย่างการซื้อกิจการที่โดดเด่น ประกอบไปด้วย
🦠 ปี 2558 ซื้อแผนกยามะเร็ง ของบริษัท Pharmacyclics
Pharmacyclics เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นในการพัฒนายาชีวภาพเพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยมียาที่โดดเด่น คือ
ยา Imbruvica (Ibrutinib) เป็นยารักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนราว 7 % ของรายได้ AbbVie ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566
💆 ปี 2562 ซื้อบริษัท Allergan
Allergan เป็นบริษัทยาสัญชาติอเมริกัน - ไอร์แลนด์ ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ยารักษาดวงตา และยารักษาโรคทางระบบประสาท โดยมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ Botulinum toxin
ซึ่ง Botulinum Toxin และกลุ่มสารเสริมความงาม สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนราว 16 % ของรายได้ Abbvie ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566
🦠เดือนพฤศจิกายน ปี 2566 ซื้อบริษัท Immunogen
บริษัทยาอเมริกัน ที่มุ่งเน้นในการพัฒนายาชีวภาพเพื่อรักษาโรคมะเร็ง โดยมียาที่โดดเด่น คือยา Elahere (Mirvetuximab soravtansine) เป็นยารักษามะเร็งรังไข่
🧠เดือนธันวาคม ปี 2566 ซื้อบริษัท Cerevel Therapeutics
บริษัทยาอเมริกัน ที่เชี่ยวชาญการพัฒนายารักษาอาการทางระบบประสาท โดยเฉพาะยารักษาโรคพาร์กินสัน และยารักษาโรคจิตเภท
📈 การซื้อบริษัทใหม่ ๆ นับเป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของรายได้จากยารักษามะเร็ง และยารักษาอาการทางระบบประสาท ซึ่ง AbbVie เป็นหนึ่งในบริษัทยาที่มีกระแสเงินสดอิสระ หรือ Free Cash Flow มากที่สุด
💸โดยจากข้อมูลถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 AbbVie มีกระแสเงินสดอิสระอยู่ถึง 24,729 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งจำนวนนี้มากกว่า กระแสเงินสดอิสระของบริษัทยาที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอย่าง Eli Lilly ที่มีอยู่เพียง 1,374 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
💸กระแสเงินสดอิสระ คือกระแสเงินสดที่คงเหลือ หลังจากที่บริษัทนั้นได้ใช้จ่ายไปกับทุกกิจกรรมในการทำธุรกิจ ซึ่งรวมถึงเงินที่ใช้ลงทุนไปในธุรกิจด้วย ดังนั้นถ้าบริษัทมีกระแสเงินสดอิสระ มีมูลค่าเป็นบวก ต่อเนื่องกันหลายปี แปลว่าบริษัทนั้นมีสุขภาพทางการเงินที่ดี
💊ก็เป็นที่น่าติดตามว่าบริษัท AbbVie จะเติบโตอย่างไรต่อไป แต่สำหรับความเสี่ยงของบริษัทยา สิ่งที่น่าติดตามก็คือ ผลข้างเคียงที่เกิดจากยา ถึงแม้ยาจะได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯแล้ว แต่ก็ยังคงมีการติดตามผลข้างเคียงจากยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง ย่อมส่งผลให้การจำหน่ายยามีปัญหา และกระทบกับรายได้ของบริษัทได้..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2566
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance
Twitter - https://twitter.com/dimefinance
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance
LINE - https://lin.ee/4W7j4nG
Blockdit - https://www.blockdit.com/dime.finance
#การเงิน #การลงทุน #กองทุน #ตราสารหนี้ #หุ้นอเมริกา #ไดม์ #Dime #Dimeออมได้ลงทุนดี
-----
- 46
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
